- 22 พ.ย. 2560
ชาวบ้านแตกตื่น!! สาวใหญ่ ฝันเห็นหญิงใส่ชุดไทย บอกมีต้นตะเคียนฝังอยู่หน้าบ้าน ตัดสินใจจ้างรถแบคโฮมาขุด ตกดึกชาวบ้านพบเหตุการณ์ประหลาด
เมื่อวันที่ 21 พ.ย. 2560 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านชุมชนวัดธรรมสังเวช (วัดตากแดด) หมู่ 8 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี ว่าได้ขุดพบไม้ตะเคียนเป็นท่อน ขนาดความยาวประมาณ 2 เมตร และได้นำไปไว้ที่วัดธรรมสังเวช (วัดตากแดด) แล้ว จึงเดินทางไปตรวจสอบพบชาวบ้านหลายคนมากราบไหว้กันเป็นจำนวนมาก
สอบถาม นางสุรีภรณ์ คงรอด (แหวว) อายุ 54 ปี อยู่บ้าน ม.7 ต.หัวไผ่ อ.เมือง จ.สิงห์บุรี เล่าว่า ตนเคยฝันเห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยมาบอกว่ามีแม่ตะเคียนอยู่หน้าบ้าน เล่าให้คนอื่นฟังต่างก็แนะนำว่าให้ลองขุดขึ้นมาดู แต่ตนไม่ค่อยมีเงิน จึงผลัดมาเรื่อยจนกระทั่งตนมาเจ็บป่วย ไม่ค่อยสบาย ปวดเนื้อปวดตัว และก็ได้ฝันอีกว่ามีผู้หญิงใส่ชุดไทยมาบอกอีกว่ามีแม่ตะเคียนอยู่หน้าบ้าน ให้เอาขึ้นที “มึงเจ็บอย่างไรกูก็เจ็บอย่างนั้น” จึงบอกลูกๆ และตัดสินใจที่จะว่าจ้างรถแบคโฮมาขุดดู และได้ทำพิธีและใช้รถแบคโฮขนาดเล็กมาขุดโดยตนชี้จุดที่ฝันเมื่อวันที่ 19 พ.ย. 2560 ที่ผ่านมาแต่ยังขุดไม่เจอ ท่ามกลางชาวบ้านที่ทราบข่าวมาดูกันกว่า 300 คน และในช่วงกลางคืนที่กำลังมีขุดกันอยู่นั้นได้มีเหตุการณ์ประหลาดคือ มีชาวบ้านได้ถ่ายรูปตรงบริเวณที่ตนชี้จุดมีแสงสีเขียวเป็นแนวยาวเกิดขึ้น ทั้งที่บริเวณนั้นค่อนข้างมืดมีเพียงแสงไฟจากบริเวณบ้านส่องมาเท่านั้น แต่ลักษณะแสงสีเขียวที่เห็นนั้นไม่รู้ว่ามาจากไหน จนมาเมื่อวันที่ 20 พ.ย. จึงได้นำรถแบ็คโฮตัวใหญ่มาขุดจนลึกลงไปจากพื้นดินประมาณ 2 เมตร จึงพบไม้ตะเคียน ความยาวประมาณ 2 เมตร จึงได้นำมาล้างทำความสะอาด ในขณะนั้นมีหญิงคนหนึ่งซึ่งนุ่งชุดขาวบอกว่าเป็นร่างทรงและได้บอกว่าแม่ตะเคียนนี้ชื่อ สำเภาเงิน อยากมาอยู่ที่วัดธรรมสังเวช หรือที่ชาวบ้านเรียกกันว่า วัดตากแดด ชาวบ้านจึงได้ทำพิธีแห่ไม้ตะเคียนมาที่วัดตากแดด เมื่อเสร็จพิธีแล้วก็ได้มีชาวบ้านได้มาจุดธูปและได้นำแป้งฝุ่นมาลูบที่ต้นตะเคียนเพื่อหาเลขเด็ดกันไม่ขาดสายจนถึงวันนี้ ชาวบ้านได้แจ้งว่า เช้าวันที่ 30 พ.ย.นี้จะทำพิธีเชิญแม่ตะเคียนเข้าร่างทรง ตามความเชื่อ
วัดธรรมสังเวช แต่เดิมเป็นวัดร้าง ตั้งอยู่ริมคลองโพธิ์ชัยสร้างขึ้นประมาณ พ.ศ. 2419 มีนามเดิมว่า วัดตากแดด เพราะว่าได้ก่อสร้างแบบอตโยโค คือ เรือนมุงแถบเดียวหรือที่เรียกว่า เพิง ลักษณะคล้ายกับร้านขายกล้วยแขกของชาวบ้าน แสงแดดจึงได้ส่องทั้งช่วงเช้าและบ่ายเป็นที่น่าสังเวชของประชาชนที่ผ่านไปมาเป็นอย่างยิ่ง ต่อมาในปี พ.ศ. 2440 ตรงกับในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ได้รับอนุญาตให้ตั้งเป็นวัด มี พระอาจารย์ภู ซึ่งได้รับความไว้วางใจจากชาวบ้านและคณะสงฆ์ในสมัยนั้นให้เป็นเจ้าอาวาสรูปแรก และเป็นผู้นำในการบริหารและพัฒนาวัด โดยการขุดสระน้ำ และได้พบพระพุทธรูปจึงนำมาไว้เป็นพระประธานในโบสถ์และให้ชื่อว่า “หลวงพ่อหิน” ต่อมาในปี พ.ศ.2450 ในสมัยที่ พระวินัยธรรมกิ่งสุวรรณ์ เป็นเจ้าอาวาสได้เปลี่ยนชื่อวัดจากวัดตากแดดเป็น “วัดธรรมสังเวช”
ภาพ/ข่าว ณัฏฐนารา ปานมี สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสิงห์บุรี