"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)

ติดตามความเคลื่อนไหวได้ที่เพจความจริง และ www.tnews.co.th

กระเช้าผีมด
เป็นไม้เถา ลำต้นเมื่อยังอ่อนอยู่มีขน แต่ขนจะค่อย ๆ ร่วงไปจนเกือบเกลี้ยงหรือเกลี้ยง ใบเดี่ยวเรียงสลับ มีรูปร่างหลายแบบ ตั้งแต่รูปไข่จนถึงรูปไข่แกมรูปใบหอก กว้าง 5.8-7.6 ซม. ยาว 9.5-16.5 ซม. ปลายแหลม โคนเว้าลึกเป็นรูปหัวใจหรือรูปติ่งหู ขอบเรียบ ใบที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วเกลี้ยงทั้ง 2 ด้าน นอกจากเส้นใบและเส้นใบย่อยอาจมีขน แผ่นใบมีต่อมลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ กระจัดกระจาย เส้นใบออกจากโคนใบ 3-5 เส้น เส้นแขนงใบข้างละ 3-4 เส้น เส้นใบย่อยเรียงตามขวาง ใบคล้ายขั้นบันไดและสานกันเป็นร่างแห เส้นร่างแหเห็นชัดทางด้านล่างมากกว่าด้านบน ก้านใบยาว 3-6 ซม. ด้านบนเป็นร่องและมีขนละเอียด ด้านล่างเกลี้ยง ช่อดอกยาว 6-13.5 ซม. มีขน เป็นดอกที่มีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียในดอกเดียวกัน กลีบดอกมีเพียงชั้นเดียว เชื่อมติดกันเป็นหลอด ที่โคนหลอดป่องเป็นกระเปาะกลม ๆ กว้างยาว 5-7 มม. เหนือขึ้นไปคอดเป็นหลอดเล็ก ๆ กว้าง 1-2 มม. ยาวประมาณ 1 มม. ปลายกลีบเบี้ยว ข้างหนึ่งจะยื่นยาวออกไป รูปใบหอก กว้างประมาณ 8 มม. ยาว 1.6-2.5 ซม. ใบประดับรูปไข่ กว้าง 1-2 มม. ยาว 2-3 มม. โคนและปลายของใบประดับแหลม ขอบมีขน ตามผิวมีขนสั้น ๆ ทั้ง 2 ด้าน ก้านดอกยาว 5-8 มม. เกสรเพศผู้ 6 อัน อยู่แนบติดกับก้านเกสรเพศเมีย อับเรณูรูปรี ยาวประมาณ 1 มม. ยอดเกสรเพศเมียแยกออกเป็น 6 แฉก เป็นรูปกรวยยาว ปลายมน รังไข่อยู่ใต้วงกลีบเป็นรูปทรงกระบอกเล็ก ๆ กว้าง 1-2 มม. ยาว 0.5-1 ซม. ผลค่อนข้างกลม รูปไข่ หรือรูปขอบขนานแกมรี กว้าง 2.7-4.3 ซม. ยาว 3.3-5.5 ซม. ก้านผลยาว 3.3-5.8 ซม. ผลแก่จะแตกตามยาวจากขั้วไปยังโคน และก้านผลก็แตกแยกออกเป็น 6 เส้น โดยที่โคนก้านและปลายผลยังติดกันอยู่ รูปร่างคล้ายกระเช้า เมล็ดสีน้ำตาลอ่อน รูปไข่หัวกลับค่อนข้างป้อม หรืออาจเว้าเล็กน้อยเป็นรูปหัวใจกลับ มีปีก กว้าง 7-8 มม. ยาว 5-8 มม. ด้านหนึ่งผิวเรียบ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีตุ่มขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ห่าง ๆ

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)

ลักษณะของกระเช้าผีมด


ต้นกระเช้าผีมด 

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)
จัดเป็นพรรณไม้เถาเลื้อย ลำต้นเป็นเถา ผิวเป็นร่องไปตามยาวของลำเถา ลำต้นเมื่อยังอ่อนจะมีขน และขนจะค่อย ๆ หลุดร่วงไปจนเกือบเกลี้ยงหรือเกลี้ยง ขยายพันธุ์ด้วยวิธีการเพาะเมล็ด มีเขตการกระจายพันธุ์ในจีน อินเดีย ศรีลังกา บังกลาเทศ พม่า กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย ตลอดจนถึงหมู่เกาะโซโลมอนและทวีปออสเตรเลีย ส่วนในประเทศไทยพบขึ้นกระจายพันธุ์ในจังหวัดเชียงใหม่ ตาก จันทบุรี กาญจนบุรี สุราษฎร์ธานี ตรัง ภูเก็ต และจังหวัดนครศรีธรรมราช ตามป่าดิบ ป่าเบญจพรรณ ที่โล่งแจ้งและบนดินปนทราย บนพื้นที่ความสูงจากระดับน้ำทะเล 5-1,030 เมตร

 

ใบกระเช้าผีมด 

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)
ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบมีหลายแบบ ตั้งแต่รูปไข่ไปจนถึงรูปไข่แกมรูปใบหอก ปลายใบแหลม โคนใบเว้าลึกเป็นรูปหัวใจหรือรูปติ่งหู ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 5.8-7.6 เซนติเมตร และยาวประมาณ 9.5-16.5 เซนติเมตร ใบที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วจะเกลี้ยงทั้งสองด้าน นอกจากเส้นใบและเส้นใบย่อยที่อาจมีขน แผ่นใบจะมีต่อมลักษณะเป็นจุดเล็ก ๆ กระจัดกระจาย มีเส้นใบออกจากโคนใบ 3-5 เส้น ส่วนเส้นแขนงใบมีข้างละ 3-4 เส้น เส้นใบย่อยเรียงตามขวางใบคล้ายขั้นบันไดและสานกันเป็นร่างแห เส้นร่างแหนั้นจะเห็นได้ชัดทางด้านล่างมากกว่าด้านบน ก้านใบยาวประมาณ 3-6 เซนติเมตร ด้านบนเป็นร่องและมีขนละเอียด ส่วนด้านล่างจะเกลี้ยง

 

ดอกกระเช้าผีมด 

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)
ออกดอกเป็นช่อ ช่อดอกยาวประมาณ 6-13.5 เซนติเมตร มีขน เป็นดอกที่มีทั้งเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมียอยู่ในดอกเดียวกัน กลีบดอกมีเพียงชั้นเดียว เชื่อมติดกันเป็นหลอด ที่โคนหลอดจะมีลักษณะป่องเป็นกระเปาะกลม ๆ มีขนาดกว้างและยาวประมาณ 5-7 มิลลิเมตร เหนือขึ้นไปจะคอดเป็นหลอดเล็ก ๆ กว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1 มิลลิเมตร ปลายกลีบนั้นเบี้ยว ข้างหนึ่งจะยื่นยาวออกไป รูปใบหอก มีขนาดกว้างประมาณ 8 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 1.6-2.5 เซนติเมตร ใบประดับมีลักษณะเป็นรูปไข่ ปลายและโคนของใบประดับแหลม ส่วนขอบมีขน ใบประดับมีขนาดกว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 2-3 มิลลิเมตร ตามผิวมีขนสั้น ๆ ทั้งสองด้าน ก้านดอกยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร ดอกมีเกสรเพศผู้ 6 อัน อยู่แนบติดกับก้านเกสรเพศเมีย อับเรณูเป็นรูปรี ยาวได้ประมาณ 1 มิลลิเมตร ยอดเกสรเพศเมียแยกออกเป็นแฉก 6 แฉก เป็นรูปกรวยยาว ปลายมน ส่วนรังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มีลักษณะเป็นรูปทรงกระบอกเล็ก ๆ มีขนาดกว้างประมาณ 1-2 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 0.5-1 เซนติเมตร

 

ผลกระเช้าผีมด 

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)
ผลมีลักษณะค่อนข้างกลม รูปไข่ หรือเป็นรูปขอบขนานแกมรี มีขนาดกว้างประมาณ 2.7-4.3 เซนติเมตร และยาวประมาณ 3.3-5.5 เซนติเมตร ส่วนก้านผลยาวได้ประมาณ 3.3-5.8 เซนติเมตร ผลเมื่อแก่จะแตกออกตามยาวจากขั้วไปยังโคน และก้านผลก็จะแตกแยกออกเป็น 6 เส้น โดยที่โคนก้านและปลายผลยังติดกันอยู่ มีลักษณะรูปร่างคล้ายกระเช้า ภายในผลมีเมล็ดหลายเมล็ด

 

เมล็ดกระเช้าผีมด 

"ต้นกระเช้าผีมด" เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้! (รายละเอียด)
เมล็ดเป็นสีน้ำตาลอ่อน เมล็ดมีลักษณะเป็นรูปไข่หัวกลับค่อนข้างป้อม หรืออาจเว้าเล็กน้อยเป็นรูปหัวใจกลับ มีปีก ขนาดกว้างประมาณ 7-8 มิลลิเมตร และยาวประมาณ 5-8 มิลลิเมตร ด้านหนึ่งผิวเรียบ ส่วนอีกด้านมีตุ่มขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ห่าง ๆ

 

สรรพคุณของกระเช้าผีมด
1. ใบ ต้น ราก มีรสเผ็ดขมเล็กน้อย เป็นยาเย็นไม่มีพิษ ออกฤทธิ์ต่อหัวใจและปอด ใช้เป็นยาช่วยขับพิษร้อนถอนพิษไข้ (ใบ, ต้น, ราก)
2. ลำต้นใช้ต้มกับน้ำกินเป็นยาทำให้ธาตุปกติ (ต้น)
3. ใบใช้ตำเป็นยาพอกศีรษะลดไข้ (ใบ)
4. เมล็ดใช้เป็นยาแก้คออักเสบ เป็นไข้ (เมล็ด)
5. ใช้เป็นยารักษาโรคทางเดินปัสสาวะที่ติดเชื้อ (ใบ, ต้น, ราก)
6. ช่วยลดอาการบวมน้ำ (ใบ, ต้น, ราก)
7. ใบใช้ตำเป็นยาพอกแก้โรคผิวหนัง (ใบ)
8. ช่วยขับพิษที่ติดจากเชื้อไวรัส หรือพิษจากแมลงสัตว์กัดต่อย (ใบ, ต้น, ราก)
9. ใช้เป็นยาแก้ปวดบวม แก้อักเสบ กระเพาะอักเสบ ไขข้อปวดบวม (ใบ, ต้น, ราก)
10. ใบนำมาเผาให้ร้อน ใช้วางนาบไว้บนท้องหรือตามแขนขาที่บวม จะช่วยแก้อาการปวดบวมได้ (ใบ)
11. คนเมืองจะใช้ลำต้นนำมาต้มให้เด็กที่มีอาการไม่สบายอาบ (ต้น)
12. ชาวม้งจะใช้ใบนำมาต้มกับน้ำกินเป็นยาบรรเทาอาการปวดเอว หรืออาจทุบแล้วใช้ประคบเอว (ใบ)

ประโยชน์ของกระเช้าผีมด
ใช้ปลูกเป็นไม้ประดับทั่วไป เป็นพรรณไม้ค่อนข้างหายากชนิดหนึ่ง ไม่ค่อยพบขึ้นในป่าธรรมชาติของบ้านเรานัก ส่วนมากจะนำเข้ามาเป็นไม้ประดับหรือใช้ทำยา
ส่วนของใบใช้เป็นอาหารสำหรับการเลี้ยงผีเสื้อ
ชาวลั้วะจะใช้เปลือกต้นนำมาลอกออกแล้วนำเส้นใยมาสานสวิงได้เหมือนเส้นใยเพียด
นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอื่น ๆ ที่ระบุด้วยว่า ผลสุกสามารถนำมารับประทานได้ ยอดอ่อนและใบอ่อนใช้นึ่งหรือลวกเป็นผักจิ้มกับน้ำพริก ใช้ประกอบอาหาร เช่น แกง เป็นต้น

 

 

ขอบคุณข้อมูล : wikipedia , medthai