ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th

วันที่  4 ธ.ค. 2560 ความคืบหน้าความวุ่นวายที่วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน หรือ วัดหิรัญญาราม ต.บางคลาน อ.โพทะเล จ.พิจิตร   ที่เป็นบ่อเกิดความเสื่อมศรัทธาของประชาชน ทำให้ผู้คนและนักท่องเที่ยวเข้าวัดหลวงพ่อเงินบางคลานน้อยลง ซึ่งมีสาเหตุเกิดจาก อดีตเจ้าอาวาส คือ พระครูวิสิฐสีลาภรณ์  ถูกร้องเรียนและมีการตั้งกรรมการสอบสวนเรื่องเงินและทรัพย์สินภายในวัด ซึ่งเรื่องดังกล่าวได้ถูกเปิดโปง โดย   นายเชวง ชัยรัตน์ อดีตข้าราชการครูระดับ 9 และนายพร ปั้นเพ็ง อดีตข้าราชการครูในพื้นที่ ซึ่งเป็นอดีตไวยาวัจกรทั้งสองคนร้องเรียนไปยังพระผู้ใหญ่เป็นลายลักษณ์อักษร ถึง 25 หัวข้อ ความยาวถึง 4 หน้ากระดาษ เมื่อวันที่ 22 ก.ย. 2557 จนเป็นที่มาของคำสั่งของ เจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ให้ปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณ์  ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสแล้วยังมีผลให้ต้องหลุดจากตำแหน่งเจ้าคณะตำบลและพระอุปัชฌาย์ รวมถึงการที่ได้เป็นพระครูสัญญาบัตร ซึ่งจะได้รับเงินเดือนเป็นค่าตอบแทนเดือนละประมาณ 3,000 บาทเศษก็ให้หลุดตามไปด้วย จึงเป็นการปลดออกรวม 4 ตำแหน่งรวดในด้านการบริหารงานของสงฆ์...แต่ปรากฏว่า  พระครูวิสิฐสีลาภรณ์   อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน (วัดหิรัญญาราม) และอดีตไวยาวัจกร  กลับไม่ยอมรับในคำคัดสินของพระผู้ใหญ่และไม่ยอมส่งมอบอำนาจหน้าที่รวมถึงบัญชีการเงินวัตถุมงคลฯลฯ ให้กับพระครูวิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นรักษาการเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลานคนใหม่ รวมถึงอดีตเจ้าอาวาสได้ปล่อยให้กลุ่มบุคคลเข้าไปปลุกระดมกลุ่มมวลชนให้ออกมาเคลื่อนไหวต่อต้านคำสั่งของฝ่ายคณะสงฆ์และฝ่ายบ้านเมือง โดยไม่ยอมให้ พระครูวิสุทธิวรากร รองเจ้าคณะอำเภอโพทะเล รักษาการแทนเจ้าอาวาส เข้ามาบริหารจัดการในวัดหลวงพ่อเงินบางคลานไม่ได้ จากวันนั้นถึงวันนี้เป็นระยะเวลาเกือบ 4 ปีเต็ม ความวุ่นวายก็ยังคงมีอยู่ไม่จบไม่สิ้น...  อีกทั้ง พระครูวิสิฐสีลาภรณ์   อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน(วัดหิรัญญาราม) ได้ให้ทนายความดำเนินการฟ้องศาลยุติธรรม โดยตนเองเป็นโจทก์ฟ้องจำเลย ซึ่งประกอบไปด้วย พระธรรมรัตนดิลก จำเลยที่ 1  พระราชสุตาภรณ์ จำเลยที่  2 พระราชปัญญาเวที  จำเลยที่ 3 พระทีฆทัสสีมุนีวงศ์ จำเลยที่ 4  พระสุธีรัตนาภรณ์ จำเลยที่ 5   ฟ้องร้องในข้อหาว่าจำเลย คือพระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูปนั้น มีความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ความผิดต่อพระราชบัญญัติคณะสงฆ์ ซึ่งเรื่องดังกล่าวเป็นคดีอาญา โดย พระครูวิสิฐสีลาภรณ์   อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน(วัดหิรัญญาราม) ได้ปฏิเสธข้อกล่าวหาในข้อความข้างต้นที่มีการร้องเรียนและสอบสวน จนเป็นที่มาของคำตัดสินให้หลุดพ้นจาก 4 ตำแหน่ง

ล่าสุดได้มีการเปิดเผยคำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5437/2560 ลงวันที่ 16 สิงหาคม 2560  ที่ศาลฎีกามีคำตัดสินแล้วส่งคำพิพากษามาให้ศาลยุติธรรมจังหวัดพิจิตร ได้อ่านคำพิพากษาฎีกาดังกล่าวนี้ เมื่อวันที่  14 พฤศจิกายน 2560 โดยขอคัดย่อมีสาระใจความสำคัญว่า “ตามคำวินิจฉัยของคณะกรรมการไต่สวนลงวันที่ 28 พฤศจิกายน 2557 กรณี (เรื่อง) ขอให้ตรวจสอบพฤติการณ์การปฏิบัติตัวและการปฏิบัติหน้าที่ของ ครูวิสิฐสีลาภรณ์  (โจทก์) เป็นการทำความเห็นเสนอต่อสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชาโจทก์ในฐานะเจ้าอาวาสไม่สามารถควบคุมดูแลการใช้จ่ายเงินของวัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ ถือได้ว่า หย่อนความสามารถไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ เห็นควรให้โจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ( วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ) ซึ่งต่อมา  สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้มีหนังสือถึงเจ้าคณะภาค 4 ( จำเลยที่ 1) ฉบับลงวันที่ 29 ตุลาคม 2547 ระบุว่ามีคณะกรรมการไต่สวนมีความเห็นควรให้โจทก์ออกจากตำแหน่งหน้าที่เจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ( วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ) นั้น “ชอบแล้ว” ดังนี้แสดงให้เห็นได้ว่า จำเลยทั้ง 5 ได้ทำหน้าที่ในการไต่สวนกรณีของโจทก์ตามอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวน โดยให้โอกาสแก่โจทก์ในการแก้ข้อกล่าวหาดังกล่าว ตามสมควรแล้ว ซึ่งไม่ปรากฏข้อเท็จจริงว่า จำเลยทั้ง 5 มีเจตนากลั่นแกล้งโจทก์แต่อย่างใด คำสั่งให้โจทก์ออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดหิรัญญาราม ( วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน ) นั้น เป็นเพียงคำสั่งทางปกครองของคณะสงฆ์ตามกฎหมายมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 ( พ.ศ.2541 ) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังฆาธิการเท่านั้น มิใช่เป็นการลงนิคหกรรมต่อโจทก์แต่อย่างใด การกระทำของจำเลย ( พระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ) จึงไม่มีมูลความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ( โจทก์ คือ  ครูวิสิฐสีลาภรณ์  อดีตเจ้าอาวาส ฯลฯ) คำพิพากษาฎีกาที่โจทก์อ้างมานั้นข้อเท็จจริงไม่ตรงกับคดีนี้ ที่ศาลล่างทั้งสอง ( ศาลชั้นต้น-ศาลอุทธรณ์ ) เห็นว่าคดีของโจทก์ไม่มีมูลและพิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ ( โจทก์ คือ  ครูวิสิฐสีลาภรณ์  อดีตเจ้าอาวาส ฯลฯ) ไม่มีมูลและพิพากษายกฟ้องมานั้นชอบแล้ว ฎีกาของโจทก์ฟังไม่ขึ้น “พิพากษายืน”

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

ดังนั้นจากคดีดังกล่าว ผู้สื่อข่าวสรุปเป็นรายงานเพิ่มเติม ว่า สิ่งที่พระผู้ใหญ่ทั้ง 5 รูป ที่ได้พิจารณาและสอบสวนหาหลักฐานข้อเท็จจริง จึงเป็นที่มาของการออกคำสั่งปลด พระครูวิสิฐสีลาภรณ์   อดีตเจ้าอาวาสวัดหลวงพ่อเงินบางคลาน(วัดหิรัญญาราม) นั้น ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งถือเป็นตำนานการต่อสู้เพื่อยื้อคดีมาจนถึงศาลฎีกา บัดนี้ ได้ปิดตำนานเรื่องฉาวลงแล้ว ลำดับขั้นตอนต่อไปฝ่ายคณะสงฆ์คงต้องขอให้ฝ่ายบ้านเมืองรวมถึงฝ่ายทหารเร่งใช้มาตรการในการที่จะเรียกศรัทธาของประชาชนให้กลับเข้ามากราบไหว้ทำบุญใน วัดหลวงพ่อเงินบางคลาน(วัดหิรัญญาราม) อย่างโปร่งใส ต่อไป

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

เงินไปไหน !? วัดดังเดือดระอุ หลังศาลฎีกาพิพากษาแล้ว แต่ปัญหายังไม่จบ "เงินวัดเกือบร้อยล้านหาย" (รายละเอียด)

ทัศนัย  สำนักข่าวทีนิวส์