“วันพระมหาธีรราชเจ้า” ย้อนอดีตเหตุการณ์สวรรคต ล้นเกล้าร.6 กษัตริย์นักปราชญ์ นักกวีประพันธ์  พระผู้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญ

วันพระมหาธีรราชเจ้าย้อนอดีตเหตุการณ์สวรรคต ล้นเกล้าร.6 กษัตริย์นักปราชญ์ นักกวีประพันธ์ พระผู้ได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นบุคคลสำคัญด้านวัฒนธรรม

พจเฟซบุ้ค .....”โบราณนานมา”  ได้ย้อนเหตุการณ์สวรรคต เมื่อคราวปลายรัชสมัยล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ แห่งมหาจักรีบรมราชวงศ์  ความว่า....พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระประชวรพระโรคพระโลหิตเป็นพิษในพระอุทรตั้งแต่วันที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ เหตุเพราะเสวยพระกระยาหารผิดสำแดงเมื่อทรงพระบังคนเบา มีมดมาเกาะพระบังคนเบาแพทย์จึงสรุปว่า มีพระโรคเบาหวานแทรกซ้อนแต่พระอาการก็ทรงกับทรุด ต่อมาในวันอังคารที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวีมีพระประสูติกาลพระราชธิดา เจ้าพระยารามราฆพ จึงได้เข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทกราบบังคมทูลพระกรุณาว่า พระนางเจ้าสุวัทนา พระวรราชเทวี ประสูติ "สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ" เมื่อความทราบฝ่าละอองธุลีพระบาทแล้ว มีพระราชดำรัสว่า "ก็ดีเหมือนกัน" จนรุ่งขึ้นในวันพุธที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ เจ้าพระยารามราฆพ เชิญเสด็จพระราชธิดาไปเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระบรมชนกนาถ ซึ่งกำลังทรงพระประชวรหนักบนพระแท่นบรรจถรณ์ เมื่อทอดพระเนตรแล้ว ทรงพยายามยกพระหัตถ์ขึ้นสัมผัสพระราชธิดา

แต่ก็ทรงอ่อนพระกำลังมากจนไม่สามารถทรงยกพระหัตถ์ได้ด้วยเพราะพระอาการทรุดลงตามลำดับ เจ้าพระยารามราฆพจึงเชิญพระหัตถ์ขึ้นสัมผัสพระราชธิดา เมื่อจะเชิญเสด็จพระราชธิดากลับ ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ ก็ทรงโบกพระหัตถ์มีพระราชประสงค์จะทอดพระเนตรพระราชธิดาอีกครั้ง เจ้าพระยารามราฆพ จึงเชิญเสด็จพระราชธิดามาเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทเป็นครั้งที่สอง และเป็นครั้งสุดท้ายแห่งพระชนม์ชีพ เนื่องด้วยพระอาการทรุดลงและเสด็จสวรรคตเมื่อเวลา ๐๑.๔๕ น. วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤศจิกายน ๒๔๖๘ ณ พระที่นั่งจักรพรรดิพิมาน หมู่พระมหามณเฑียร ในพระบรมมหาราชวัง สิริพระชนมพรรษา ๔๕ พรรษา แต่ล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๗ มีพระราชประสงค์ให้กำหนดวันสวรรคตของล้นเกล้าฯ รัชกาลที่ ๖ เป็นวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน และถือเอาวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ของทุกปีเป็น "วันพระมหาธีรราชเจ้า" 
                               
อนึ่ง พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธฯ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือ พระบาทสมเด็จพระรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว ประสูติเมื่อ 1 มกราคม พ.ศ. 2423 สวรรคต  26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468  เป็นพระมหากษัตริย์ไทยรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี  เป็นพระราชโอรสพระองค์ที่ 29 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสวยราชสมบัติเมื่อวันเสาร์ที่ 23 ตุลาคม ปีจอ พุทธศักราช 2453 และเสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2468 รวมพระชนมายุ 45 พรรษา เสด็จดำรงราชสมบัติรวม 15 ปี 34 วัน

พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระอัจฉริยภาพและทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจในหลายสาขา ทั้งด้านการเมืองการปกครอง การทหาร การศึกษา การสาธารณสุข การต่างประเทศ และที่สำคัญที่สุดคือด้านวรรณกรรมและอักษรศาสตร์ ได้ทรงพระราชนิพนธ์บทร้อยแก้วและร้อยกรองไว้นับพันเรื่อง กระทั่งทรงได้รับการถวายพระราชสมัญญาเมื่อเสด็จสวรรคตแล้วว่า "สมเด็จพระมหาธีรราชเจ้า" ใน พ.ศ. 2524 องค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO) ได้ยกย่องพระเกียรติคุณของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวว่าทรงเป็นบุคคลสำคัญของโลก ผู้มีผลงานดีเด่นด้านวัฒนธรรม ในฐานะที่ทรงเป็นนักปราชญ์ นักประพันธ์ กวี และนักแต่งบทละครไว้เป็นจำนวนมากมาย
///////