ได้กรรมฐานแต่ไม่รู้ว่าเป็นกรรมฐาน!! เปิดนิมิตแห่งเส้นทางธรรม "พระอาจารย์ประยุทธ" พบนางฟ้าลอยออกจากวิมาน เผย..ให้สร้างบุญแล้วค่อยมาเจอกันใหม่

ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

ได้กรรมฐานแต่ไม่รู้ว่าเป็นกรรมฐาน!! เปิดนิมิตแห่งเส้นทางธรรม "พระอาจารย์ประยุทธ" พบนางฟ้าลอยออกจากวิมาน เผย..ให้สร้างบุญแล้วค่อยมาเจอกันใหม่

            ในช่วงที่หลวงปู่ตื้อ อจลธมฺโม พำนักอยู่ทางภาคเหนือได้มีผู้มาฟังธรรมด้วยจำนวนมาก รวมทั้งที่มาฝากตัวเป็นศิษย์ขอแนวปฏิบัติกรรมฐานก็มีเยอะ ในปีที่หลวงปู่จำพรรษาที่วัดป่าดาราภิรมย์ อำเภอแม่ริม เชียงใหม่ในวันหนึ่งได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินทางมาจากภาคใต้ ตั้งใจมาขอเป็นศิษย์เรียนกรรมฐานกับหลวงปู่ พระภิกษุรูปนั้นก็คือ "พระอาจารย์ประยุทธ ธมฺมยุตฺโต" แห่งสำนักวัดป่าผาลาด จังหวัดกาญจนบุรี ปัจจุบันท่านมรณภาพแล้ว เป็นพระป่าที่มีชื่อเสียงมากองค์หนึ่ง ท่านเป็นพระที่ปฏิบัติดีงามน่าเลื่อมใสมาก หลังจากการเผาศพของท่านแล้ว อัฐิท่านได้กลายเป็นพระธาตุ ท่านได้รับฉายาว่าพระอรหันต์ผู้มีอดีตเป็นขุนโจรอิสไมล์แอ

ได้กรรมฐานแต่ไม่รู้ว่าเป็นกรรมฐาน!! เปิดนิมิตแห่งเส้นทางธรรม "พระอาจารย์ประยุทธ" พบนางฟ้าลอยออกจากวิมาน เผย..ให้สร้างบุญแล้วค่อยมาเจอกันใหม่

           หลังจากใช้ชีวิตอย่างโชกโชนในคราบขุนโจร นายประยุทธ ‌สุวรรณศรี ก็กลับมาเยี่ยมบ้านที่หัวหิน โดยไม่มีใครรู้ว่าไปทำมา‌หากินอะไรมา เมื่อมาถึงบ้านพบว่าแม่ได้เสียชีวิตไปแล้ว ที่ทำให้ท่าน‌สะเทือนใจและเสียใจมากที่ไม่มีโอกาสได้สนองคุณแม่เลย‌ เพราะพี่สาวและน้องสาวบอกว่า ตั้งแต่ท่านหายสาบสูญไม่มี‌ข่าวมาเลย ทำให้แม่เสียใจมาก เฝ้าแต่คร่ำครวญว่า "เล็กของ‌แม่" จนสิ้นใจ ที่เหลืออยู่ก็มีเพียงภาพถ่ายขนาดใหญ่เพียงภาพ‌เดียว ไม่มีน้ำตาจะหลั่งไหลให้ใครดู มันตกอยู่ข้างในท่านเป็นคนที่แม่รักมาก คำว่า "เล็กของแม่" ท่านได้ยินตั้ง‌แต่เล็กจนโตเป็นที่ซาบซึ้งใจที่สุด ระลึกถึงอ้อมอกอันอบอุ่นของ‌แม่ ระลึกถึงภาพที่แม่เคยปฏิบัติต่อท่าน ภาพต่างๆ ที่ผ่านมาได้‌เข้ามาในความคิดคำนึง ขณะที่นั่งอยู่หน้ารูปของแม่ พลันจิต‌ของท่านก็สงบและวูบลงไป

            ขณะที่จิตของท่านกำลังสงบ ปรากฏชายร่างกายกำยำ ๔ ‌คนตรงเข้ามาจับตัวท่าน เข้าเครื่องขื่อคาลงทัณฑ์โดยไม่ฟัง‌อะไรทั้งสิ้น แล้วนำท่านไปสู่ขุมนรกอันมีกระทะทองแดงใบ‌ใหญ่ ร้อนมากไม่เคยเจออะไรร้อนอย่างนี้มาก่อน เป็นสิ่งที่‌สยดสยองเกิดความหวาดกลัวอย่างรุนแรง จนท่านร้องเสียง‌หลงว่า “แม่ช่วยลูกด้วย” พลันก็มีใบบัวอันใหญ่เท่ากระด้งตาก‌ปลา มาช้อนร่างท่านขึ้นไปบนที่สูง นำท่านสู่วิมานลอยฟ้า อัน‌วิจิตรบรรจงที่ไม่มีสถานที่ใดในเมืองมนุษย์จะเปรียบได้ในวิมานนั้นปรากฏว่า มีนางฟ้าจำนวนเป็นร้อย ร่ายรำอยู่‌เบื้องหน้า แต่ละนางอายุประมาณ ๑๖-๑๗ ปี มีรูปร่างความงาม‌ดูละม้ายคล้ายคลึงกันที่งดงามและแปลกตาก็คือแต่ละนางสูง‌ศอกเท่าเทียมกัน

 

ได้กรรมฐานแต่ไม่รู้ว่าเป็นกรรมฐาน!! เปิดนิมิตแห่งเส้นทางธรรม "พระอาจารย์ประยุทธ" พบนางฟ้าลอยออกจากวิมาน เผย..ให้สร้างบุญแล้วค่อยมาเจอกันใหม่

            ทันใดนั้นมีนางฟ้านางหนึ่งดูงดงามเป็นพิเศษ ลอยออกจาก‌วิมานด้วยอาการแย้มสรวลมีเสน่ห์ นางลอยออกมาล่อหลอก ‌โฉบผ่านหน้าท่านไปมา เหมือนจะทักทายให้ไขว่คว้า ความรู้สึก‌ในขณะนั้นท่านได้ตามนางฟ้าเข้าไปในวิมาน แต่เมื่อท่านจะ‌ตามเข้าไปหานางก็ปิดประตูกั้นไว้ พอถอยออกมานางก็โผล่‌พักตร์มาล่อหลอกอีก ทำแบบนี้อยู่หลายครั้ง จนท่านนึกฉุนว่า‌ไม่ให้เข้า ก็ไม่ง้อและทำท่าถอยออกมา นางจึงพูดว่า

"ไปเสียก่อนเถอะ ไปสร้างบุญบารมีให้พอเสีย‌ก่อน แล้วค่อยมาเจอกันใหม่"

          เมื่อท่านถอยวูบออกมาลืมตาขึ้น จึงรู้ว่านั่งอยู่ตรงรูปถ่าย‌ของแม่ นับว่าเป็นการได้กรรมฐานแล้วเป็นครั้งแรก แต่ท่านยังไม่‌ทราบว่าเป็นเพราะอะไรแม้แต่คำว่ากรรมฐานก็ยังไม่รู้จักการนิมิตเห็นสวรรค์ นรก ทำให้ได้พบความจริงว่าชีวิต‌มนุษย์นั้นต้องเป็นเช่นเดียวกันทั้งหมดไม่ตายไปลงนรก ก็จะได้‌ขึ้นสวรรค์ ท่านไม่รู้ว่ากรรมฐานได้เกิดแก่ท่านแล้วตอนนั้น มารู้ก็เมื่อ‌ไปอยู่กับหลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม แต่ก่อนจะหลับตาลงสู่ความสงบ ก็ได้บอกต่อรูปแม่ว่า

"แม่ต้องการอะไรขอให้ดลใจบอกให้รู้ ลูกจะทำทุกอย่างที่แม่ต้องการ แม้แต่เลือดเนื้อก็จะกรีดเพื่อทดแทนพระคุณ"

         

         เป็น‌การเสี่ยงตายอุทิศชีวิตให้แก่แม่อย่างเด็ดเดี่ยว เหตุการณ์ทั้ง‌หมดในนิมิต เป็นผลจากการที่แม่ของท่านเป็นคนใจบุญสุนทาน ‌ได้สร้างสมบารมีอันเป็นกุศลไว้มาก ไม่ว่าเป็นทานและศีล‌อาศัยบารมีนี้มาช่วยลูกเอาไว้ได้จากขุมนรก

         หลังจากนั้นไม่นาน ท่านก็บอกพี่สาวน้องสาวว่า จะออก‌จากบ้านไปอีก ไม่แน่ใจว่าอีกนานเท่าไหร่จึงจะได้กลับมาพบกัน ‌พี่สาวเป็นห่วงกลัวน้องชายตกระกำลำบาก จะทักท้วงก็ไม่ได้ ‌เพราะรู้ว่าน้องชายเป็นคนเด็ดเดี่ยว ตั้งใจทำอะไรต้องทำให้ได้ ‌จึงเอาเงินวางให้ ๕,๐๐๐ บาท แต่ท่านเอาไปแค่ ๕๐๐ บาท ‌บอกว่าแค่นี้พอแล้ว ที่เหลือขอให้ทำบุญให้แม่ แล้วท่านก็จาก‌ไป ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดท่านเล่าว่า ตอนนั้นท่านมีเงิน‌เป็นจำนวนมาก แต่เป็นเงินสมัยสงครามจะบอกให้ใครรู้ก็ไม่ได้‌จึงรับเงินพี่สาวมาพอเป็นพิธี

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : http://www.dharma-gateway.com