เกิดอาถรรพ์อะไร กับการบินไทย...?

ยื้อเวลาสรรหากรรมการผู้อำนวยการใหญ่ เพื่อใคร  ติดตามเพจ Richman can do

นับเวลาได้กว่า 10 เดือนผ่านมา บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ก็ยังสรรหาบุคคลที่จะมานั่งตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ ดีดี การบินไทย ไม่ได้ ทั้งที่คนเก่งและคนดี มีความสามารถ มีมากมายในประเทศ แต่เกิดอะไรขึ้น ทำไม การบินไทย ถึงต้อง ประกาศขยายเวลารับสมัครบุคคลเพื่อคัดเลือกและแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ออกไปอีกตั้งแต่บัดนี้ - วันที่ 29 ธันวาคม 2560 เป็นครั้งที่ 2 จากก่อนหน้าที่ จรัมพร โชติกเสถียร อดีตดีดีคนเดิมหมดวาระลง และบริษัทได้แต่งตั้ง อุษณีย์ แสงสิงแก้ว ลูกหม้อของบริษัท  ขึ้นมารักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ หรือ ดีดีแทน ระหว่างนี้ก็ทำการสรรหาไป 
 

แต่ปรากฎว่า การสรรหา ดีดี การบินไทยรอบแรกก็ต้องยกเลิกไป บริษัทชี้แจงว่า ยังหาบุคคลที่เหมาะสมไม่ได้ เพราะคนที่คุณสมบัตรเข้าตามากที่สุด คือ ปราถนา มโนมัยพิบูลย์ ผู้บริหารจากค่าย บริษัท ไมเนอร์ คอร์ปอร์เรชั่น จำกัด(มหาชน) ก็ต้องถอนตัวไป เพราะโดนสกัดดาวรุ่งระหว่างทางว่า บริษัทที่ไมเนอร์ เป็นคู่ค้ากับการบินไทย จึงอาจเกิดปัญหาผลประโยชน์ขัดแย้งได้  หลังจากนั้นการบินไทยก็ประกาศสรรหารอบ 2 แต่ในที่สุดก็ยังหาไม่ได้ เนื่องจากคนที่มาสมัครยังไม่เข้าตากรรมการ จึงต้องขยายเวลารับสมัครออกไปอีกตามที่เป็นข่าว
ประเด็นนี้จึงมีการตั้งข้อสังเกตุว่า 1.กำลังทาบทามบุคคลภายนอก ใครสักคนที่ฝีมือดี และพร้อมเคลียร์ตัวเองเพื่อเตรียมตัวลงชิงดีดี  2. ขยายเวลารับสมัคร เพื่อยื้อเวลาให้ใครสักคนที่ใกล้เกษียณ ได้จบวาระในเก้าอี้นี้

สำหรับ อุษณีย์ แสงสิงแก้ว รักษาการดีดีคนปัจจุบันนั้น เป็นน้องสาวของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว และเป็นผู้หญิงคนแรกของการบินไทยที่ได้ขึ้นมาบริหารงาน อุษณีย์จะเกษียณ ในอีก 10 เดือนข้างหน้านี้คือ ราวปลายเดือนกันยายนปี 2561 ทำให้บริษัทต้องรีบหาคนให้ได้ เพราะตามกฎหมาย อุษณีย์ จะเซ็นหนังสืออนุมัติอะไรไม่ได้ ตั้งแต่ต้นเดือนกรกฎาคม เป็นต้นไป คือ ไม่สามารถลงนามอนุมัติอะไรได้ก่อนหน้าจะเกษียณอายุงาน 3 เดือน นั่นหมายความว่า ดีดี คนใหม่ของการบินไทยจะต้องมาทำหน้าที่ก่อนเดือนมิถุนายนปี 2561  

ก่อนหน้านี้อุษณีย์ ให้สัมภาษณ์ว่า  แผนฟื้นฟูกิจการบริษัทที่จะสิ้นสุดปี 2560 อาจจะต้องปรับปรุงใหม่ ส่วนจะมีการขยายเวลาออกไปอีกหรือไม่ ต้องรอดูนโยบายขอไพรินทร์ ชูโชติถาวร รมช.คมนาคม และคณะกรรมการบริษัท ซึ่งหากเห็นควรให้ขยายเวลาจะต้องปรับแผนให้กระชับขึ้น เพื่อให้มีเวลาในการบริหารงานได้มากขึ้นกว่าปัจจุบัน

Food Truck ธุรกิจใหม่ของทีจี

ส่วนการดำเนินการตามแผนฟื้นฟู คาดว่าสิ้นปีนี้ รายได้จากการขายตั๋วโดยสารจะเป็นไปตามเป้าที่ 1.5แสนล้านบาท เติบโต 6-8 % จากปีก่อน โดยต้องรอความชัดเจนของยอดขายในช่วง พ.ย.-ธ.ค. อีกครั้ง

นอกจากนี้มั่นใจว่าปี 2560 THAI จะมีกำไรจากการดำเนินงาน แต่จะเห็นกำไรสุทธิหรือไม่ยังไม่สามารถบอกได้ เพราะต้องพิจารณาจากภาระค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นด้วย เช่น อัตราแลกเปลี่ยน ที่ขณะนี้เงินบาทแข็งค่าขึ้นมาก ขณะที่ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินมีการปรับเพิ่มขึ้น เบื้องต้นอาจจะต้องมีการปรับแผนการเฮดจิ้งราคาน้ำมันใหม่ ส่วนเรื่องด้อยค่าทรัพย์สินเครื่องบินเป็นค่าใช้จ่ายจำเป็นก็ต้องจ่าย หากบริษัทไม่สามารถขายเครื่องบินได้

ส่วนการขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิง 2 ครั้งของบริษัทในปีนี้ เป็นการปรับตามภาระต้นทุนน้ำมันที่เพิ่มขึ้น โดยราคาน้ำมันเครื่องบินได้ปรับจาก 50 เหรียญสหรัฐ/บารเรล ในช่วงต้นปี เป็น 80 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ในปัจจุบัน ทั้งนี้ยอมรับว่าการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมน้ำมันเชื้อเพลิงมีผลต่อการขาย แต่เชื่อว่าทุกสายการบินก็มีการปรับขึ้นค่าธรรมเนียมเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ก็เพื่อลดภาระต้นทุนเพราะน้ำมันเป็นต้นทุนมากถึง 30%

สำหรับการดำเนินธุรกิจในปี 2561 มีปัจจัยที่ท้าทาย คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าเงินบาท ค่าซ่อมบำรุงเครื่องบินซึ่งจะถึงรอบการซ่อมบำรุงครั้งใหญ่ ด้วย ส่วนการแผนการซื้อเครื่องบินใหม่ คาว่าจะเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 20 ธ.ค.นี้ คาดว่าจะเป็นการพิจารณาครั้งสุดท้าย

Richman can do ได้ตั้งแต่หวังว่า  สำหรับการบินไทยแล้ว กรุงศรีอยุธยา คงไม่สิ้นคนดี นะ ................