การกระทำป่าเถื่อน!! เปิดคลิปสองหนุ่ม โดนกลุ่มชายไม่ทราบชื่อ รุมยำเลือดอาบในเซเว่น เหตุไม่พอใจที่มองเพราะมองหน้า

     เมื่อ 13 พฤศจิกายน 60 สังคมออนไลน์แห่แชร์คลิป จากเฟซบุ๊ค เพจ “Online News CM/ออนไลน์ นิวส์ เชียงใหม่ เป็นภาพจากล้องวงจรปิดของร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่น สาขาข้างเทศบาลตำบลริมเหนือ อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ระบุว่าเหตุเกิดเมื่อ 00.10 น.วันที่ 12 พฤศจิกายน 60 ที่ผ่านมา โดยมีกลุ่มวัยรุ่นชายหลายคนขับขี่รถจักรยานยนต์มาจอดหน้าร้านดังกล่าว ก่อนที่จะลงจากรถมาและเดินเข้าไปในร้าน จากนั้นได้ปรี่เข้าชกกับชายวัยรุ่นอีกคนที่ไปซื้อของและกำลังจะเดินออกร้าน จนเกิดการชุลมุนกันขึ้นสักพัก จากนั้นเมื่อกลุ่มวัยรุ่นกวนเมืองผละจากชายคนดังกล่าว  ก็ได้พากันเดินออกจากร้าน และตรงเข้าไปเตะเสยหน้าของชายอีกคนที่กำลังนั่งรอเพื่อนอยู่ด้านหน้าร้านจนได้รับบาดเจ็บ มีเลือดกระจายตกเป็นจุดๆ ก่อนที่กลุ่มวัยรุ่นจะได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ต่อมาเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ช่วยกันนำตัวชายที่ถูกเตะด้านหน้าร้าน ที่บาดเจ็บมากกว่า นำตัวส่งไปรักษาที่โรงพยาบาลนครพิงค์  ซึ่งภาพเหตุการณ์ดังกล่าวโลกโซเชียล ได้มีการประณามการกระทำเป็นอย่างมากว่าเป็นหมาหมู่ ทำร้ายคนอื่น

     ขณะที่ผู้บาดเจ็บทั้ง 2 คน อายุ 22 ปี และ 31 ปี เป็นชาว อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ (ไม่ขอเปิดแผยรายชื่อ) ได้เผยว่า วันเกิดเหตุพวกตนทั้งสองคน ได้ไปทานข้าวที่ร้านอาหารซึ่งอยู่ใกล้ๆ  พอกินเสร็จก็กลับมาที่ร้านเซเว่นเพื่อที่จะเติมเงินโทรศัพท์  เมื่อเติมเสร็จและกำลังจะเดินออกประตูของร้าน จู่ๆก็มีกลุ่มวัยรุ่นหลายคนปราดเข้ามาแล้วหาว่าไปมองหน้า จากนั้นได้ชกต่อยจนล้มลุกคลุกคลาน ทั้งๆที่ไม่เคยมีเรื่องกันมาก่อน และยังขู่ว่าจะยิงตนด้วย จากนั้นยังออกไปทำร้ายเพื่อนอีกคนที่กำลังนั่งรอที่บันไดหน้าร้านจนเลือดกระเด็นได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า แล้วก็หลบหนีไป  ซึ่งพวกตนก็ยังงงอยู่ว่าไปมองหน้าตอนไหน เพราะเพิ่งไปทานข้าวมาหยกๆ โดยได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันที่ สภ.แม่ริม เชียงใหม่ และนำคลิปไปมอบให้กับทางตำรวจ เพื่อสืบสวนหาตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษ

     ขณะที่วันนี้ ทางด้าน พ.ต.ท.มนัสชัย อินทร์เถื่อน รอง ผกก.สส.สภ.แม่ริม เชียงใหม่ เปิดเผยว่า ภาพในคลิปเป็นเพียงบางส่วนที่เกิดขึ้นเท่านั้น หลังเกิดเหตุทีมสืบสวนได้ออกสืบสวนติดตาม ซึ่งขณะนี้มีความคืบหน้า โดยรู้ตัวกลุ่มผู้กระทำผิดแล้ว  2 คน เป็นคนในพื้นที่ อ.แม่ริม และมีประวัติการกระทำผิดโดยถูกจับกุมคดียาเสพติดมาแล้ว ส่วนคนอื่นๆที่เหลือไม่ยากที่จะติดตาม ทั้งนี้ทางตำรวจจะรีบดำเนินการติดตามตัวมาดำเนินคดีโดยเร็วที่สุด ซึ่งขณะนี้พนักงานสอบสวนตั้งข้อหาตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คือทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจจากแพทย์หากมีอาการสาหัสก็จะแจ้งข้อหาเพิ่ม.

ภาพ/ข่าว นพนิวัตร์ ไกรฤกษ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.เชียงใหม่