ล้งจีนแสบ พ่นพิษ !! ชาวสวนลำไยเมืองจันท์ทุกข์หนัก ล้งเก็บลำไยแค่ราคามัดจำ ปล่อยหล่นทิ้ง ลดราคา 30 เหลือ 3 บาท กรรมซัด เจอช้างป่ารุมกินยกสวน

จากปัญหาราคาลำไยตกต่ำ ชาวสวนถูกล้งจีนทิ้งไม่มีเงินจ่าย ชาวล้งเดือดร้อนตลาดลำไยที่จีนชงักจนทำให้เดือดร้อนกันทั่วหน้า คราวนี้เคราะห์กรรมซ้ำซาก ชาวสวนลำไยยังมาถูกโขลงช้างป่า กว่า 20 ตัวเข้าจัดโต๊ะจีนช้างกินรูดจนเกลี้ยงสวนซ้ำทำลายต้นลำไยเสียหายหลายต้น ได้แต่ก้มหน้ารับกรรม

นาง พูลสุข ภักดี อายุ 54 ปี บ้านเลขที่58 หมู่ที่ 1 ตำบลทรายชาย อำเภอสอยดาว จังหวัดจันทบุรี ชาวสวนลำไยผู้เดือดร้อนรายนี้ได้นำผู้สื่อข่าวเข้าตรวจดูความเสียหายอันเกิดจากช้างป่าหลายสิบตัวเข้ามาทำลายกัดกินเสียหายทั้งผลผลิตและถูกโค่นต้น โยนางพูลสุขเล่าว่า ตนและสามีได้ช่วยกันทำสวนลำไยอายุต้นราว 20 ปี ซึ่งในปีนี้คาดหวังไว้ที่ 20 ตันหรือ 2 หมื่นกิโล ในราคาที่ตกลงกับทางล้งผู้ซื้อในราคาเพียง กิโลกรัมละ 30 บาท แต่หลังจากถึงช่วงฤดูเก็บเกี่ยว ล้งได้เข้ามาเก็บลำไยตามนัด แต่ทางผู้เก็บไม่ยอมเก็บหมดต้น โดยเก็บไปเพียงน้ำหนักตามราคาเงินที่ชาวสวนเอามัดจำมา คือ 2 แสนบาท แล้วปล่อยทิ้งไม่ยอมเข้าเก็บ แต่มีการเจรจากันรอบใหม่หากจะให้เข้าเก็บต้องเก็บแบบรูดลูกร่วงซึ่งราคาจาก 30 บาท ลดเหลือ 3 บาท นางพูลสุข จึงไม่ยอมให้เข้าเก็บและขอยกเลิกสัญญาเพื่อหวังจะเก็บขายเอง แต่เก็บไปได้พียงนิดเดียว ก็ถูกโขลงช้างป่านับ 20 ตัว บุกเข้ากินติดต่อกัน หลายวันจนหมดสวน

จังหวัดจันทบุรี ได้รับผลกระทบจากช้างป่าหลายอำเภอและที่หนักสุดคือ แก่งหางแมว สอยดาว และโป่งน้ำร้อน ซึ่งที่ผ่านมานั้นหน่วยงานทางราชการได้แต่ระดมความคิดที่จะแก้ไขปัญหาโดยแต่ละพื้นที่อุปสรรคแตกต่างกัน อำเภอโป่งน้ำร้อน และสอยดาว เป็นพื้นที่ ที่แก้ปัญหาค่อนข้างยากเนื่องจากแหล่งชุมชนอยู่ติดกับแนวป่า และปัญหาใหญ่คือช้างข้ามถนนหลวงเข้าหากิน ก่อให้เกิดอันตรายจากผู้ใช้ถนนและชาวบ้านชาวสวนในพื้นที่ โดยปัญหานี้ยังไม่มีหน่วยงานใดสามารถจะดำเนินการแก้ไขได้ จึงตกที่ชาวบ้านที่จะต้องอยู่อย่างหวดกลัวกันต่อไป

ข่าว/ภาพ  ไพโรจน์ อนุ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค ทีนิวส์ จ.จันทบุรี