- 20 พ.ย. 2560
เปิดใจ “อ.ไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร” ผู้ที่วิ่ง จากเบตง สู่ แม่สาย เมื่อ 32 ปี ที่แล้ว หารายได้ช่วยเหลือนักเรียนขาดแคลนอาหารกลางวัน ส่งกำลังใจให้พี่ตูน (ค
จากกรณี เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2560 ผู้ใช้เฟซบุ๊ค ที่ใช้ชื่อว่า A.Diary ได้ทำการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์ หนึ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ ปี พ.ศ. 2529 ถึงเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่วิ่งจากใต้สุดแดนสยาม ไปสู่เหนือสุดแดนสยาม กับการวิ่งเพื่อรับบริจาคเงิน ช่วยเหลือค่าอาหารกลางวันให้กับเด็กนักเรียนใน 24 จังหวัดที่วิ่งผ่าน โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้..
#เมื่อ30ปีที่แล้ว ปี 2529 เคยมีคนวิ่งจากเบตงใต้สุดแดนสยาม ไปแม่สายเหนือสุดแดนสยาม เพื่อรับบริจาคช่วยเหลืออาหารกลางวันเด็กนักเรียนที่ขาดแคลน 24 จังหวัด ใช้เวลาวิ่งกว่า 2 เดือน บัณฑิตหนุ่ม ผู้นี้นามว่า “อ.ไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร”
ล่าสุดวันนี้ ( 20 พ.ย.) เวลา 12.00 น. อ.ไชยวัฒน์ วรเชฐวราวัตร ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสำนักข่าวทีนิวส์เผยว่า เดิมตนนั้นเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยราชภัฎเพรชบุรี โดยตอนนั้นได้ฝึกสอนที่โรงเรียนพระรูป จ.เพรชบุรี โดยสังเกตุเห็นนักเรียนคนหนึ่งไม่ยอมลงมาเข้าแถว โดยจึงแอบดูพฤติกรรมของนักเรียนคนนั้น จึงได้เห็นว่านักเรียนนั้นได้แอบเปิดกล่องข้าวของเพื่อนร่วมชั้น ขโมยของเพื่อนกินกล่องละคำ ตนจึงได้พาแกไปกินข้าวที่วัด
หลังจากที่ฝึกสอนเสร็จแล้ว ได้ปรึกษากับอาจารย์ในมหาวิทยาลัยราชภัฎเพรชบุรี โดยได้ประชุมและได้เขียนโครงการถึงผู้ว่าฯในจังหวัดที่ตนนั้นติองวิ่งผ่านทั้งหมด 24 จังหวัด โดยนั่งรถไฟ ไปสตาร์ท จากอำเภอเบตง วิ่งเฉลี่ย วันล่ะ 40 กิโล ถึงอำเภอไหนก็ให้ อำเภอนั้นๆจัดการช่วยเรื่องรับบริจาค บางที่ก็จะมีรถมารับไปวิ่งในตลาด ที่พักตอนนั้นก็พักทั้งวัด โรงเรียน ซึ่งยอดรวมทั้งหมดในตอนนั้น เกินกว่า 2 ล้านกว่าบาท แต่ยอดไม่ชัดเจน เพราะอาจารย์ให้ทางอำเภอจัดการ และหลายที่ก็แจ้งยอดไม่ชัดเจนบ้าง เนื่องจากยอดไม่นิ่ง และสมัยนั้นไม่มีโซเชียลแบบปัจจุบัน การติดต่อประสานงานลำบากมาก บางที่ติดเสาร์อาทิตย์ ประสานงานกับใครไม่ได้ และอาจารย์เองไม่ใช้คนดัง เลยค่อนข้างลำบาก อาจารย์น่าจะเป็นคนที่บริจาคเลือดมากที่สุดในประเทศไทยคนหนึ่ง คือ 512 ครั้ง ราายละเอียดเพิ่มเติมชมได้จากคลิป
***ชมคลิป***
ทั้งนี้อาจารย์ขอบคุณทุกภาคส่วนและทุกคนที่มีส่วนร่วมและสนับสนุนการวิ่งของอาจารย์เมื่อ 32 ปีก่อน และอาจารย์ยังหวังอีกว่าจะได้ร่วมขบวนวิ่งกับตูน ในโครงการก้าวคนละก้าวในครั้งนี้สักครั้ง