- 19 พ.ย. 2560
ประกาศเตือนฉบับที่ 8 !! 19-21 พ.ย. พื้นที่ต่อไปนี้ เตรียมรับมือ "พายุโซนร้อนคีโรกี" ให้ประชาชนระวังอันตรายจากฝนตกหนักและน้ำท่วมฉับพลัน (รายละเอียด)
กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศฉบับที่ 8 ลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2560 เรื่อง "พายุโซนร้อน “คีโรกี” (ประกาศต่อเนื่องจากพายุดีเปรสชัน) (มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 19-21 พฤศจิกายน 2560)" เมื่อเวลา 10.00 น. ของวันนี้ (19 พ.ย. 60) พายุดีเปรสชัน“คีโรกี” (KIROGI) บริเวณทะเลชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง มีศูนย์กลางอยู่ที่ ละติจูด 11.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 109.5 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่างในวันนี้ (19 พ.ย. 60) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนผ่านประเทศกัมพูชาและเข้าปกคลุมอ่าวไทยตอนกลางในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. 60 โดยจะส่งผลให้ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนตกสะสม ที่อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากไว้ด้วย
พื้นที่ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ มีดังนี้
- ในช่วงวันที่ 19 -20 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี ตราด เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช
- ส่วนในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. 2560 บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ระนอง พังงา และภูเก็ต
อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว และคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในเย็นนี้ (19 พ.ย. 60) หลังจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางตอนบนในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ชายฝั่งภาคใต้ฝั่งตะวันออกระวังคลื่นที่ซัดเข้าหาฝั่งในระยะเวลาดังกล่าวไว้ด้วย
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล จะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรกกับมีลมแรง โดยอุณหภูมิจะลดลง 2-4 องศาเซลเซียสในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลอุณหภูมิจะลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลและรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย
พายุดีเปรสชัน“คีโรกี” (KIROGI) บริเวณทะเลชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่าง มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 50 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกด้วยความเร็ว 10 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามตอนล่างในวันนี้ (19 พ.ย. 60) จากนั้นจะอ่อนกำลังลงเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรงก่อนเคลื่อนผ่านประเทศกัมพูชาและเข้าปกคลุมอ่าวไทยตอนกลางในช่วงวันที่ 20-21 พ.ย. 60 โดยจะส่งผลให้ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย ส่วนคลื่นลมในอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง อนึ่ง บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามตอนบนแล้ว และคาดว่าจะแผ่ลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทยและทะเลจีนใต้ในเย็นนี้ (19 พ.ย. 60) หลังจากนั้นจะแผ่ปกคลุมภาคเหนือและภาคกลางตอนบนในระยะต่อไป ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นในระยะแรก หลังจากนั้นอากาศจะเย็นลงกับมีลมแรง อุณหภูมิลดลง
ภาคเหนือ
ทางตอนบนของภาค อากาศเย็น โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 20-24 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดดอยมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 9-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ กับมีลมแรง
โดยอุณหภูมิลดลง 2-4 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 21-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส
บริเวณยอดภูมีอากาศหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 11-16 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคกลาง
มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ภาคตะวันออก
มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
อุณหภูมิต่ำสุด 23-26 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 28-32 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก)
มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร
ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก)
มีเมฆเป็นส่วนมากกับมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 10 ของพื้นที่
ส่วนมากบริเวณจังหวัดภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล
อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.
ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 1-2 เมตร
กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
มีเมฆเป็นส่วนมาก โดยมีฝนร้อยละ 10 ของพื้นที่
กับมีลมแรง โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส
อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส
ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 10-30 กม./ชม.