จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

บทความนี้ผู้เขียนจะพาท่านผู้ชมมารู้จัก!!” เครื่องรางอาถรรพ์ ของขลังของแปลกประจำชาติไทย”
(ตอน: งากำจัด-งาช้างน้ำ-คด-กระดูกงูเหลือมและ เคงเป็นเหล็ก)กันต่อจากบทความที่แล้วค่ะ.. ว่าจะมีอาถรรพ์ความขลังอย่างไรบ้าง…ซึ่งบทความนี้เป็นตอนสุดท้ายแล้วนะคะท่านผู้ชมสำหรับเรื่อง…
 “เครื่องรางอาถรรพ์ ของขลังของแปลกประจำชาติไทย “เชิญรับชมได้ดังต่อไปนี้ค่ะ

1.งากำจัด

เป็นวัตถุอาถรรพ์ที่ได้ยินกันบ่อยๆ แต่เป็นของที่หายากมากๆ งากำจัดนี้ หมายถึง งาช้างที่หักคาต้นไม้ เป็นงาชองช้างตกมัน หรือช้างเกเร อารมณ์ร้ายและมีฤทธิ์เดชมาก งาช้างที่แตกหักออกมาในขณะที่ช้างยังมีชีวิตอยู่เป็นเรื่องที่เกิดได้ยาก โบราณท่านจึงถือว่าเป็นของศักดิ์สิทธ์ จะพบเห็นได้ต่อเมื่อช้างตกมัน ไล่อาละวาดแล้วเอางาแทงกับต้นไม้ด้วยอารมณ์ฉุนเฉียวขณะกำลังตกมัน  ส่วนบริเวณปลายงาจะหักคาอยู่กับต้นไม้..ซึ่งแต่ละชิ้นก็ไม่ใหญ่มากนัก...จะมีรุกขเทดารักษาไว้เพื่อมอบให้แก่ผู้มีบุญ ต้องทำพิธีจุดธูปบวงสรวงบอกกล่าวก่อนจึงจะสามารถแกะงาออกจากเปลือกไม้ได้...

เชื่อกันว่ามันมีอิทธิฤทธิ์มีอำนาจ ที่จะป้องกันได้ในทุกทาง แต่ต้องระวังให้ดี เพราะของปลอมมีมาก จนหาของจริงไม่เจอ ส่วนใหญ่แล้วหากได้งาจำกัดมาคนก็มักจะนำไปให้อาจารย์ ที่มีวิชาอาคมขลัง แกะเป็นเครื่องรางของขลัง นิยม นำมาทำด้ามมีดหมอ....

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

2.งาช้างน้ำ

มีลักษณะคล้ายเขี้ยวเสือแต่เล็กกว่า ไม่ใช่งาช้างน้ำในเทพนิยาย หรือฮิปโปโปเตมัส เป็นสัตว์น้ำชนิดหนึ่งอาศัยอยู่ในทะเลทางฝั่งตะวันตกของประเทศไทย ในอดีตผู้คนมีน้อย พวกชาวน้ำใช้หยวกกล้วยไปวางไว้ริมฝั่งในฤดูที่ช้างน้ำคึกคะนองมาพบหยวกกล้วยจะแทงทันที เพราะแทงแล้วไม่เจ็บปวดเหมือนแทงหินหรือพวกปะการัง บางครั้งงาจะหักหรือหลุดติดหยวกอยู่ ชาวน้ำจะได้งาช้างน้ำด้วยวิธีนี้ จึงนำมาเป็นเครื่องรางป้องกันปลาร้าย เช่น ปลาฉลาม โดยเฉพาะใครมีงาช้างน้ำ ช้างป่ากลัวมาก หมอจับช้างจะมีงาช้างน้ำเป็นส่วนมาก....

ตามตำนานว่ากันว่า ....

ช้างน้ำนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์แห่งตำนานป่าหิมพานต์เฉกเช่นเดียวกันกับ
มักกะลีผล ซึ่งอยู่อีกมิติหนึ่งที่ซ้อนกันอยู่กับโลกมนุษย์ หรือจะเรียกว่าแดนสนธยา ก็ย่อมได้ อันเรื่องราวเกี่ยวกับป่าหิมพานต์นั้นแม้แต่ในพระไตรปิฎกของพุทธศาสนาเราก็ ยังกล่าวถึง ถือเป็นการยืนยันอย่างแจ้งชัด อีกทั้งพระป่าสายกรรมฐานที่ท่านได้ ญาณทิพยจักษุหลายรูปก็ยืนยันว่ามีจริงๆ จึงมิใช่เรื่องแปลกอะไรที่นักเล่นของทนสิทธิ์ ตั้งแต่อดีตโบราณกาลมาจนถึงในปัจจุบันได้กล่าวถึงความวิเศษเลิศล้ำของงาช้างน้ำอัน มีการได้มาแบบลี้ลับพิสดาร เป็นเรื่องของบุญวาสนาที่เกี่ยวพันกันมาแต่ปางก่อน อันช้างน้ำนั้นมีลักษณะเหมือนช้างย่อส่วน หรือช้างจิ๋วเกิดอยู่ในป่าหิมพานต์ ผู้ที่จะมีโอกาสได้พบเห็นตัวจริงด้วยตาเนื้อนั้น ต้องเป็นผู้ที่มั่นคงในศีล มีบุญฤทธิ์ สูงส่งเขาถึงจะมาปรากฏตัวให้เห็นยังดินแดนมนุษย์ พร้อมทั้งสลัดงาข้างใดข้างหนึ่ง มอบไว้ให้ ส่วนใหญ่ที่มาปรากฏตัวให้เห็นนั้นมักจะเป็นบริเวณป่าลึกที่เต็มไปด้วย อาถรรพ์ต่างๆ และห่างไกลจากผู้คนมาก

ผู้ที่มีสัมผัสพิเศษสามารถสื่อจิตติดต่อกับช้างน้ำได้ เล่าว่า ช้างน้ำในดินแดน หิมพานต์มีอยู่ 3 ขนาดคือ ขนาดเล็กจิ๋ว ขนาดกลาง ขนาดใหญ่ แต่ทั้งหมดนี้จะมีขนาดต่างกันไม่มาก แต่โดยรวมแล้วจะมีขนาดใหญ่ยาวไม่เกิน 6 นิ้วฟุตไม้บรรทัด งาช้างในป่าหิมพานต์นั้นจะแตกต่างกับงาช้างในเมืองมนุษย์พอสมควรทีเดียว มีสีขาว และขาวอมเหลืองเหมือนกัน แต่ถ้าสังเกตดูให้ดีๆจะเห็นว่ามีแค่ส่วนคล้าย คลึงกัน แต่ไม่เหมือนกันทั้งหมด ดังนั้นจุดสำคัญในการดูว่าเป็นงาช้างน้ำจากป่าหิมพานต์แท้หรือเทียมจึงอยู่ตรงนี้ กล่าวคือหากชิ้นไหนมีลักษณะเหมือนงาช้างในเมือง มนุษย์เป็นอย่างมาก ขอให้ตั้งข้อสังเกตเอาไว้ก่อนได้เลย คือยิ่งเหมือนมากเท่าไรยิ่งไม่ใช่

เนื่องจากได้มีผู้นำงาช้างมาเหลาให้มีขนาดเล็ก พยายามแต่งให้ดูเก่า อบด้วย ความร้อนเพื่อให้มีรอยรานซึ่งมีการทำปลอมสารพัดวิธีมานานหลายสิบปีแล้ว ซ้ำร้าย ยังกุเรื่องขึ้นมาว่าช้างน้ำเป็นสัตว์โบราณที่สูญพันธุ์ไปแล้ว เหตุเพราะว่างาช้างน้ำของแท้ๆนั้นราคาสูงอยู่ที่หลักล้าน ส่วนจะกี่ล้านนั้นอยู่ที่การตกลงกันระหว่างผู้ซื้อผู้ขาย ส่วนของปลอมที่ทำออกมาให้เห็นนั้นจะมีราคาขายอยู่ที่ไม่เกินหลักหมื่นต้นๆเท่านั้นเอง....

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

3.คด
ยอดคงกระพัน ในส่วนของพืช เครื่องรางของขลัง ที่มีผู้นิยมกันมากๆคือ คด มีลักษณะเหมือนหิน เช่นคดขนุน และคดมะพร้าว ที่มีผู้ต้องการมากคือ คดขนุนที่กลายเป็นหินซึ่งจะให้คุณทั้งด้านความคงกระพัน แคล้วคลาด และเมตตามหานิยม ปัจจุบันมีผู้ทำของปลอมออกมาโดยเอาหิน เอากรวดสวยๆ มาเจียระไน ตบแต่งเป็นคด หลอกขายกัน....

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

4.เคงเป็นเหล็ก
เป็นรังปลวกชนิดหนึ่ง อยู่ตามต้นไม้ เช่น ต้นมะพร้าว ตัวเล็กกว่าปลวกธรรมดา ก้นสีเหลืองอ่อน ใช้เลี้ยงนกคุ้มได้ดีจะด้วยสาเหตุใดบอกไม่ได้ เคงร้างหรือเคงที่ไม่มีตัวปลวก แล้วบางส่วนกลายเป็นเหล็ก ยังคงสภาพมีรูเล็ก ๆ เป็นทางเดินของตัวปลวกอยู่ แสนรังหรือล้านรังจะพบมีเคงเป็นเหล็กใช้เป็นเครื่องรางป้องกันศาสตราวุธต่าง ๆ ได้....

5.กระดูกงูเหลือม
เมื่องูเหลือมตาย ปล่อยให้เน่าเปื่อยจนแห้งเหลือแต่กระดูก นำเอากระดูกสันหลัง มาร้อยด้วยเชือกด้าย ทำสายรัดเอว เชื่อกันว่างูเหลือมเป็นราชาของงูมาก่อน จึงใช้ป้องกันพวกงูพิษและแก้เจ็บหลังได้ด้วย หรือนำกระดูกงูเหลือมมาฝนกับน้ำมะนาว และนำมาทาบริเวณที่ปวดเมื่อยจะหายปวดเมื่อย หรือนำกระดูกงูเหลือมมาผูกข้อมือเด็กอ่อน จะทำให้เด็กอ่อนไม่บิดตัว เป็นความเชื่อมาแต่สมัยโบราณ และปัจจุบันก็ยังมีคนให้ความเชื่อในสรรพคุณของกระดูกงูเหลือมอยู่ค่ะ...

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

 

จะใช้"เครื่องรางอาถรรพ์-ของขลัง"ต้องปฏิบัติให้ถูกวิธี! "งากำจัด-งาช้างน้ำ-กระดูกงูเหลือม-คดขนุน-คดมะพร้าว-เค็งเป็นเหล็ก"หาได้ยาก! ที่เห็นส่ว

สุดท้ายนี้ผู้เขียนขอฝากเคล็ดลับสำหรับผู้ชมที่ชื่นชอบทางด้านนี้โดยเฉพาะค่ะ
สำหรับผู้ที่เริ่มใช้เครื่องรางของขลังมือใหม่หรือมือเก่าที่ยังไม่รู้ว่าบูชาเครื่องรางของขลังไปแล้ว ถ้าจะให้ได้ผลดีคือต้องพกติดเนื้อติดตัวจึงจะได้ผลดีที่สุด เช่นเอาใส่สร้อยแขวนคอ ใส่แหนบเหน็บไว้กระเป๋าเสื้อ ใส่เชือกร้อยเอว หรือถ้าเป็นผู้หญิงถ้าไม่สะดวกแขวนให้ใส่แหนบแล้วเหน็บเสื้อชั้นในก็ได้ ใส่เข็มกลัดติดเสื้อก็ได้ ถ้าเป็นผู้หญิงไม่ควรเอาใส่กระเป๋ากางเกงหรือบูชาต่ำกว่าเอว ถ้าเอาใส่ในกระเป๋าถือของผู้คุณหญิงทั้งหลายกระเป๋านั้นต้องอยู่ใกล้ตัวหรืออยู่กับตัวตลอดเวลายิ่งเป็นเครื่องรางของขลังทางด้านมหาเสน่ห์แล้วต้องบูชาติดเนื้อติดตัวที่สุดจึงจะเกิดผลแรงนะคะ

บางคนบูชาไปแล้วถามว่าเอาไว้ที่รถ หรือ บูชาไว้ที่ห้องพระหรือหิ้งพระได้ไหม ตอบว่าได้ค่ะ แต่หากเป็นด้านเสน่ห์ก็อยู่แต่เฉพาะในรถ หรืออยู่เฉพาะที่บ้านเท่านั้นนะคะ เวลาคุณไปทำงานหรือออกไปข้างนอกพลังเขาก็ไม่ตามคุณไป..นะจ๊ะ

เอาล่ะค่ะ สำหรับวันนี้ก็ถือว่าผู้เขียนพาท่านผู้ชมมาทำความรู้จัก” เครื่องรางอาถรรพ์ ของขลังของแปลกประจำชาติไทย” กันแต่เพียงเท่านี้ก่อนค่ะ

ทั้งนี้ก็ถือว่าเป็นการเปิดโลกทรรศน์ใหม่เกี่ยวกับ” เครื่องรางอาถรรพ์ ของขลังของแปลกประจำชาติไทย” ในระดับหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตามผู้เขียนอยากขอแนะนำให้ผู้ที่พกเครื่องรางของขลังต่างๆแต่ละประเภทนั้น ปฏิบัติตัวตาม ดังต่อไปนี้นะคะเครื่องรางอาถรรพ์ของขลังถึงจะมีอานุภาพเข้มขลังจริง

ไม่ผิดลูกเมียใคร 
ไม่คุยโวโอ้อวด ท้าตีท้าต่อย 
ไม่ไปตามที่อโคจร เช่นร้านเหล้า ผับ บาร์ ถ้าเคร่งมาก ต้องงดเหล้าเลยทีเดียว
หมั่นรักษาศีล 5 ให้บริบูรณ์
ถ้าปฏิบัติตามนี้ รับรองของขลังจะยิ่งขลัง แคล้วคลาดปลอดภัยเสมอ  (แน่นอนค่ะ และ ถ้าทำตามนี้ได้ทุกข้อ ถึงแม้ว่าจะไม่มีเครื่องรางก็รับประกันว่าแคล้วคลาด ยกเว้นว่าซวยจริงๆเท่านั้นค่ะ)

ขอขอบคุณท่านผู้เป็นเจ้าของเครดิตภาพที่ผู้เขียนได้นำมาจาก (อินเตอร์เน็ต)เพื่อใช้ในการแสดงประกอบเนื้อหาสาระข้อมูลนี้ค่ะ..และขอขอบคุณแหล่งที่มาของภาพและข้อมูลจาก:วิกิพีเดีย,
ไสยศาสตร์,และข้อมูลเพิ่มเติม(บางส่วน)จาก :อินเตอร์เน็ตค่ะ
เรียบเรียงโดย:โชติกา พิรักษา และ ศศิภา ศรีจันทร์ ตันสิทธิ์