จะติดคุก เพราะอารมณ์ชั่ววูบ!!แม่ค้าไก่ย่าง ร้อนเงินจนหน้ามืด ขโมยตู้บริจาค ก่อนสำนึกผิดโยนทิ้ง แต่ตร.เผย ความผิดสำเร็จแล้ว

วันที่ 24 พ.ย.2560 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีที่น่าจะเป็นอุทาหรณ์อย่างดี สำหรับผู้คิดจะลักเล็กขโมยน้อย เมื่อลงมือก่อเหตุขโมยของไปแล้ว แม้จะสำนึกผิดนำมาส่งคืน แต่กฎหมายก็ไม่ปราณี ต้องถูกดำเนินคดีไม่มีข้อละเว้น เพราะถือว่า ความผิดสำเร็จไปแล้ว

เรื่องราวนี้ได้รับการเปิดเผยจาก ร.ต.อ.วันชัย พยัคฆา พนักงานสอบสวน สภ.ขามสะแกแสง จ.นครราชสีมา ที่ได้สอบปากคำทำประกอบสำนวนคดีของ น.ส.ฐานิตา หรือนิด ผันกลาง อายุ 31 ปี แม่ค้าไก่ย่าง หลังถูกตำรวจตามจับกุมได้ที่บ้านพักใน ต.เมืองนาท อ.ขามสะแกแสง พร้อมของกลางตู้รับบริจาค ภายในมีเงินสด แบงก์ละ 20 และเหรียญรวมกว่า 600 บาท สภาพยังถูกปิดล็อกกุญแจ ไม่มีร่องรอยงัดแงะ

 

           

 

สำหรับพฤติการณ์ น.ส.ฐานิตา ได้ก่อเหตุลักตู้บริจาคเงิน ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลบ้านห้วย ต.เมืองนาท ริมถนนหนองหัวฟาน – บ้านห้วย ขณะไปขอพบแพทย์ประจำ เนื่องจากมีอาการปวดท้อง แต่ปรากฏว่า ไม่มีแพทย์และเจ้าหน้าที่อยู่ จึงอาศัยจังหวะทีเผลออุ้มตู้บริจาคเงินขึ้นรถจักรยานยนต์หลบหนี เหตุเกิดช่วงบ่าย 3 วันที่ 22 พ.ย. มีกล้องวงจรปิดจับภาพได้ชัดเจน

แต่เมื่อเวลาผ่านไปไม่ถึง 30 นาที แม่ค้าไก่ย่างรายนี้เกิดรู้สึกสำนึกผิด จึงนำตู้บริจาคมาวางทิ้งไว้ข้างทางใกล้ ๆ กับสถานที่ก่อเหตุ โดยที่ยังไม่ได้เปิดเอาเงิน แต่ขณะนั้นเจ้าหน้าที่อนามัยเปิดดูกล้องวงจรปิด เห็นภาพ น.ส.นิด อุ้มตู้บริจาคหายไป จึงแจ้งความตำรวจให้ติดตามจับกุม ก่อนมีพลเมืองดีมาพบตู้บริจาคถูกวางทิ้งไว้ข้างทาง

หลังข้ามคืนไปแล้ว ตำรวจสืบสวน สภ.ขามสะแกแสง ทราบเบาะแสว่า ใครเป็นผู้ก่อเหตุขโมยตู้บริจาค จึงกดดันจนในที่สุด น.ส.ฐานิตา ต้องยอมเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เมื่อควบคุมตัวมาสอบปากคำ ให้การรับสารภาพว่า ก่อเหตุลักตู้บริจาคเงินจริง เพราะต้องการหาเงินค่างวดรถจักรยานยนต์ งวดละ 2,000 บาทให้ครบ ติดค้างมา 3 เดือนแล้ว ในวันนั้นไฟแนนช์แจ้งว่าถ้าไม่จ่ายจะยึดรถทันที จึงเกิดความเครียด เพราะขณะนั้นหาเงินค่างวดได้แค่ 1,000 บาท เป็นเงินรายได้จากขายไก่ย่าง ยังขาดอีก 1,000 บาท จะครบค่างวด จึงตัดสินใจขโมยตู้บริจาคเพื่อหวังจะเอาเงินไปจ่ายค่างวดให้ครบ แต่หลังก่อเหตุได้ 15 นาที ปรากฏว่ามีคนช่วยหาเงินค่างวดได้ครบ 2,000 บาท จึงสำนึกผิดนำตู้บริจาคมาวางทิ้งไว้ข้างทางใกล้ ๆ กับ รพ.สต.บ้านห้วย ที่เกิดเหตุ

อย่างไรก็ตาม คดีนี้ตำรวจต้องดำเนินคดีอย่างตรงไปตรงมาตามข้อกฎหมาย จึงแจ้งข้อหาลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะ เพราะถือว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดโดยสำเร็จแล้ว แต่ปล่อยตัวชั่วคราว เพราะว่าผู้ต้องหาเข้ามอบตัวและไม่มีพฤติกรรมหลบหนี .

 

/// ภาพ/ข่าว โยธิน แทนพลกรัง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.นครราชสีมา