ทำไม “บิ๊กตู่” ถึงถามว่าพร้อมเลือกตั้งท้องถิ่นหรือยัง “ไขปม!!” ยืดเวลา เลื่อนเลือกตั้งระดับชาติ

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี มือกฎหมายระดับปรมาจารย์ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือ คสช. เปิดเผยก่อนใครเพื่อนว่า ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งใหญ่ในเดือนพฤศจิกายน 2561 นั้น คสช.จะพิจารณา เปิดให้มีการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นก่อน ไม่ว่าจะเป็น การเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา รวมไปถึงการเลือกตั้งระดับเทศบาล อบจ.อบต.
 
แต่การเลือกตั้งเหล่านั้นจะเกิดขึ้นได้ก็เมื่อมีการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับท้องถิ่น 6 ฉบับให้แล้วเสร็จเสียก่อน เนื่องจากตามรัฐธรรมนูญ 2560 ได้มีการกำหนดคุณสมบัติของผู้รับสมัครเลือกตั้งท้องถิ่นไว้ค่อนข้างสูง ด้วยเหตุนี้แล้ว จึงต้องแก้ไขกฎหมายเดิมให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ
 

 

 

การชูประเด็นเลือกตั้งท้องถิ่นเกิดขึ้นหลังจากที่ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ออกมาประกาศว่าประเทศไทยจะมีการเลือกตั้งได้ไม่เกินเดือนพฤศจิกายน 2561 ซึ่งถือเป็นการประกาศความชัดเจนครั้งแรกนับตั้งแต่เข้าทำการยึดอำนาจรัฐประหารรัฐบาลรักษาการของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557
 
แต่จนแล้วจนรอด ถึงวันนี้ “บิ๊กตู่” ก็ยังคงประกาศ คสช. ไม่ยอมปลดล็อกให้พรรคการเมืองได้ทำกิจกรรมพรรคตามข้อกำหนดของ พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง จึงไม่แปลกที่จะมีคำถาม ทั้งจากฝ่ายการเมือง นักวิชาการ รวมถึงประชาชนคนไทย ว่า พล.อ.ประยุทธ์ พร้อมที่จะคืบอำนาจ เปิดให้มีการเลือกตั้งจริงหรือไม่ หรือการแสดงความชัดเจนเมื่อไม่นานมานี้ เป็นเพียงการแสดงออกให้นานาประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐฯ เห็นว่าเราพร้อมที่จะเข้าสู่ประชาธิปไตยเท่านั้น
 
ประจวบเหมาะกับที่รองนายกฯ “วิษณุ” ออกมาบอกว่าจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นก่อนการเลือกตั้งใหญ่ ทำให้มองได้ว่า คสช.ต้องการชูประเด็นนี้เพื่อถ่วงเวลาให้การเลือกตั้งใหญ่ให้ต้องเลื่อนออกไปอีก ถือว่าเป็นการใช้เทคนิคโดยการอ้างเหตุผล ว่าจะต้องเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน เหมือนกับที่ คสช.เคยอ้างเหตุผลอื่น อย่างที่เคยทำมา

เพราะหากเลือกตั้งท้องถิ่นก่อน โรดแมปจะเริ่มจากที่กระทรวงมหาดไทยเสนอร่างกฎหมายท้องถิ่น 6 ฉบับเข้าที่ประชุม ครม. จนเมื่อ ครม.พิจารณาแล้วเสร็จจึงส่งไปให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) พิจารณา และต้องไม่ลืมว่า สนช.มีกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีกหลายฉบับที่ต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จตามกรอบเวลา เพราะหากไม่เสร็จตามกรอบเวลา ความยุ่งเหยิงจะเกิดขึ้นโดยง่าย

มีการคาดว่ากฎหมายท้องถิ่นจะประกาศใช้ได้ในเดือนพฤษภาคม 2561 จากนั้นจะสามารถจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ใน 45 วัน แต่นั่นเป็นการคาดการณ์ตามเวลาปกติที่ไม่รวมการดึงเวลา
 

 

มองตามเกมนี้จะเห็นว่า คสช.สามารถใช้ข้ออ้างนานับประการเพื่อดึงเวลาให้การเลือกตั้งใหญ่ต้องยืดออกไป ไม่ว่าจะเป็น ในการอ้างว่าต้องการจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นให้เสร็จก่อน ในกรณีที่การเลือกตั้งเล็กและใหญ่อยู่ในเวลาใกล้เคียงกัน ไม่ว่าจะเป็น เหตุเพราะการเลือกตั้งท้องถิ่นยังมีความวุ่นวาย ไม่สงบเรียบร้อย แล้วการเลือกตั้งใหญ่จะสงบเรียบร้อยได้อย่างไร เป็นต้น

เรื่องนี้สะท้อนจากคำพูดของ พล.อ.ประยุทธ์ เมื่อวันที่ 20 พฤศจิกายน ที่บอกว่า การเลือกตั้งท้องถิ่นพร้อมเมื่อไหร่ก็จะเลือก และไม่อยากอ้างอะไรอีก ซึ่งต้องถามประชาชนว่าพร้อมหรือไม่