ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

จากกรณีชาวบ้านอำเภอสิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมตัวกันทำหนังสือร้องเรียนศูนย์ข่าวนคร 24 ชม.สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดนครศรีธรรมราช ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชและกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จังหวัดนครศรีธรรมราช เนื่องจากเดือดร้อนจากการปล่อยน้ำเสียในปริมาณมากของโรงงานปาล์มน้ำมันตั้งอยู่หมู่   4 ต. ทุ่งปรัง อ.สิชล ลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เป็นประจำ จนชาวบ้านรวมตัวร้องเรียนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบ แก้ไขดำเนินการ แต่เรื่องก็เงียบหาย ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านอย่างแสนสาหัสล่าสุดโรงงานแห่งนี้จะใช้รถแบคโฮแอบขุดผนังกั้นบ่อพักน้ำเสียให้ไหลทะลักลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติคลองท่าควาย ซึ่งเป็นคลองสายหลักของอำเภอสิชล ซึ่งทางศูนย์ดำรงธรรม อุตสาหกรรมจังหวัด ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดนครศรีธรรมราช ลงพื้นตรวจสอบข้อเท็จจริง พบการกระทำผิดอย่างชัดเจน จึงกำหนดมาตรการในเบื้องต้น 3 ข้อ 1.ให้โรงงานดำเนินการเสริมคันบ่อบำบัดน้ำเสียให้มีความแข็งแรงและปิดกั้นรางระบายให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 20 วัน 2.ให้โรงงานจัดทำแผนปรับปรุงโรงงานเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน  และ3.สร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชนในพื้นที่ในการเฝ้าระวังป้องกันผลกระทบด้านมลพิษจากโรงงาน โดยสำนักงานอุตสาหกรรมและศูนย์ดำรงธรรมจะติดตามการปรับปรุงตาม 3 มาตรการอย่างใกล้ชิดต่อไป ท่ามกลางการวิพากวิจารณ์ของชาวบ้านที่มองว่าเจ้าหน้าที่ไม่กล้าดำเนินการตามกฎหมายอย่างเด็ดขาดกับเจ้าของโรงงานทั้งๆ  ที่พบเห็นการกระทำผิดอย่างชัดเจน และซ้ำซาก แต่ทำเพียงแนะนำให้แก้ไขใน 3 มาตรการดังกล่าวเท่านั้น ตามที่เสนอข่าวมาตามลำดับแล้วนั้น    

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเมื่อเวลา 09.30 น.วันที่ 20 พ.ย. 60 หลังจากนายอัครเดช  คงทรัพย์ น.ส. มนัสนันท์ จรัลจรูญพงษ์ และพ.ต.ต.(หญิง) ศรีสมเกียรติ แท่นทอง นักสืบสวนชำนาญการ ปปท. พร้อมคณะเกือบ 10 คน เดินทางเข้าพบนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราชที่ห้องทำงานชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อหารือถึงปัญหาที่เกิดขึ้น โดยผู้ว่าการจังหวัดนครศรีธรรมราช กล่าวว่า ทางจังหวัดพร้อมให้ความร่วมมือในการตรวจสอบโรงงานอย่างเต็มที่  จากนั้นคณะของ ปปท.พร้อมด้วยศูนย์ดำรงธรรม และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ อ.สิชล เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าโรงงานปาล์มดังกล่าว

เจ้าหน้าที่ลงตรวจสอบพื้นที่รอบ ๆ บริเวณโรงงานและบริเวณบ่อเก็บนำเสียด้านหลัง ซึ่งบริเวณด้านนอกของโรงงานกลับเข้าสู่สภาวะปกติยังมีแต่รองรอยของบ่อเลี้ยงปลาของชาวบ้านที่น้ำไหลเข้าไปจนปลาตายยกบ่อ จนเจ้าของบ่อปลาต้องถมดินใหม่และเอาท่อระบายน้ำมาใส่ให้สูงกว่าเดิม ส่วนความเข้มข้นของน้ำเน่าเสียได้เจือจางลงมากแล้วเพราะมีการปล่อยน้ำเสียตั้งแต่วันที่ 8 พ.ย.2560 ผ่านมาถึง 12 วันแล้ว     อย่างไรก็ตามากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่บริเวณจุดที่มีปล่อยน้ำเน่าเสียพบร่องรอยเพิ่งใช้รถแบ็คโฮปิดกั้นน้ำเสียบริเวณผนังกั้นบ่อน้ำเสียอย่างชัดเจน และปริมาณน้ำเน่าเสียประมาณ 7-8 บ่อพบว่าปริมาณเกือบเต็มทุกบ่อ   

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

 หลังจากที่ตรวจสอบแล้วได้เข้าพื้นที่สอบถามความเดือดร้อนของชาวบ้านในชุมชนเพิ่มเติม แต่ชาวบ้านส่วนใหญ่แม้จะได้รับผลกระทบเดือดร้อนอย่างหนักแต่ทุกคนอยู่ในอาหารหวาดกลัวอันตรายที่อาจจะเกิดขึ้นกับตนเองและครอบครัว ไม่ค่อยกล้าออกมาเปิดเผยตัวเพราะเกรงจะตกเป็นเป้าถูกปอวงร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สินได้  โดยขอให้เจ้าหน้าที่ ปปท.เชิญ ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษสิชล รวมทั้งนายวีระพรรณ สุขะวัลลิ ปลัดอาวุโสอำเภอสิชล ที่เคยรักษาการนายอำเภอสิชลและได้รับการร้องเรียนโรงงานแห่งนี้ปล่อยน้ำเน่าเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ ส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยรอบ ซึ่งในครั้งนั้น นายวีระพรรณ สุขะวัลลิ และได้เข้าตรวจสอบพบมีการฝังท่อขนาดใหญ่ไว้ใต้ดินเพื่อแอบปล่อยน้ำเสียลงคลองสาธารณะ นายวีระพรรณ จึงสั่งให้โรงงานขุดท่อระบายน้ำออก พร้อมนำน้ำไปตรวจคุณภาพพบเป็นน้ำเน่าเสียเกินมาตรฐานที่กฎหมายกำหนด จนมีการสั่งให้โรงงานจ่ายค่าปรับเป็นเงินหลักแสนบาท แต่ทางโรงงานก็กลับมาแอบปล่อยน้ำเสียลงสู่แหล่งน้ำธรรมชาติอีกหลายครั้ง ส่วน ผบ.ค่ายฝึกรบพิเศษก็เป็นผู้ที่เคนร่วมลงตรวจสอบรวมทั้งการบินสำรวจทางอากาศ จึงมีข้อมูลหลักฐานอย่างชัดเจน  โดยหากเอาผลการตรวจที่พบเห็นในวันนี้อาจจะได้หลักฐานเพียงบางส่วนและเบาบางเกินไป เพราะการลักลอบปล่อยน้ำเสียผ่านมาถึง 12 วันแล้ว น้ำในแห่งน้ำธรรมชาติก็เจือจางไปมากแล้ว ส่วนคันดินบ่อน้ำเสียที่ถูกขุดระบายน้ำเน่าเสียทางโรงงานก็ถมกลับไปเรียบร้อยแล้ว จึงเหลือเพียงร่องรอยบางส่วนเท่านั้น

หลังจากตรวจสอบและสอบสวนปากคำชาวบ้านในหมู่บ้านรอบโรงงานแล้ว เจ้าหน้าท่าได้เดินทางไปสอบถามชาวบ้านในท้องที่หมู่ 4  ทุ่งปรัง ซึ่งอยู่ไกลออกไปจากโรงงาน พบว่าได้รับผลกระทบเรื่องน้ำเน่าเสียน้อย แต่ทุกคนยืนยันว่าได้รับผลกระทบเรื่องควันจากปล่องระบายควันของโรงงาน รวมทั้งเสียงดังและกลิ่นเหม็นมาโดยตลอด เจ้าหน้าที่ได้บันทึกการสอบปากคำไว้เป็นหลักฐาน และในวันพรุ่งนี้ทางคณะของ ปปท.ได้นัดชาวบ้านรอบโรงงานที่ได้รับผลกระทบมาสอบสวนปากคำอีกครั้งหนึ่งที่ศาลาหมู่บ้าน  โดยมีชาวบ้านหลายรายที่ตัดสินใจเปิดเผยตัวเองแม้จะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิตก็ตาม เพราะการต่อสู่ของชาวบ้านมาถึงตอนนี้เปรียบเหมือนหมาจนตรอก”จึงยอมเสี่ยงตายตายเพื่อส่วนรวม เพื่อให้เจ้าหน้าที่ได้รับข้อมูลที่ตรงตามข้อเท็จจริงเผาผิดกับโรงงานให้ได้

น.ส.มนัสนันท์ จรัลจรูญพงษ์ กล่าวว่าคณะ ปปท.จะยังไม่เดินทางกลับจะลงพื้นที่ตรวจสอบหาข้อมูล พยานหลักฐานให้รอบด้าน การตรวจคุณภาพน้ำเป็นเพียงขั้นตอนหนึ่งในพยานหลักฐาน จากหลักฐานที่รวบรวมได้ทั้งหมด โดยผู้บังคับบัญชาระดับสูงอาจจะเดินทางมาสมทบในพื้นที่อีกด้วย  ซึ่งจะรวบรวมพยานหลักฐานที่ได้ทั้งหมดเสนอถึงผู้บังคับบัญชาเพื่อพิจารณาสั่งดำเนินคดีการกับโรงงานแห่งนี้ต่อไป.

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยอมตาย !! ชาวบ้านจนตรอก ประกาศยอมตาย..เผยตัวให้ปากคำ ปปท.พรุ่งนี้  แฉชาวบ้านรอบนอกทนเสียงดัง-กลิ่นเหม็นและควันไฟมานานมากแล้ว (คลิป)

ยุทธนะ เตมะศิริ   สำนักข่าวทีนิวส์   จ.นครศรีธรรมราช