“บิ๊กตู่”เข้มระบบความมั่นคง ใช้ม.44 ตั้งทีมใหม่“ก.ก.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” นายกฯคุมเอง มีอำนาจกำกับ-ให้คำปรึกษากอ.รมน.

“บิ๊กตู่”เข้มระบบความมั่นคง ใช้ม.44 ตั้งทีมใหม่“ก.ก.รักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร” นายกฯคุมเอง มีอำนาจกำกับ-ให้คำปรึกษากอ.รมน.

วันนี้ (22 พ.ย.) ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่คําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 51/2560 เรื่อง การแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ระบุว่า โดยที่ในปัจจุบันสถานการณ์อันเป็นภัยคุกคามด้านความมั่นคงได้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบ ไปอย่างรวดเร็ว มีความซับซ้อนและกระทําได้หลากหลายรูปแบบ โดยสถานการณ์อันเป็นภัยนั้น อาจเกิดขึ้นได้ทั้งภายนอกและภายในประเทศ จึงจําเป็นต้องแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร เพื่อให้กองอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร(กอ.รมน.) มีอํานาจหน้าที่ในการรองรับต่อสถานการณ์อันเป็นภัยดังกล่าว  
 

 

ดังนั้น หัวหน้าคสช.อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 265 ของรัฐธรรมนูญ ประกอบกับ มาตรา 44  ของรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557  ให้มีคณะกรรมการอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรคณะหนึ่ง ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรีหรือรองนายกฯ ซึ่งนายกฯมอบหมายเป็นประธานกรรมการ รมว.กลาโหมและรมว.มหาดไทยเป็นรองประธานกรรมการ ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เป็นกรรมการและเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นกรรมการและเลขานุการ  
 

 

 

นอกจากนี้ให้คณะกรรมการมีอํานาจหน้าที่กํากับ ให้คําปรึกษาและเสนอแนะต่อ กอ.รมน.ในการปฏิบัติงาน วางระเบียบเกี่ยวกับการปฏิบัติงานของ กอ.รมน. กอ.รมน.ภาค กอ.รมน.  อย่างไรก็ตาม ให้ กอ.รมน. ภาค แต่ละแห่งมีคณะกรรมการอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในภาคประกอบด้วย ผอ.รมน.ภาค เป็นประธานกรรมการ อธิบดีอัยการภาคที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีอาวุโสสูงสุด แม่ทัพน้อย ผู้บัญชาการ ตํารวจภูธรภาคที่อยู่ในเขตพื้นที่ที่มีอาวุโสสูงสุด

 

และผู้แทนกระทรวงมหาดไทย เป็นรองประธานกรรมการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นต้นและให้ กอ.รมน. จังหวัดแต่ละแห่ง มีคณะกรรมการอํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดด้วยเช่นกัน ซึ่งประกอบด้วย ผอ.รมน. จังหวัด เป็นประธานกรรมการ รองผู้ว่าราชการจังหวัดซึ่งผู้ว่าฯมอบหมาย  รองผู้อํานวยการรักษาความมั่นคงภายในจังหวัดฝ่ายทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  โดยคําสั่งนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป