- 21 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 21 พ.ย. 60 เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น หลังจากเฟสบุ๊คชื่อ”รอวัน ฝันเป็นจริง”ได้นำคลิปวีดีโอ การเบิ้ลเครื่องยนต์รถทัวร์ ภาพถ่ายด้านหลังชายวัยกลางคนที่บุกเข้ามาตามผู้โพสต์ระบุว่าบุกเข้ามาขู่ฆ่า พร้อมระบุข้อความว่า”มีคนมาเคาะประตูบ้าน มาข่มขู่แต่เราไปแจ้งความกลับโดน#ให้มันฆ่าตายก่อน ตายมันก็ติดคุก ไป๊ไปลงบันทึกประจำวัน .จุกแน่นมาที่อกต้องรอให้กูตายก่อนใช่มัย ใครอ่านลายมือเค้าออกมั่ง แปลให้กูหน่อย”
จนโลกออนไลน์ต่างนำไปแชร์กันเป็นวงกว้าง พร้อมวิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ ส่วนใหญ่เห็นใจคนโพสต์ ที่ต้องมาเผชิญกับสิ่งเลวร้ายทั้งสองฝั่ง ทั้งที่ต้องการความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังผู้โพสต์ ทราบว่าเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อ 18 พ.ย.ผู้โพสต์เล่าว่า ตนเองเช่าบ้านอยู่ในซอยสุขาภิบาล 1 หลังโรงเรียนไตรคาม ต.ชุมเห็น อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ และในซอยเดียวกันจะมีรถทัวร์สองชั้น ซึ่งเป็นของอาจารย์ท่านหนึ่ง ทุกครั้งจะได้ยินเสียงเบิ้ลเครื่อง ติดเครื่องจอดเป็นเวลานานเป็นประจำ วันเกิดเหตุรถทัวร์คันดังกล่าวติดเครื่องและเบิ้ลเครื่องเป็นเวลานาน มีควันจากท่อไอเสียพุ่งเข้ามาภายในบ้านจึงตัดสินใจเดินไปบอกว่าควันรถไปรบกวน
จากนั้นไม่นานได้มีรถกระบะปิกอัพยี่ห้อฟอร์ดสีน้ำตาล มาจอดหน้าบ้านแล้วลงมาเคาะประตู เมื่อเปิดออกไปกลับถูกครูเจ้าของรถดุด่า ดูถูกว่าเป็นคนจนที่มาเช่าบ้านอยู่ เป็นคนระดับกันไม่ต้องมายุ่ง โดยวันต่อมา 19 พ.ย.ได้เดินทางไปแจ้งความที่ สภ.เมือง กลับถูกพนักงานสอบสวนยศ พ.ต.ท.ดุด่าซ้ำอีก ตนเองรู้สึกน้อยใจกะจะหนีร้อนมาพึ่งเย็นกลับได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่แบบนี้ จึงนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปโพสต์เพื่อระบายความคับแค้นใจในเฟซบุ๊ค แล้วไปร้องศูนย์ดำรงธรรม ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาติดต่อประสานให้เข้าไปแจ้งความใหม่ ครั้งแรกตนกะจะเอาเรื่องครูเจ้าของรถทัวร์จนถึงที่สุด ที่บุกรุกเข้าบ้านและข่มขู่ แต่เมื่อได้ฟังเหตุผลของผู้กำกับ ว่าจะนำครูมาขอโทษ และทำการลงโทษพนักงานสอบสวน เพราะอยากให้อยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขในชุมชน จากนั้นครูได้เดินทางมาขอโทษ ตนก็ยอมรับคำขอโทษ และไม่อยากให้เรื่องมันยุ่งยากไปกว่านี้ จึงรับปากว่าจะเป็นมิตรกัน โดยไม่เรียกเอาเงินค่าสินไหมจากครูเจ้าของรถทัวร์แต่อย่างใด
วาทิตย์ แสนธุปี สำนักข่าวทีนิวส์ จ.บุรีรัมย์