ธารน้ำใจไม่ขาดสาย หลั่งไหลช่วยชาวผักไห่กรุงเก่า ที่ถูกน้ำท่วม ตำรวจภูธรภาค 1 และ มูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมช แจกถุงยังชีพ(ชมคลิป)

วันที่ 22 พ.ย.2560 ในช่วงเช้า พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รรท.ผบช.ภ.1 พร้อมด้วย พล.ต.ต.สมชาย พัชรอินโต รอง ผบช.ภ.1 ,พ.ต.อ.สุภธีร์ บุญครอง รรท.ผบก.สส.ภ.1 และ ชมรมแม่บ้านตำรวจภูธรภาค1 เดินทางมายัง สภ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา เพื่อมอบสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคถุงยังชีพช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบภัยน้ำท่วม โครงการจิตอาสา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ ปันน้ำใจช่วยผู้ประสบภัยน้ำท่วม” มอบสิ่งของให้กับข้าราชการตำรวจ สภ.บางบาล เยี่ยมผู้ประสบภัยน้ำท่วมที่ศูนย์พักพิง สภ.บางบาล โดยมี พ.ต.อ.กันตพงษ์ นิลขำ ผกก.สภ.บางบาล และ นายกเทศมนตรีตำบลมหาพราหมณ์ กล่าวต้อนรับ และ ขอบคุณ จากนั้นแจกสิ่งของให้กับประชาชนที่มาต้อนรับ และเดินทางต่อไปยัง บ้านโรง ต.สะพานไทย นั่งเรือท้องแบนเข้าไปมอบสิ่งของให้กับราษฎรที่ติดเกาะอยู่บนบ้าน ไม่สามารถออกมารับสิ่งของได้ เนื่องจากมีน้ำท่วมในระดับสูง จำนวน 10 หลัง เพื่อเป็นการบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้น

ในช่วงบ่ายนายสาธิต ปิตุเตชะ  รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย อ.ผ่องศรี ธาราภูมิ (ลพบุรี) ดร.เกียรติศักดิ์ ส่องแสง(ปทุมธานี) นายสมบูรณ์ มีนาค อดีตผู้สมัคร ส.ส.ผู้ประสานงานนำสิ่งของเครื่องอุปโภคบริโภคถุงยังชีพ ของมูลนิธิ ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมชมามอบให้กับผู้ประสบอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่ อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยจุดแรกที่วัดลาดชิด อบต.ลาดชิตจำนวน 445 ชุด จุดที่สองวัดท่าดินแดง อบต.ท่าดินแดง จำนวน 555 ชุด พร้อมทั้งลงเรือเยี่ยมและมอบถุงยังชีพ ผู้สูงอายุ อายุ 91 ปี ที่ประสบภัยน้ำท่วมเพื่อให้กำลังใจในการดำรงชีวิตคู่กับสายน้ำ

ด้านนายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน ลงพื้นที่ ประตูระบายน้ำกุฎี อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามการระบายน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำเจ้าพระยาตอนล่าง พร้อมพบปะพูดคุยทำความเข้าใจกับเกษตรกรถึงแนวทางการระบายน้ำและเก็บน้ำสำรองไว้ในทุ่งเพื่อทำการเกษตร โดยพบว่าชลประทานพระนครศรีอยุธยา รายงานว่าจะระบายน้ำในทุ่งให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้ โดยระบุ ขณะนี้ปริมาณน้ำในทุ่งเจ้าเจ็ดมี 439 ล้านลูกบาศก์เมตร สามารถรับน้ำจากทุ่งผักไห่ได้ 11 ล้านลูกบาศก์เมตร มีการสูบระบายออกแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย พร้อมเปิดบานระบายน้ำออกแม่น้ำน้อย รวมถึง ออกแม่น้ำเจ้าพระยา และเปิดระบายลงคลองพระยาบันลือ รวมจะระบายออกจากทุ่งเจ้าเจ็ด 23.68 ล้านลูกบาศก์เมตร ทำให้ปริมาณน้ำในทุ่งลดลง 12 ล้านลูกบาศก์เมตร คาดว่าวันที่ 15 ธันวาคม ระดับน้ำในทุ่งจะเข้าสู่สภาวะปกติ

ทุ่งผักไผ่ 40 ล้านลูกบาศก์เมตร สำหรับปริมาณที่เหลือดูจากการระบาย 2 ทุ่ง วันหนึ่ง 12.5 ล้านลูกบาศก์เมตร อย่างไรก็ตาม คาดว่าช่วงนี้จะระบายน้ำออกได้ทัน ภายในวันที่ 15 ธันวาคม แต่ช่วงไหนระบายน้ำได้ช้า ชลประทานก็จะติดตั้งเครื่องสูบน้ำเสริม อย่างที่ท่านเห็น อย่างไรก็ต้องให้จบภายในวันที่ 15 ธันวาคมนี้หลังจากนั้นทำได้แล้ว ทั้ง 13 ทุ่ง ทุ่งในที่ระบายน้ำออกสำเร็จแล้วจนจบภารกิจ เมื่อเช้าไปดูของฝั่งซ้ายของชัยนาท- ป่าสัก ก็เริ่มเตรียมแปลงทำนากันแล้ว พื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยาถือว่ามีจุดอ่อน เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ จะเห็นได้จากทางน้ำเข้ามีน้อย ทางน้ำออกก็ระบายได้ช้า หากมีน้ำทะเลหนุนยิ่งกลายเป็นปัญหาของการระบายน้ำอย่างมาก ดังนั้น จึงจำเป็นต้องถอดบทเรียนของปีนี้ไปปรับใช้ในปีหน้า โดยหาทางน้ำออกให้รวดเร็วที่สุด

ข่าว/ภาพ เกียรติยศ ศรีสกุล ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา