- 21 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันนี้ 21 พ.ย.60 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีผู้มีใช้ชื่อว่า Wallop Soda โพสต์ผ่านโลกโซเชียล โดยได้นำภาพบ้านชายคนหนึ่ง ลงเฟสบุ๊คพร้อมกับมีข้อความว่า ... “นายประพรรณ์ แก้วถมยา อายุ 54 ปี อาศัยอยู่ที่กระท่อมเก่าๆ จะพัง มิพังแหล่ ซึ่งก่อนหน้านี้นั้นเป็นที่บ้านของน้องชายคนที่ 3 ให้มาอาศัยอยู่ เมื่อหลายปีก่อน ปัจจุบันกระท่อมมีสภาพเก่าทรุดโทรมตามกาลเวลา ฝามุงด้วยไม้ระแนงกับไม้กระดาน กับ สังกะสี และกล่าวต่อไปอีกว่า ... ผู้ชายคนนี้ไม่มีความรู้ไม่ได้เรียนหนังสือ อ่านเขียนหนังสือไม่ออก เมียพาลูกชาย 1ขวบ หนีจากไปอยู่ที่บ้านเกิดทางอีสานเมื่อ 20 ปีก่อนนี้ มีอาชีพรับจ้างถอนมันสำปะหลัง –ปลูกมัน ,รับจ้างทั่วไปวันๆ พอมีรายได้เลี้ยงตัวเองไปวันๆ อยากเห็นหน้าลูกชาย อยากทำบ้านก่อนที่บ้านหรือกระท่อมน้อยนี้จะพังในอีกไม่กี่ปี แต่คงไม่มีปัญญาหาเงินมาทำบ้านใหม่ อยากให้มีคนได้ยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ตามที่แจ้งมาในเฟสบุ๊ค
ที่บ้านเลขที่ 78 ม.5 ต.สะพานหิน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี พบกับเจ้าของบ้านทราบชื่อคือนายประพรรณ์ แก้วถมยา อายุ54 ปี นายประพรรณ์กล่าวว่า “ตนมีภรรยาอยู่คนหนึ่ง มีลูกด้วยกัน 1 คน เป็นชาย จำได้ว่าลูกชายตอนนั้นตั้งชื่อตี๋หรือ ด.ช.ประพนธ์ แก้วถมยา หลังจากที่ภรรยาคลอดลูก ได้หนึ่งเดือนเศษ ก็พาลูกชายหนีไปอยู่บ้านเกิดจังหวัดสกลนคร จนถึงขณะนี้กว่า 20 ปี ไม่เคยทราบข่าวว่าเป็นตายร้ายดีอย่างไร อยากเห้นหน้าลูกมาก
ก่อนที่ภรรยาจะหอบลูกน้อยจากไป จำได้ว่าไม่ได้ทะเลาะกัน น่าจะมาจากทนอยู่กับความยากจนไม่ได้ จึงพาลูกไปอยู่ที่บ้านเกิดตนเอง ไม่ได้ว่าอะไร คิดว่าไปอยู่ที่อื่นอาจจะมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ทุกวันนี้ตนก็อดที่จะคิดถึงลูกไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ ทนลืมความหลังให้ได้ไม่พยายามที่จะคิดถึงลูก
ป่านนี้ไม่แน่ใจว่าลูกกับแม่จะมีชีวิตอยู่หรือไม่ อยากเห็น บางคืนนอนเอามือก่ายหน้าผากเมื่อหวนคิดถึงลูกขึ้นมา ถอนหายใจแล้วก็ข่มใจให้ลืมให้หลับ ทุกวันนี้อาศัยไปรับจ้างทั่วไปในไร่ในสวนพอได้เงินมาซื้อข้าวกับข้าวเลี้ยงปากเลี้ยงท้องไปวันๆ กินอดๆอยากๆ มีหมาไว้เป็นเพื่อนตัวหนึ่งทั้งทีวี.เครื่องเก่า ตู้เย็น พัดลมล้วนแต่เป็นของน้องชายที่ให้ใช้ในกระท่อมหลังนี้
ตนเองยังต้องคอยดูแลพ่อเลี้ยง แม่ตัวเองที่มีอายุ 78 ปีเท่ากัน ตัวเองมีพี่น้อง 4 คนแต่ละคนก็มีฐานะยากจนทุกคน ยังมีตนที่อยู่ใกล้คอยดูแลพ่อแม่ ซึ่งแม่เดินไม่ไหวมีโรคประจำตัวเดินไม่ได้ พ่อเลี้ยงก็ตาบอด บอดข้างเดียวกับแม่ด้านตาขวา
โดยพ่อเลี้ยง – แม่ ได้ปลูกกระท่อมหลังเล็กๆหลังหนึ่งในสภาพที่โย้จะพังมิพังแหล่เช่นกันเสาก็เอนใกล้จะพังเต็มทีแล้ว”นายประพรรณ์กล่าว
ด้านนายแดง เจนคง อายุ 78ปี พ่อน้าหรือพ่อเลี้ยง กล่าวว่า “ครอบครัวนี้ล้วนแต่เป็นคนยากจนจริงๆ แม้แต่บ้านก็แทบจะไม่ได้เป็นบ้านแล้ว ไม่มีเงินที่จะมาสร้างบ้านใหม่ ก็คงอยู่กันไปตามมีตามเกิด ไม่รู้ว่าบ้านกับคนนี้ ใครจะไปก่อนกันก็ยังไม่รู้ หลังคาก็รั่วฝาบ้านก็ผุพังเป็นจุน” นายแดง กล่าว
ขณะที่นางกอง เนียม ตะเพียนทอง ผู้เป็นแม่กล่าวว่า “ เห็นลูกตน แต่ละคนก็อดสงสารไม่ได้ แต่ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรได้ โดยบอกลูกๆว่าทนเอา หากินเลี้ยงตัวเองไปวันๆก็พอแล้ว รายได้ที่มีอยู่นิดหน่อยได้จากเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุคนละ 700 บาท บางเดือนแทบไม่พอซื้อข้าวกิน ยอมรับว่าตนและลูกๆเกิดมาจนจริงๆไม่โทษใคร
บ้านที่มีอยู่ก็ไม่น่าจะใช่บ้าน แค่ปลูกยกพื้นครึ่งศอก หากใครอยากจะบริจาคข้าวของเสื้อผ้าเก่าหรือจะช่วยเหลือซื้อสังกะสีให้ครอบครัวนี้สามารถติดต่อโดยตรงได้ที่นางกองเนียม ตระเพียรทอง หมายเลขโทรศัพท์ 093001 4812 บริจาคเงินได้ช่วยเหลือผ่านทางธนาคาร ธกส.สาขานาดีเลขบัญชี 018 102 010090...
ภาพ/ข่าว มานิตย์ สนับบุญ และทองสุข สิงห์พิมพ์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ปราจีนบุรี