ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

ผู้ว่าฯ นราธิวาส นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ และประชาชนชาวนราธิวาส ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ เนื่องในวัน “พระบิดาแห่งฝนหลวง” 14 พฤศจิกายน

 

วันนี้ (14 พ.ย.60) นายสุรพร พร้อมมูล ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มดอกไม้สดเนื่องในวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ที่หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ 7 รอบ พระชนมพรรษา ศาลากลางจังหวัด อำเภอเมืองนราธิวาส เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ แด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันพระบิดาแห่งฝนหลวง” ประจำปี 2560 พร้อมกล่าวว่า ในโอกาสวันพระบิดาแห่งฝนหลวง ได้เวียนมาบรรจบครบรอบ 62 ปี ในวันนี้ (14 พ.ย.60) ได้นำข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานราชการต่าง ๆ และประชาชนชาวนราธิวาส ร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ และขอตั้งปณิธานน้อมนำแนวพระราชดำริที่พระราชทานไว้ไปปฏิบัติ

 

ผู้ว่าฯนราธิวาส นำข้าราชการ จนท.หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนชาวร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ เนื่องในวัน พระบิดาแห่งฝนหลวง

 

 

 

 

ซึ่งในส่วนของจังหวัดนราธิวาส ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงมิถุนายนของทุกปี จะประสบปัญหาไฟไหม้ในพื้นที่บริเวณป่าพรุโต๊ะแดง และป่าพรุบาเจาะ สาเหตุเกิดจากธรรมชาติและการเผาป่าในที่โล่ง เป็นต้น ทำให้เกิดความเสียหายต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงผลผลิตทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก ทางจังหวัดได้ขอรับการสนับสนุนปฏิบัติการฝนหลวงจากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ กองบิน 7 อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อเติมน้ำในพื้นที่ป่าพรุ สร้างความชุ่มชื้นให้กับระบบนิเวศน์ของป่าพรุ และแก้ปัญหาฝนทิ้งช่วงที่ส่งผลกระทบต่อผลผลิตทางการเกษตร ซึ่งตั้งแต่ปี 2557 เป็นต้นมา มีการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในพื้นที่ป่าพรุโต๊ะแดง ป่าพรุบาเจาะ และพื้นที่การเกษตร จำนวน 5 ครั้ง มีฝนตกรวม 59 วัน

ผู้ว่าฯนราธิวาส นำข้าราชการ จนท.หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนชาวร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ เนื่องในวัน พระบิดาแห่งฝนหลวง

ด้านนายสมศักดิ์ นามตาปี เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ฝนหลวงเป็นโครงการพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในขณะที่เสด็จเยี่ยมประชาชนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2498 ได้ทรงพบเห็นความทุกข์ยากเดือดร้อนของประชาชน อันเนื่องมาจากความผันแปรไม่แน่นอนของฝนธรรมชาติ ทรงวิเคราะห์ว่า เมื่อมีฝนก็มีมากเกินพอจนเกิดปัญหาน้ำท่วม เมื่อหมดฝนก็เกิดปัญหาภัยแล้งตามมา นี้จึงเป็นสาเหตุหนึ่งของความยากจนของประชาชน ทรงมีพระราชดำริที่จะนำความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการบังคับเมฆให้เกิดเป็นฝนจนเกิดเป็นเทคโนโลยีฝนหลวง ทั้งนี้คณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 20 สิงหาคม 2545 จึงมีมติเทิดพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ถวายพระราชสมัญญา “พระบิดาแห่งฝนหลวง” และกำหนดให้วันที่ 14 พฤศจิกายน ของทุกปี เป็นวันพระบิดาแห่งฝนผลว

ผู้ว่าฯนราธิวาส นำข้าราชการ จนท.หน่วยงานราชการต่างๆ และประชาชนชาวร่วมวางพานพุ่มดอกไม้สดถวายราชสักการะ เนื่องในวัน พระบิดาแห่งฝนหลวง

ภาพ/ข่าว โสรยา สาเรป ผู้สื่อข่าวภุมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์