- 30 พ.ย. 2560
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
วันที่ 30 พ.ย.60 เวลา 15.30 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองสระบุรี เข้าตรวจที่เกิดเหตุ หลังจากได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้าน และพระช่วยกันรุมประชาทัณฑ์ และจับตัวคนร้ายซึ่งเข้ามาภายในบริเวณศาลาวัด หวังขโมยของภายในวัดบ้านบึง ถ.พิชัยฯ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี ซึ่งสามารถจับตัวได้ขณะที่กำลังนั่งอยู่ภายในวัดบ้านอ้อย ซึ่งอยู่ใกล้กับวัดบ้านบึง ที่เกิดเหตุพบนายวินัย ประคองพวก อายุ 33 ปี ในสภาพสะบัก สบอม เนื่องจากถูกชาวบ้าน และพระ รุมประชาทัณฑ์ ประเคนเท้า หมัด เข่า ศอก ให้พร้อมจับมัดมือไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้นำไปตรวจปัสสาวะเพื่อหาสารเสพติด แต่ไม่พบ ค้นภายในตัวพบเพียงถุงยาเส้น เงินเหรียญ 10 บาท และกาแฟ ทรีอินวันอีก 1 ซอง พร้อมด้วยจักรยานสองล้อ 1 คัน
ทางด้านพระครูใบฎีกาอัฐพงษ์ ธรรมทินโน เจ้าอาวาสวัดบ้านบึง เล่าว่าคนร้ายได้ขี่จักรยาน เข้ามาภายในบริเวณศาลาวัด จากนั้นได้เข้ามาด้อมๆ มองๆ และเข้าไปขอเงิน พระ-เณรภายในวัด และเมื่อไม่ได้เงิน จากนั้นก็เข้าไปภายในวิหารหลวงพ่อดำ ซึ่งมีตู้รับบริจาค จำนวนหลายตู้ ทำท่ามองดูเพื่อหวังที่จะขโมย แต่มีชาวบ้านเห็นเสียก่อนจึงได้ตะโกนร้อง ทำให้คนร้ายตกใจขี้รถจักรยานหลบหนี ทางด้านพระ และชาวบ้านจึงตามหาตัวจนมาพบที่วัดบ้านอ้อย จึงได้ช่วยกันจับกุมตัวเพื่อส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ทางด้านนายวินัย เล่าว่า ตนเองเข้าไปขอเงินพระจริงเพื่อจะเอาไปเติมลม รถจักรยานที่ขี่มา แต่เมื่อไม่ได้ จึงได้เข้าไปในวิหารหลวงพ่อดำ เพื่อเข้าไปกราบไหว้ ไม่ได้คิดที่จะขโมย อะไรทั้งนั้น จากนั้นก็ขี่รถจักรยาน กลับออกมาจากวัด และกำลังนั่งอยู่ดีๆ ก็มาถูกชาวบ้านและพระ รุมประชาทัณฑ์ เจ็บไปหมดทั้งตัวเลย ส่วนตัวเองนั้นเคยต้องโทษคดีครอบครองยาเสพติด เมื่อปี 55 และถูกจำคุกอยู่ 1 ปี 6 เดือน ออกจากคุกมา 4 ปีแล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวไปส่งยังบ้านที่อาศัยอยู่ เนื่องจากทางเจ้าอาวาสวัดบ้านบึงไม่ติดใจเอาความ เมื่อตรวจปัสสาวะแล้วไม่พบสารเสพติด และสิ่งของใดๆ
ภาพ/ข่าว ชาญวิทย์ คำนวนวุฒิ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จังหวัดสระบุรี