อนาคต วุฒิศักดิ์ คลีนิค

 

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2560 บมจ.อี ฟอร์ แอล เอม (EFORL) ในฐานะผู้ถือหุ้นทางอ้อมของบริษัท วุฒิศักดิ์ คลีนิก อินเตอร์ กรุ๊ป จำกัด (WCIG) แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยว่า WCIG และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท WCIG ได้รับหมายเรียกของศาลแขวงนนทบุรีและสำเนาคำฟ้องของบุคคลหนึ่งในฐานะเป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง WCIG เป็นจำเลยที่ 1 และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท WCIG ทั้ง 4 คน เป็นจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 5 รวม 5 คน โดยโจทก์ฟ้องเป็นคดีอาญา หมายเลขดำที่ อ.3382/2560 ข้อหาหรือฐานความผิด ร่วมกันยักยอกทรัพย์ ศาลนัดไต่สวนมูลฟ้อง วันที่ 16 มกราคม 2561 เวลา 13.30 น.
 

โดยสรุปสาระสำคัญของคำฟ้องโจทก์ เป็นดังนี้ โจทก์กล่าวอ้างว่าโจทก์ส่งมอบทรัพย์สินซึ่งเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้สำหรับการให้บริการความงามตามสิทธิในสัญญาแฟรนไชส์ให้แก่ WCIG และกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันบริษัท WCIG เพื่อให้ทำการซ่อมบำรุง และกล่าวอ้างว่า WCIG ไม่ได้จัดการซ่อมแซมและไม่ส่งมอบเครื่องมือทางการแพทย์คืนแก่โจทก์ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย

อย่างไรก็ตาม ข้อกล่าวอ้างตามคำฟ้องดังกล่าว ฝ่ายบริหารของ WCIG ยืนยันว่า WCIG และกรรมการผู้มีอำนาจซึ่งถูกฟ้องร้อง มิได้มีเจตนาทุจริตมิได้เบียดบังยักยอกทรัพย์ตามข้อกล่าวอ้างของโจทก์แต่อย่างใด และเชื่อว่า WCIG ในฐานะจำเลยที่ 1 และกรรมการผู้อำนาจลงนามแทน WCIG ทั้ง 4 คน มิได้กระทำความผิดและไม่ต้องรับผิดทางอาญาตามข้อกล่าวอ้างของโจทก์แต่ประการใด ขณะนี้ WCIG อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานเอกสารและพยานบุคคล และแต่งตั้งทนายความเข้าต่อสู้คดี ตามกระบวนการยุติธรรมตามกฎหมายต่อไป
ขณะที่ วันที่ 16/11/60 เวลาราว 11.00  น. ราคาหุ้นในกระดานของ EFORL อยู่ราว 8-9 สตางค์  ซึ่งเคยขึ้นไปสูงสุดที่ 1.94 บาท 

10 กว่าปีที่แล้ว คงไม่มีใครไม่รู้จัก วุฒิศักดิ์คลีนิค ร้านเสริมความงามที่เลื่องชื่อ เพราะใช้หมอ มาเป็นผู้รักษา พร้อมกับขายผลิตภัณฑ์บำรุงความงามและรักษาสิว รักษาฝ้า อันเลื่องชื่อ จนเหมือน ยาผีหมอ แพทย์ที่ยี้แต่ละคนจึงเหมือน หมอเทวดา มาบำรุงรักษาหน้าที่นี้ เดินออกไปแล้วสวยจริง 

กลยุทธ ปากต่อปาก จึงทำให้ วุฒิศักดิ์คลีนิค ดังเป็นพลุ เร่งขยายสาขามากมาย ดักทุกทำเล ทั้งตามห้างสรรพสินค้าและตามห้องแถว
แต่ในขณะเดียวกันก็กลายเป็นตัวอย่างให้ คลีนิคเสริมความงาม รายอื่นเดินตาม ในเมื่อ เธอทำได้ ฉันก็ทำได้ เพราะส่วนแบ่งการตลาดมันมีมหาศาล ขึ้นกับว่า ใครมือยาวสาวได้สาวเอา
Richman can do ก็ไม่รู้ว่า สิ่งเหล่านี้ได้กลายเป็นปัจจัยให้ ปี 2557  บมจ.อีฟอร์แอล EFORL ตัดสินใจเข้าไปซื้อกิจการ วุฒิศักดิ์ คลีนิค ด้วยเงิน 4,500 ล้านบาทหรือไม่ ทั้งที่ไม่ได้มีเงินในหน้าตักมากมายขนาดนั้น จึงกู้เงินจากธนาคารมากว่า 3,000 ล้านบาท ผ่านทั้งบริษัทตัวเอง และบริษัทลูกชื่อ WCIH และเอา WCIH มาถือวุฒิศักดิ์อีกที ตอนนั้น EFORL ตั้งใจจะให้ วุฒิศักดิ์ IPO เข้าตลาดหุ้น และหวังเอาเงินที่ได้จาก IPO มาใช้หนี้ที่ไปกู้มา

ผู้บริหาร EFORL คงไม่ได้มองอีกมุมว่า  สภาพตลาดคลีนิคเสริมความงามแข่งขันแรงมาก มาจนถึงทุกวันนี้  แข่งกันเปิดสาขา และในที่สุดก็ตัดราคากันเอง เพราะตลาดกลายเป็นของผู้ซื้อ ที่เลือกและต่อรองราคาได้จะใช้บริการกับเจ้าได้ 

นอกจากนั้นพฤติกรรมลูกค้า มักไม่ชอบอยู่กับ เจ้าใดเจ้าหนึ่งประจำ จะเปลี่ยนไปเรื่อย ตามคำแนะนำ 
EFORL จึงกลายเป็นเทวดา ตกสวรรค์  

มาดูผลประกอบการ งวดไตรมาส 3 ปี 2560  ของบจ.และรวมของบริษัทย่อย  ขาดทุนกว่า   37,417,000 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ขาดทุนกว่า 137,387.000 ล้านบาท 
ในไตรมาสที่ 2 EFORL ขาดทุน 133 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วอีก 10%
ในงวดครึ่งปีแรก EFORL ขาดทุน 247 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มจากช่วงเดียวกันปีที่แล้วอีก 32%
สำหรับงวดครึ่งปีแรกนั้น วุฒิศักดิ์คลินิก มีรายได้ 720 ล้านบาท ลดลง 17% จากปีก่อน เป็นกำไรขั้นต้น -45 ล้านบาท หรือคือ ยอดขายหลังหักต้นทุนขายแล้ว ขาดทุนไป 45 ล้านบาท ซึ่งหมายความว่า ขาดทุน ตั้งแต่ยังไม่ได้หักค่าใช้จ่ายอื่นๆ รวมไปถึงดอกเบี้ยเงินกู้
นอกจากนั้นบริษัทขาดสภาพคล่องอย่างมาก จนผิดนัดชำระหนี้ตั๋วแลกเงินกับกองทุนของ บลจ. โซลาริส ทำให้เกิดเป็นคดีฟ้องร้อง 2 คดี จำนวนทุนทรัพย์รวมกว่า 250 ล้านบาท 
ในปัจจุบัน บริษัท EFORL มีภาระหนี้สินมากมาย โดย ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2560 รวมแล้วบริษัทมีหนี้เงินกู้ประมาณ 2,000 ล้านบาท

และล่าสุด EFORL ตัดสินใจลดสัดส่วนการถือหุ้นในบริษัท WCIH จาก 50.17% เป็น 33.45% รวมถึงแผนที่จะให้ วุฒิศักดิ์คลินิก เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องเลื่อนออกไปก่อน เนื่องจากต้องรอการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นใหม่

บนเส้นทางเดินของ EFORL ที่มองหาแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ได้ยาก ขณะเดียวกัน แมงเม่า มากมายก็น้ำตาเป็นสายเลือดท่วมหน้า Richman can do อยากจะฝากข้อคิดให้ผู้บรีหารบริษัทจดทะเบียนทุกรายว่า  คิดจะทำอะไร ให้ใครถึงรายย่อยด้วย  แมงเม่าก็คือผู้ถือหุ้น เข้ามาลงทุนก็หวังกำไร  อกเค้าอกเรา ไม่ได้ต่างกันเลย  

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สถานเสริมความงามไม่ยอมบอก!!! เผย 13 ความลับการที่สาวๆไม่เคยรู้ ใครเป็นสิว ผิวแพ้ง่าย หน้าแหก หน้าพัง แก้ได้ ไม่ต้องใช้เงินสักบาท อย่ารอช้า!!

- หมัดเด็ดน็อคไฝ-ขี้แมลงวัน!!! เคล็ดลับเด็ดที่สถานเสริมความงามไม่มีวันบอก กำจัดขี้แมลงวัน-ไฝ ง่ายๆ ยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือ ใช้งบแค่ไม่เกิน 20 บาท