- 21 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ย. จากกรณีคดีครูจอมทรัพย์ แสนเมืองโคตร อดีตครูใน จ.สกลนคร ถูกกล่าวหาว่าขับรถชนคนตาย เหตุเกิดถนนสายธาตุน้อย-นาเหนือ ต.ท่าลาด อ.เรณูนคร เมื่อวันที่ 11 มี.ค.2548 ก่อนถูกศาลตัดสินจำคุก 3 ปี 2 เดือน ลดโทษเหลือติดคุกจริง 1 ปี 6 เดือน ก่อนที่เจ้าตัวร้องขอรื้อฟื้นคดีกับกระทรวงยุติธรรม จนกระทั่งวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ศาลจังหวัดนครพนมได้อ่านคำพิพากษาของศาลฎีกา ตัดสินให้ยกคำร้อง หลังพิเคราะห์แล้วเห็นว่าพยานมีข้อพิรุธ ในช่วงนำสืบระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.56 ที่ผ่านมา ด้านคดีล่าสุด ผบก.นครพนม ตั้งคณะทำงานคลี่คลายคดี พร้อมสั่งฟันพยานเท็จในคดีครูจอมทรัพย์ เพื่อดำเนินคดี เนื่องจากมีกระบวนการออกมารับผิดแทน ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเวลา 09.30 น. วันที่ 21 พ.ย. ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 8 หมู่ 2 ต.นาคู่ อ.นาแก จ.นครพนม ซึ่งเป็นบ้านของนางทัศนีย์ หาญพยัคฆ์ วัย 61 ปี หนึ่งในพยานเท็จที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองนครพนม ออกหมายเรียกในข้อหาให้การเท็จและมีหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาในคดีครูจอมทรัพย์ อีกทั้ง นางทัศนีย์ยังเคยไปให้การชั้นศาลเป็นพยานฝ่ายผู้ร้องในนัดสืบพยานในห้วง 3 วันดังกล่าว จนกระทั่งศาลพบข้อพิรุธ หลังพบว่าแต่ละครั้งให้การไม่ตรงกัน อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังมีหลักฐานว่านางทัศนีย์ไปปรากฏตัวที่ สภ.เรณูนคร พร้อมกับนายสุริยา นวลเจริญ หรือครูอ๋อง และยังไปที่ สภ.เมืองนครพนม พร้อมกับครูอ๋อง และนายสับ วาปี พร้อมพวกรวม 8 คนนั้น
นางทัศนีย์ กล่าวว่า ตนไม่ขอยุ่งเกี่ยวแล้วเหมือนทำบุญบูชาโทษ เพิ่งเคยเห็นหน้าครูจอมทรัพย์หลังออกจากคุกและแวะมาหาที่บ้านพร้อมกับนายสุริยา หรือครูอ๋อง และนายนิรันดร์ แสนเมืองโคตร สามีครูจอมทรัพย์ ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมีหมายเรียกจากตำรวจจะไปให้ปากคำหรือไม่ นางทัศนีย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ขอตอบเพราะยังมีภาระอีกหลายอย่าง ถ้าเจ้าหน้าที่กล่าวหาว่าตนเป็นพยานเท็จก็รู้สึกเฉยๆ แต่ทำไมต้องให้ตนเดือดร้อนด้วย เพราะไม่เคยได้อะไรเลย หากมีหมายจับมาจริงก็จะเรียกให้ชาวบ้านมาช่วย แต่ยืนยันว่าจะไม่หลบหนีไปไหน
ต่อมาผู้สื่อข่าว เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 57 หมู่ 2 ต.นาคู่ ซึ่งเป็นบ้านนางทองเรศ วงศ์ศรีชา อายุ 52 ปี หนึ่งในพยานของครูจอมทรัพย์ ที่เคยไปเบิกความต่อศาลจังหวัดนครพนม ในนัดสืบพยาน 3 วันห้วงระหว่างวันที่ 8-10 ธ.ค.56 ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านพักนางทัศนีย์ราว 200 เมตร โดยนางทองเรศ กล่าวว่า วันที่ 9 ธ.ค. เวลาประมาณ 13.00 น. ขึ้นไปเบิกความเป็นพยานที่ศาลจังหวัดนครพนม ในคดีครูจอมทรัพย์ ซึ่งศาลได้ซักถามว่าตนเห็นคนขับรถชนนายเหลือหรือไม่ จึงตอบไปว่าขณะเกิดเหตุซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์นางทัศนีย์ พบเห็นนายเหลือจูงจักรยานผ่านมา และมีรถชนกันบนถนน
นางทองเรศ กล่าวต่อไปว่า ศาลจึงนำคลิปวีดีโอที่เคยให้สัมภาษณ์กับนักข่าว หลายช่องมาเปิดให้ตนดู ศาลบอกว่าทำไมให้การไม่ตรงกัน ตนจึงตอบไปว่าตนอยู่หลังรถกระบะที่มีผู้ขับชนคนตาย ช่วงนั้นมีไฟหน้ารถเปิดอยู่ไม่ได้ปิด ชนเสร็จเห็นคนเดินลงมาจากรถเป็นผู้ชาย แต่ไม่ทราบว่ารถทะเบียนและหมวดอักษรอะไร ตนพูดตามความจริงไม่ได้เสแสร้งอะไร หลังมีข่าวว่าศาลพิพากษาตัดสินยกคำร้องครูจอมทรัพย์ ในวันที่ 17 พ.ย.ที่ผ่านมา ตนดูข่าวทางทีวีที่บ้านจนทุกวันนี้ทำให้กินไม่ได้นอนไม่หลับ ยอมรับเป็นว่ากังวล เพราะกลัวว่าจะติดคุก
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิรธะัญญากุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครพนม