- 23 พ.ย. 2560
FB : DEEPS NEWS
จากกรณีนายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ ได้ร้องสื่อมวลชนว่าลูกชายคือ นักเรียนเตรียมทหาร (นตท.) ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือ “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 เสียชีวิตในวันที่ 17 ตุลาคม หลังกลับเข้าโรงเรียนเตรียมทหาร เพียง 1 วัน และไม่ได้รับคำชี้แจงรายละเอียดจากผู้เกี่ยวข้อง ได้รับเพียงใบมรณบัตรชี้แจงสาเหตุการตายจากภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน ครอบครัวจึงข้องใจถึงสาเหตุการตาย รวมทั้งยังพบว่า อวัยวะภายในของ น้องเมย บางส่วนได้หายไป
ต่อมานายสมณ์ พรหมรส ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ออกมากล่าวกรณีการเสียชีวิตของนายภคพงศ์ ตัญกาญจน์ หรือน้องเมย นักเรียนเตรียมทหารชั้นปีที่ 1 ซึ่งครอบครัวนำร่างไปชันสูตรและพบว่าอวัยวะภายในหาย และ ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิตว่า ในวันที่ 27 ต.ค. ทางพนักงานสอบสวนได้ส่งร่างของนายภคพงศ์มาตรวจสอบชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง ต่อมาในวันที่ 30 ต.ค. มีการตั้งคณะกรรมการในการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญมาตรวจพิสูจน์และผ่าชันสูตรครั้งที่ 2 ในวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา จึงพบว่าร่างของนายภคพงศ์มีอวัยวะภายในที่หายไป ได้แก่ หัวใจ สมอง และกระเพาะอาหาร จึงได้แจ้งกับทางพนักงานสอบสวนว่ามีอวัยวะภายในบางส่วนที่หาย และขออวัยวะที่หายไปคืน เนื่องจากทางเราต้องทำรายงานผลการตรวจพิสูจน์เพื่อสาเหตุข้อเท็จจริงให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
นอกจากนี้ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ยังกล่าวอีกว่า ในวันที่ 23 พ.ย. พนักงานสอบสวนจะส่งอวัยวะ สมองและหัวใจ ของนายภคพงศ์ มายังสถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ เพื่อตรวจพิสูจน์ คาดวันที่ 30 พ.ย.นี้จะสามารถสรุปผลชันสูตรได้ ขณะนี้เหลือเพียงการตรวจสมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร ส่วนการผ่าพิสูจน์ร่างส่วนอื่นๆ ดำเนินการไปแล้ว ยืนยันว่าไม่ได้พูดคุยกับทางทีมแพทย์ชันสูตรศพ โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า และทางพนักงานสอบสวน ก็ไม่ได้แจ้งว่าอวัยวะภายในบางส่วนของ นายภคพงศ์หายไป สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ทราบจากการผ่าชันสูตรรอบ 2 จึงได้แจ้งครอบครัวของนายภคพงศ์ให้ทราบและอนุญาตให้สามารถเข้าไปดูการผ่าชันสูตรศพได้
ล่าสุดวันนี้นายพิเชษฐ และนางสุกัลยา ตัญกาญจน์ พ่อและแม่ รวมทั้ง น.ส.สุพิชชา ตัญกาญจน์ พี่สาวน้องเมย ได้เดินทางมาที่โรงพยาบาลพระมงกุฏ เพื่อรับอวัยวะของน้องเมย ที่ทางโรงพยาบาลได้นำออกมาจากร่างของน้องเมย คือ สมอง หัวใจ และกระเพาะอาหาร โดยทันทีที่นางสุกัลยา มาถึงและเห็นกล่องเก็บอวัยวะก็ร่ำไห้ออกมา ขณะที่นายพิเชษฐ ได้กล่าวว่า ตนมีลูกชายเพียงคนเดียวทั้งได้ตั้งความหวังเอาไว้กับลูกชาย แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์การเสียชีวิตขึ้น ทางผู้ที่เกี่ยวข้อง ผู้บริหารระดับสูงอย่างพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้ให้สัมภาษณ์ที่ฟังแล้วตนและครอบครัวไม่รู้สึกดีเลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พลเอก ธารไชยยันต์ ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด
“ท่านผบ.ส.ส.พูดไม่ให้ราคาลูกชายผมเลย เหมือนลูกผมราคาต่ำ หรือเพราะท่านคงไม่มีลูก ท่านประวิตรนี่ก็พูดไม่ได้เลย ส่วนท่านนายกฯพูดยังโอเค เรายังรู้สึกว่าท่านพออาศัยได้ ขอฝากลุงตู่ด้วย ช่วยเรา ท่านยังพออาศัยได้ จากการที่ท่านพูดออกมา” นายพิเชษฐ กล่าว อย่างไรก็ตามขณะนี้ทางครอบครัวน้องเมย ได้นำอวัยวะทั้งหมดที่รับมาจากโรงพยาบาลพระมงกุฏไปมอบให้กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์เพื่อตรวจต่อไปในวันนี้