แบบนี้ใครผิด!? กระบะชนเด็กชาย 8 ขวบปั่นจักรยานกลางถนน เพราะหลบชาวนาตากข้าวบนพื้นผิว ทำให้เหลือเลนเดียว เจ็บสาหัส

วันนี้ (24 พ.ย. 60) เวลาประมาณ 15.50 น. ร.ต.อ.กฤตธัช แก้วประดับกุล รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองลีง ได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่ามีรถกระบะปิคอัพเฉี่ยวชนเด็กนักเรียนขณะเดินทางกลับจากโรงเรียน จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ชีพตำบลชุมแสง รุดมายังที่เกิดเหตุ

 

ที่เกิดเหตุบริเวณราวสะพานระหว่างบ้านผาง-บ้านอุดม ต.ชุมแสง อ.จอมพระ จ.สุรินทร์ พบชาวบ้านและเด็กนักเรียนมามุงดูเป็นจำนวนมาก เนื่องเป็นเวลาเลิกเรียน จุดเกิดเหตุพบรอยเลือดติดอยู่บนกองข้าวที่ชาวบ้านตากไว้ บนถนนกินเนื้อที่ไปครึ่งเลน พร้อมกันนี้พบผู้สูงอายุนั่งร้องให้ใกล้กับกองเลือดอย่างน่าเวทนา จากการสอบถามชาวบ้าน จึงทราบว่าเป็นย่าของผู้ได้รับบาดเจ็บที่มาดูหลานหลังจากที่ชาวบ้านไปบอก แต่ไม่พบหลาน พบแต่เพียงรอยเลือดโดยไม่ทราบชะตากรรมของหลานทำให้ร้องไห้ด้วยความเป็นห่วง ส่วนผู้บาดเจ็บทางกู้ชีพชุมแสงนำตัวส่งโรงพยาบาลจอมพระ อย่างเร่งด่วน เพราะมีเลือดออกตามปากและจมูกพร้อมแผลถลอกบริเวณใบหน้า อาการสาหัส และไม่รู้สึกตัว เบื้องต้นอยู่ในความดูแลของแพทย์พยาบาลอย่างใกล้ชิดพร้อมกับต้องใส่ท่อช่วยหายใจ

เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบถามผู้เป็นย่า ทราบชื่อภายหลังว่า ชื่อเด็กชายญาณภัทร สายกระสุน อายุ 8 ปี เป็นนักเรียนชั้นป. 2 โรงเรียนบ้านผางอุดมสมบูรณ์วิทยา ใกล้กันพบจักรยานสองล้อสภาพพังยับเยินอยู่ข้างถนน และอีกฟากของถนนพบรอยหญ้าเป็นทางลงไปยังคูน้ำ พบรถปิคอัพอีซูซุสีขาวไม่ทราบแผ่นป้ายทะเบียนจมอยู่ในคูน้ำข้างถนน ส่วนคนขับรถปลอดภัยทราบชื่อต่อมาว่าชื่อนายสนั่น มุ่งดี อายุ 31 ปี มีบ้านอาศัยอยู่บ้านอุดม ยืนรอให้การกับตำรวจในลักษณะคล้ายกับคนเมา จากการสอบถามนายสนั่น มุ่งดี บอกว่าตนและผู้โดยสารอีก 1 คนขับรถมาจากบ้านสมบูรณ์ กำลังจะกลับบ้านอุดม ระยะทาง 1 กิโลเมตร พอมาถึงที่เกิดเหตุตนได้ขับรถเฉี่ยวชนกับเด็กที่ยืนหลบรถอยู่กลางถนนอย่างไม่ตั้งใจ ด้วยความตกใจจึงหักพวงมาลัยอย่างแรงทำให้รถตกลงไปข้างทางและจมน้ำอย่างที่เห็น ตนและผู้โดยสารที่มาด้วยตะเกียกตะกายออกมาจากรถได้อย่างหวุดหวิด สำหรับผู้โดยสารที่มากับรถปิคอัพอีก 1 รายซึ่งอยู่ในอาการตกใจร้องให้ฟูมฟาย ร้องให้คนช่วยตลอดเวลาเพราะตัวเองเกือบจะจมน้ำตายไปกับรถ ทราบชื่อว่านางเพรียง ดาทอง อายุ 72 ปี เป็นชาวบ้านสมบูรณ์โดยสารมากับรถกระบะคันดังกล่าว เพื่อไปหาญาติที่บ้านอุดมพร้อมคนขับรถแต่ดันมาเกิดเหตุซะก่อน

ชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า ตนกำลังตากข้าวอยู่ใกล้กับที่เกิดเหตุพบเด็กนักเรียนปั่นจักรยานบนถนนแบบสวนเลนเพราะอีกเลนตากข้าว พอมีรถวิ่งมาตนจึงตะโกนให้หลบออกจากถนนเพราะอันตราย ผู้ได้รับบาดเจ็บได้ยืนจับรถจักรยานสองล้อบริเวณเส้นเหลืองรอให้รถกระบะคันดังกล่าวสวนไป แต่จู่ๆรถที่วิ่งมาด้วยความเร็วได้เลี้ยวมาตรงที่เด็กยืนอย่างกระทันหันจึงทำให้เด็กหลบไม่ทันทำให้ชนเข้าอย่างจัง และรถก็ได้พุ่งลงข้างถนนตกลงไปในคูน้ำ ตนจึงวิ่งมาดูเด็กพบว่าไม่มีสติ จึงได้โทรแจ้งตำรวจให้ทำการช่วยเหลือ ส่วนคนขับและคนโดยสารมีชาวบ้านช่วยเหลือขึ้นมาจากน้ำในเวลาต่อมา สำหรับคนขับทางเจ้าหน้าที่ได้แจ้งข้อหาเบื้องต้นขับรถด้วยความประมาท ส่วนมีอาการเมานั้นต้องรอพิสูจน์หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ต่อไป ในส่วนบริเวณถนนดังกล่าวชาวบ้านได้นำข้าวมาตากเป็นทางยาว กินเนื้อที่ถึงครึ่งเลน บรรดาครูและผู้ปกครองต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าถ้าตากข้าวบนถนนอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุกับเด็กนักเรียนได้ แต่ก็เห็นใจชาวบ้านที่ไม่มีที่ตาก ทำให้การจราจรเหลือเพียง 1 เลนสร้างความเดือดร้อนให้กับผู้ใช้รถใช้ถนนเป็นอย่างมาก..

 

ข่าว/ภาพ  รมิตา สิงหเสรี ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสุรินทร์