“พระอาจารย์อารยวังโส” อาลัย “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” ชื่นชมเป็นบัณฑิต แม้ต่างศาสนาแต่ไม่เคยแปลกแยกสองสายสัมพันธ์ร่วมกันสร้างสรรค์โลกและมวลมนุษย์

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://www.tnews.co.th

“พระอาจารย์อารยวังโส” อาลัย “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” ชื่นชมเป็นบัณฑิต แม้ต่างศาสนาแต่ไม่เคยแปลกแยกสองสายสัมพันธ์ร่วมกันสร้างสรรค์โลกและมวลมนุษย์

 

วันที่ ๓๐ พ.ย. ๖๐ เวลา ๑๕.๐๗ น.ประเทศไทยได้สูญเสียบุคคลที่จัดว่าเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่ทรงคุณค่ามากที่สุดคนหนึ่ง “ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ” อดีตเลขานุการอาเซียน เสียเชียวิตด้วย ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ที่โรงพยาบาลรามคำแหง ซึ่งการสูญเสียของประเทศไทยในครั้งนี้ สร้างความตกใจให้กับบุคคลต่างในทุกวงการ รวมทั้งท่าน “พระอาจารย์อารยวังโส”  ท่านพระอาจารย์ได้มีหนังสืออาลัยไว้ว่า

“พระอาจารย์อารยวังโส” อาลัย “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” ชื่นชมเป็นบัณฑิต แม้ต่างศาสนาแต่ไม่เคยแปลกแยกสองสายสัมพันธ์ร่วมกันสร้างสรรค์โลกและมวลมนุษย์

 

                               ด้วยจิตคารวะกัลยาณมิตรนาม..... “สุรินทร์ พิศสุวรรณ”

                                                                            โดย พระอาจารย์อารยวังโส 
 อนิจจา วะตะ สังขารา    สังขารทั้งหลายไม่เที่ยงหนอ ! 
อปุปาทะวะยะธัมมิโน      มีความเกิดขึ้นและมีความเสื่อมไปเป็นธรรมดา 
อุปปัชชิตวา นิรุชฌันติ     กิดขึ้นแล้วย่อมดับไป 
เตสัง วูปะสะโม สุโข       ความสงบระงับดับแห่งสังขารเหล่านั้น เป็นสุขฯ 
       วันนี้ (๓๐ พ.ย. ๖๐) ช่วงเช้าได้พูดคุยกับคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ และ พล.ต.ต.กริช กิติลือ ที่กุฏิวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) หลายเรื่อง หนึ่งในหลายเรื่องนั้นได้พูดถึง คุณสุรินทร์  พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ที่กำลังเตรียมพร้อมเพื่อรับอาสาชาวกรุงเทพฯ และชาวไทย ในการจะลงเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ... เพื่อทำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองหลวงระดับนานาชาติที่ชาวไทย ภาคภูมิใจ.. 
       อาตมาได้มีโอกาสเชิญคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ ไปร่วมประชุมกับคณะสถาบันเพื่อการ ยุติธรรมแห่งประเทศไทย (องค์กรมหาชน) หรือ Thailand Institute of Justice (TIJ) ที่อาคาร จีพีเอฟ(อาคาร บี) ถนนวิทยุ กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ ๒๙ กันยายน ๒๕๖๐ โดยมีพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นองค์ประธานในที่ประชุม และทรงเป็นองค์ดำเนินการประชุม ในหัวข้อเรื่อง “หลักนิติธรรมกับการพัฒนาอย่างยั่งยืนโดยศึกษาแนวพระราชด าริของพระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙” 
       ในวันนั้น คุณสุรินทร์ฯ โดยการประสานงานของคุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ได้นัดแนะ มาพบอาตมาที่บริษัทสุภาราฯ ย่านหัวลำโพง ซึ่งอาตมารับกิจนิมนต์มารับสังฆทานและให้ ธรรมบรรยายที่นั่น สิบโมงเช้าของวันดังกล่าว คุณสุรินทร์ฯ ได้มาพบอาตมา เพื่อสนทนากันใน เรื่องต่างๆ ก่อนจะนั่งรถไปประชุมร่วมกับคณะทีไอเจในเวลา ๑๕.๐๐ น. 
       การสนทนากับคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ ในวันนั้นครอบคลุมไปทุกเรื่อง.. โดยเฉพาะ เรื่อง ความไม่สงบใน ๕ จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเรื่องงานการเมืองที่คุณสุรินทร์ฯ มีความ ประสงค์ที่จะอาสาเข้าไปพัฒนายกระดับฐานะกรุงเทพมหานครให้มีความพร้อมสมบูรณ์  สมฐานะเป็นเมืองหลวงของประเทศที่ทัดเทียมอารยประเทศ เพื่อเปิดเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร สู่ชาวโลกอย่างแท้จริงในยุคสื่อสารไร้พรมแดน ด้วยประสบการณ์ของคุณสุรินทร์ฯ ที่เดินทาง มารอบโลก และมีความสัมพันธ์กับองค์กรและบุคคลสำคัญในทุกแวดวงทั้งในประเทศและ ต่างประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มคณะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ.. ที่รวมตัวดำเนิน กิจกรรมการเมืองร่วมกันอยู่ถึงปัจจุบัน 
       ความพรั่งพร้อมในความรู้ความสามารถของคุณสุรินทร์ฯ และประสบการณ์ตรงที่เก็บเกี่ยว มาตลอดจนถึงปัจจุบันของคุณสุรินทร์ฯ จึงก่อเกิดวิสัยทัศน์ในการมองโลกอย่างเข้าใจโลก...  มองปัญหาอย่างเข้าถึงตัวปัญหา... “หลักเข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา” ของในหลวงรัชกาลที่ ๙ ตกผลึกอยู่ในจิตใจของคุณสุรินทร์ฯ อย่างแท้จริง... 
       คุณสุรินทร์ฯ จึงเข้าใจปัญหาของพี่น้องชาวมุสลิมในภาคใต้อย่างแท้จริง ตามที่อาตมา ได้มีโอกาสรับฟังรายละเอียดข้อมูลเชิงลึกของปัญหาดังกล่าวเป็นส่วนตัว เมื่อมาบรรจบกับที่ อาตมาเคยโคจรจาริกอยู่ในแวดวงพี่น้องอิสลามในภาคใต้ จึงสนทนาแลกเปลี่ยนข้อมูลกันอย่าง ออกรสชาติ เข้าใจตรงกันในทุกปัญหา.. และเมื่อกล่าวถึงบุคคลระดับผู้นำจิตวิญญาณทางอิสลาม ในอดีตที่อาตมารู้จักมักคุ้นกันจริงๆ ... คุณสุรินทร์ฯ ได้แสดงความถูกใจและแปลกใจที่อาตมา รู้จัก เข้าถึง-เข้าใจบุคคลเหล่านั้น และปัญหาเรื่องราวในแวดวงพี่น้องอิสลามเป็นอย่างดี....  จนคุณสุรินทร์ฯ กล่าวว่า “..น่าจะให้พวกฝ่ายเสธฯ ทหารมารับฟังจากพระอาจารย์บ้าง?” 
       อาตมาเองชื่นชมคุณสุรินทร์ฯ ในความรู้-ความเข้าใจปัญหาพี่น้องอิสลามในภาคใต้ อย่าง ถูกต้องตรงตามเหตุปัจจัย.. จึงได้ตั้งความหวังไว้ในใจว่า “บุคคลท่านนี้แหละที่จะแก้ปัญหาพี่น้อง อิสลามใน ๕ จังหวัดภาคใต้ ได้จริง!” 
       จริงๆ แล้ว อาตมากับคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ ไม่ได้รู้จักมักคุ้นอะไรกันมากในก่อนหน้านี้.. แต่ด้วยมีรายการจัดประชุม เรื่อง สันติภาพ .. ระหว่างศาสนาพุทธ ฮินดู อิสลาม และคริสต์ ..  ที่เรียกชื่อการประชุมดังกล่าวว่า “Samvad II: The Interfaith Dialogue for Peace, Harmony and Security”... ซึ่งจัดประชุม ณ กรุงย่างกุ้ง ประเทศพม่า ระหว่างวันที่ ๕-๖ สิงหาคม ๒๕๖๐ ที่ผ่านมา โดยอาตมาได้รับนิมนต์ไปร่วมในฐานะผู้นำจิตวิญญาณทางพุทธศาสนา ส่วนคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ มีชื่อปรากฏอยู่ในรายการ ในฐานะนักวิชาการทางด้านศาสนาอิสลามและ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฯ 
       ในการประชุมครั้งนั้น เดิมคุณสุรินทร์ฯ จะปฏิเสธ เพราะมีภารกิจอยู่ต่างประเทศ แต่เมื่อ ทราบว่า อาตมาขอให้มาประชุมร่วมกัน คุณสุรินทร์ฯ จึงตัดสินใจบินมาจากฟิลิปปินส์ โดยพูดกับ อาตมาว่า “เพราะพระคุณเจ้าขอให้มาจึงมา..” เพื่อเข้าร่วมบรรยายใน Section II และจะต้อง เดินทางกลับในวันนั้นเลย ส่วนอาตมาประชุมใน Section I ระหว่างผู้นำจิตวิญญาณในแต่ละ ศาสนา ซึ่งต้องนั่งอยู่ประจำในห้องประชุมตามตำแหน่งตลอดเวลา จึงได้พบกันในระหว่างพัก และได้ถ่ายรูปร่วมกันหน้าห้องประชุม มีโอกาสสนทนากันน้อยมาก แต่ได้รับการเชื่อมโยงจาก คุณหญิงสุพัตรา มาศดิตถ์ ที่ทำหน้าที่อุปัฏฐากอาตมา ได้จัดส่งข้อความที่อาตมากล่าวในที่ ประชุมไปให้คุณสุรินทร์ฯ.. ที่ได้แสดงความชื่นชมและประทับใจในความเข้าใจของอาตมาต่อ ศาสนาอิสลามและพี่น้องมุสลิม... 
       ดังนั้น เมื่อมาพบกันอีกครั้งตามคำเชิญของอาตมาที่ขอให้คุณสุรินทร์ฯ มาร่วมคณะ ไปประชุมร่วมกับคณะ TIJ ซึ่งมี พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นองค์ประธาน ในที่ประชุมครั้งนั้น... จึงมีความคุ้นเคยชอบพอกันพอสมควร โดยเฉพาะ เมื่อต้องแสดงความเห็นร่วมกันในหัวข้อการประชุมในวันนั้น ที่สถาบัน TIJ ครั้งนั้น (๒๙ ก.ย. ๖๐) การแสดงความเห็นใน วันนั้นเป็นไปอย่างเข้มข้นพอสมควรในหลายมิติ ซึ่งภายหลังจากอาตมากล่าวจบและได้ขอให้ คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ กล่าวแสดงความเห็นต่อเนื่องจากอาตมา.. คุณสุรินทร์ฯ ได้แสดงความเห็น สอดรับกับที่อาตมาได้กล่าวไว้ได้อย่างดีมาก เรียกว่า รับลูกส่งต่อกันอย่างเป็นหนึ่งเดียวกัน...  ซึ่งคุณสุรินทร์ฯ ได้หันมาพูดกับอาตมาเมื่อจบบรรยายของตนว่า “ท่านพระอาจารย์กับผมรับลูก เข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ยทีเดียวเลย...” แล้วก็หัวเราะ... อย่างชอบใจ... 
       การพูดว่า “รับลูกเข้ากันได้เป็นปี่เป็นขลุ่ย...” มิใช่คุณสุรินทร์ฯ พูดครั้งเดียว...  เรียกว่า พูดหลายครั้งในวันนั้น ด้วยความพึงใจ ชอบใจ และ ให้ความเคารพกันตามฐานะ... ในความเป็น พระภิกษุของอาตมา... ซึ่งคำพูดหนึ่งที่ คุณสุรินทร์ฯ กล่าวกับผู้มาต้อนรับและมาร่วมประชุม ซึ่งบางท่านเคยเป็นอดีตเอกอัครราชทูต รู้จักคุณสุรินทร์ฯ ดีในฐานะอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวง การต่างประเทศว่า... “...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ติดตามพระคุณเจ้า !” 
       คำพูดดังกล่าว เป็นการพูดด้วยความรักเคารพต่อกันที่พึงมีตามวิสัยบัณฑิต แม้จะต่าง ศาสนา อย่างไม่มีความแปลกแยกต่อกันเลย... อาตมาจึงชื่นชมในน้ำจิตน้ำใจ ความรู้ วิสัยทัศน์ ของคุณสุรินทร์ฯ การรู้จักประสานสัมพันธ์ต่อกันเพื่อประโยชน์ของมหาชน ...จึงได้แต่แอบหวังไว้ ในใจว่า “หากกรุงเทพมหานครได้ผู้บริหารที่มีความรู้ความสามารถ และมีความดี ความเข้าใจใน ศาสนาทุกศาสนาเช่นนี้ เราคงจะได้เห็นกรุงเทพฯ เมืองหลวงของประเทศไทยที่ถูกตกแต่ง ให้เพียบพร้อม เพื่อท้าทายต่อการเดินทางมาเยือนของชาวโลก...” ...คุณสุรินทร์ฯ มิได้หวังเพียงแค่ นำกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองหลวงของคนไทย แต่คิดไปไกลว่า “จะทำกรุงเทพฯ ให้เป็นนครหลวง ที่เพียบพร้อมในอารยธรรม ขนบธรรมเนียมประเพณีวัฒนธรรม... ที่ชาวโลกควรยอมรับไว้ ในจิตใจอย่างภาคภูมิใจ....” 
       เมื่อเช้านี้ อาตมายังพูดถึงคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ กัลยาณมิตรต่างศาสนาในเรื่องดังกล่าว และหวังว่าเดี๋ยวคงจะได้พบกันอีกสักครั้ง... แต่หลังจากที่อาตมาออกจากการเจริญกรรมฐาน ในยามเย็น สิ่งที่ได้รับทราบให้เกิดความสังเวช (ธรรมสังเวช) คือ ข่าวการลาจากไปอย่างไม่กลับมาของ คุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ ที่ได้ถึงแก่กรรมเมื่อเวลาประมาณบ่ายสามโมงของวันนี้ (๓๐ พ.ย. ๖๐) 
       อาตมาจึงขอตั้งจิตอธิษฐาน “ขออำนาจคุณธรรมความดีทั้งปวง ที่ คุณสุรินทร์  พิศสุวรรณ ได้ถือประพฤติปฏิบัติ พึงเป็นที่พึ่งให้คุณสุรินทร์ฯ ได้ถึงซึ่ง Peace Harmony and Security ในเบื้องหน้า ตามคติความเชื่อในศาสนาอิสลามของคุณสุรินทร์ พิศสุวรรณ เทอญ..” 

                               ด้วยจิตคารวะกัลยาณมิตรนาม... สุรินทร์ พิศสุวรรณ.. 

                                                  ด้วยความอาลัย   
                                              พระอาจารย์อารยวังโส 
                               เจ้าอาวาสวัดป่าพุทธพจน์หริภุญไชย (ธ) จังหวัดลำพูน
 

“พระอาจารย์อารยวังโส” อาลัย “สุรินทร์ พิศสุวรรณ” ชื่นชมเป็นบัณฑิต แม้ต่างศาสนาแต่ไม่เคยแปลกแยกสองสายสัมพันธ์ร่วมกันสร้างสรรค์โลกและมวลมนุษย์

 

         และเมื่อเวลา ๑๗.๓๐ น. นายอาศิส พิทักษ์คุมพล จุฬาราชมนตรี จะเดินทางถึงบ้านพัก ดร.สุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตเลขาธิการอาเซียน ใน ต.ท่าอิฐ อ.เมือง จ.นนทบุรี เพื่อเคารพศพ ดร.สุรินทร์  พิศสุวรรณ

         และในวันนี้ ๑ ธ.ค. ทางครอบครัวพิศสุวรรณ จะดำเนินการพิธีการตามศาสนาอิสลาม และเปิดให้นักการเมือง บุคคลที่เคารพเดินทางมาร่วมไว้อาลัยจนถึงเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น.  จากนั้นในเวลาไม่เกิน ๑๔.๔๕ น. จะนำร่างของ ดร.สุรินทร์ ทำพิธีฝังตามพิธีทางศาสนาอิสลาม  ณ มัสยิดท่าอิฐ