รักษาสารพัดโรคได้จริงหรือ?!! นายอำเภอบุกพิสูจน์น้ำทิพย์สีเหลืองใช้กินและหยอดตา หวั่นไม่ปลอดภัยกับชาวบ้าน เร่งนำน้ำตรวจพิสูจน์สารพิษ

 

นายอำเภอบุกพิสูจน์น้ำทิพย์สีเหลืองใช้กินอาบและหยอดตา รักษาสารพัดโรคได้จริงหรือไม่! หวั่นไม่ปลอดภัยกับชาวบ้าน ตรวจหาสารพิษที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ คาด 7 วันรู้ผล

เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณี ชาวบ้านในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์และต่างจังหวัด ตักน้ำทิพย์จากบ่อน้ำ ในพื้นที่สำนักสงฆ์ขุมบัว เลขที่ 9/9 หมู่ 1 ต.นาอิน อ.พิชัย จ.อุตรดิตถ์ซึ่งก่อด้วยวงปูนซิเมนต์รัศมีกว้างประมาณเกือบ 1 เมตร ลึกกว่า 4 เมตร ตั้งอยู่กลางสระน้ำขุมบัว ที่มีเทวดาคุ้มครองอยู่ตามความเชื่อที่ว่า ใครได้ตักน้ำจากที่นี่ไปอาบหรือดื่มกินแล้ว จะเกิดความเป็นสิริมงคลกับชีวิตตนเองรวมถึงครอบครัว และยังเชื่อว่าน้ำในบ่อนี้ สามารถรักษาโรคต่างๆได้ด้วย หากนำไปหยอดตาจะช่วยไม่ให้เกิดต้อเนื้อต้อหินต้อกระจกกับผู้สูงอายุ รวมถึงโรคผิวหนังหากได้นำไปอาบเป็นประจำ โดยมีชาวบ้านแวะเข้ามากราบไหว้พระประธานเพื่อทำการขออนุญาตนำน้ำทิพย์ไปรักษา ด้วยการถือขวดน้ำพลาสติกและกระติกน้ำเดินข้ามสะพานไม้ตรงไปยังบ่อน้ำทิพย์กราบไหว้พระพุทธรูป ตั้งอยู่ข้างบ่อพร้อมขออนุญาตเปิดฝาบ่อน้ำ แล้วใช้ถังที่ผูกติดกับเชือกตักน้ำขึ้นมาเทบรรจุลงใส่ขวด และถังพาสติกที่จัดเตรียมไว้น้ำจากบ่อจะมีลักษณะสีเหลืองต่างจากน้ำในสระน้ำขุมบัวที่มีลักษณะใสนั้น

วันนี้ นายเจษฎา ลิ้มศรีตระกูล นายอำเภอพิชัย พ.ต.ท.จิระพงศ์ ชุมภูอินทร์ สวญ.สภ.นาอิน พร้อมด้วย นายคณิตธวัช บำรุงรัตน์ ปลัดอำเภอหัวหน้าฝ่ายความมั่นคง ว่าที่ ร.ต.รักศักดิ์ รัตนเสถียร ปลัด อบต.นาอิน ปฏิบัติหน้าที่ นายก อบต.นาอิน และนางศรีไพร จันทร์เยี่ยม ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลนาอิน นายเดียว เขียวดี กำนันตำบลนาอิน และ นายวันชัย เกียรติยศ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 1 เข้าตรวจสอบบ่อน้ำทิพย์ดังกล่าว โดยมีนายไย สุริมา อายุ 87 ปี ปราชญ์ชาวบ้าน พร้อมด้วยนางทวี  กอนฤทธิ์  อายุ 77 ปี ชาวบ้านนาอิน ผู้ที่นำน้ำทิพย์จากบ่อมากิน อาบและหยอดตาเพื่อรักษาโรคต้อเนื้อต้อหินต้อกระจก ร่วมเล่าประวัติความเป็นมาของบ่อน้ำทิพย์ที่เกิดจากสระน้ำขุมบัวแห่งนี้ พร้อมเล่าถึงรายละเอียดในอดีตที่ชาวบ้านนำน้ำทิพย์นี้ไปรักษาโรคดังกล่าวรวมถึงโรคอื่นทุกโรคหายมาแล้ว ซึ่งก่อนจะนำน้ำทิพย์ไปจากบ่อนี้จะต้องอธิฐานจิตบอกกล่าวว่าจะนำไปทำอะไรและขออนุญาตนำน้ำออกไปด้วย โดยชาวบ้านจะทิ้งเงินส่วนหนึ่งไว้เพื่อเป็นค่าครู เงินจำนวนนี้จะกระจายเต็มเกลื่อนทั่วพื้นที่ไม่มีใครกล้าหยิบไปใช้ ทางคณะกรรมการจึงนำเงินดังกล่าวมาบูรณะสถานที่แห่งนี้ด้วยการสร้างบ่อน้ำพร้อมสะพานเดิน

นายไย ปราชญ์ชาวบ้าน ยังได้เล่าถึงความศักดิ์สิทธิ์ของน้ำทิพย์ในบ่อแห่งนี้ รวมถึงคำสาปแช่งจากพระร่วงที่ห้ามนำสัตว์น้ำและสัตว์ทั่วไปที่อยู่บริเวณสระน้ำไปกินเป็นอันขาด หากใครไม่เชื่อฟังขอให้มีอันเป็นไป คนที่ไม่เชื่อฝืนคำสาปได้นำปลาในสระและที่อาศัยอยู่บริเวณสระไปกินก็มีอันเป็นทุกไปราย จนปัจจุบันนี้ไม่มีใครกล้าจับสัตว์น้ำหรือปลาและนกที่อยู่ในบริเวณสระน้ำนี้ไปกิน เพราะกลัวคำสาปแช่งที่เป็นจริง

ทั้งนี้ นายเจษฎา นายอำเภอพิชัย จุดธูปบอกกล่าวสิ่งศักดิ์สิทธิ์เทพเทวดาดูแลบ่อน้ำทิพย์แห่งนี้ ถึงวัตถุประสงค์ของการเดินทางมาตรวจสอบน้ำทิพย์ในบ่อ พร้อมขอนำน้ำทิพย์ไปตรวจสอบที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 2 จ.พิษณุโลก โดยมอบหมายให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่งเสริมตำบลนาอินเป็นผู้ดำเนินการ ตรวจสอบวิเคราะห์หาสารปนเปื้อน สารมีพิษ หรือโลหะหนัก ที่อาจส่งผลอันตรายต่อสุขภาพร่างกายของคน เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อชาวบ้านกรณีนำไปบริโภคหรือนำไปรักษาด้วยการหยอดตา สำหรับผลการตรวจวิเคราะห์คาดภายใน7 วันหรือสิ้นเดือนนี้จะทราบผล และจะแจ้งให้ประชาชนทราบต่อไป เบื้องต้นยังไม่สั่งห้ามใช้น้ำจากบ่อนี้ จนกว่าผลพิสูจน์จะออกมาว่าพบอันตราย

จากนั้น นายเจษฎา นายอำเภอพิชัย พร้อมคณะ เข้ากราบนมัสการ พระอาจารย์ธวัชชัย  ธีรปญฺโญ ผู้ดูแลสำนักสงฆ์ขุมบัว แจ้งถึงการเหตุผลการเดินทางมาในครั้งนี้ ถึงวัตถุประสงค์ดังกล่าวพร้อมให้การสนับสนุนพื้นที่สำนักสงฆ์ขุมบัวเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางพระพุทธศาสนา ด้านวิปัญสนากรรมฐาน เชื่อมโยงกับแหล่งประวัติศาสตร์ของอำเภอพิชัย อาทิ เขาบันไดม้า(บันไดศิลาแลง)อายุกว่า 500 ปี ที่มีตำนานเชื่อมโยงกันสมัยพระร่วง, อาคารพิพิธภัณฑ์บ้านเกิดพระยาพิชัยดาบหัก บ้านห้วยคา, หลวงพ่อโต วัดหน้าพระธาตุ, พระพุทธรูป 9 ปาง เฝ้าพระพุทธเจ้าเข้านิพพาน วัดมหาธาตุ โดยปรับปรุงสระบัวแห่งนี้ ซึ่งมีทั้งบัวขาวและบัวแดงอยู่ภายในสระเดียวกันให้ดูโดดเด่น ปรับปรุงทัศนียภาพขอบสระให้ดูสวยงาม เพื่อเป็นสถานที่วิปัสนากรรมฐานหรือเดินจงกรม ปรับปรุงสะพานไม้ที่ทรุดโทรมให้ดูเด่นและเดินสะดวกขึ้น ด้วยการใช้กำลังจิตอาสาในพื้นที่เข้าพัฒนา 

นอกจากนี้ นายอำเภอพิชัย รับทราบปัญหาความเดือดร้อนและความต้องการของชาวบ้านเรื่องไฟฟ้าไม่พอเพียง ถนนเข้าพื้นที่ไม่สะดวกต่อการขนผลิตการเกษตรออกสู่ภายนอก จึงมอบหมายให้ว่าที่ ร.ต.รักศักดิ์ รัตนเสถียร ปลัด อบต.นาอิน ผู้ทำหน้าที่แทนนายก อบต. ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ทางหลวงชนบทอุตรดิตถ์ เข้าปรับปรุงถนนทางเข้าสำนักสงฆ์และเข้าพื้นที่ชาวบ้านให้มีความสะดวกกว่าเดิม, ประสานการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดอุตรดิตถ์ปรับปรุงระบบไฟฟ้าให้มีกำลังวัตต์เพิ่มขึ้น เพื่อสอดคล้องการขยายตัวของชาวบ้านที่มีมากเพิ่มขึ้นเช่นกัน 

ภาพ/ข่าว สมภพ  สินพิพัฒนฤดี สำนักข่าวทีนิวส์ จ.อุตรดิตถ์