พล.ท.นันทเดช เผย "ระยะความมั่นคง"กับ "อาวุธสงครามแปดริ้ว" จนทำให้ขนหัวลุก (รายละเอียด)

การค้นพบอาวุธสงครามท่ีแปดริ้วเมื่อ 2-3 วันมานี้ ในแง่ความมั่นคงแบ่งเป็น2ระยะ คือ

(1) ระยะแรกที่พบโดยชาวบ้าน แล้วจึงไปแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ อาวุธที่น่าสนใจคือ 
ระเบิดขว้าง GRD5 ซึ่งไม่มีใช้ในราชการไทย แต่ถูกนำมาใช้งานในไทย
หลายครั้งตั้งแต่ ปี57เป็นต้นมา ในการปาใส่กลุ่ม กปปส.หลายครั้ง เช่น 
ที่ ถนนบัดทัดทอง,บ้านนายก อภิสิทธิ์ฯ,อนุาสวรีย์ชัยสมรภูมิ ฯลฯ เรื่อยมาถึง
หน้าศาลอาญาฯในสมัยนายกลุงตู่

2) ระยะที่ 2 ตำรวจขยายผลตรวจพื้นท่ีดังกล่าวโดยละเอียดอีกครั้งหนึ่ง
พบเพิ่มอีกเป็น  กระสุน เครื่องยิงระเบิด M.79จำนวน 2กล่องยังไม่ได้เปิดใช้เลย รวม 50ลูก 
เป็นชนิดหัวสีทอง (ในราชการไทย ใช้หัวสีเขียว) และ ระเบิดC4 ที่นิยมใช้ในการก่อการร้ายอีกจำนวนหนึ่ง (เป็นระเบิดที่ร้ายแรงที่สุด เคยพบหลังการเลิกชุมนุมที่ 4แยกราชประสงค์)
 

   ถ้าถามว่าน่ากลัวไหม ชาวบ้านทั่วไปคงเฉยๆเพราะมันมีอยู่ประจำจนเคยชินเสียแล้ว 
แต่ถ้าถามฝ่ายความมั่นคง ละก็ไม่ใช่เรื่องเล็กนะครับ คงรู้สึกขนหัวลุกทีเดียวครับ การเจอระเบิดมาทิ้งไว้ในที่ลับตาคนแบบนี้ มันเป็นไปได้ 2 อย่าง คือ

 

(1)ทิ้งเพื่อหนีความผิด กับ ทิ้งเพื่อส่งทอดให้มือทำงานนำไปใช้ เพราะ เมื่อมีระเบิดอยู่ คนที่ใช้มันก็ยังอยู่แน่นอน และ

 (2) ไกล้เทศกาลปีใหม่ ไกล้ระยะเวลาปลดล็อกทางการเมือง ฯลฯ ถ้าเกิดระเบิดขึ้น ฝ่ายความมั่นคงคงจะต้องพิจารณาเรื่องนี้มากขึ้น 
จนอาจเป็นผลทำให้ ชลอการปลดล็อกออกไปก็ได้ ก็จะเป็นผลทำให้รัฐบาลถูกโจมตีได้ 

ดังนั้นงานของฝ่ายความมั่นคงจะหนักมากขึ้นตามลำดับ เข้มไปก็โดนด่า อ่อนไปประชาชนก็จะเดือดร้อน ดังนั้น ลุงตู๋ และ ลุงป้อม อย่าถอย สู้ๆ

(ตอนหนึ่งของคำสัมภาษณ์สถานีวิทยุ101วันนี้เวลาประมาณ08.40)