ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

อภินิหารความศักดิ์สิทธิ์เครื่องรางของขลังของหลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก

จากคำบอกเล่าของนายแป้นฯ ในสมัยที่ยังทำเรือประมงอยู่เล่าว่า ในขณะที่อยู่ในทะเล มีลูกเรือถูกงูเห่าทะเลกัดอาการเพียบเต็มที่ ยาก็ไม่มีรักษา นายแป้นฯ นึกถึงลูกอมของท่านที่นำติดตัวไปขึ้นมาได้ จึงอาราธนาระลึกถึงท่านหย่อนลงไปในขันน้ำปรากฏว่าแตกออกเป็น ๓ เสี่ยง และได้เอาน้ำในขันนั้นให้ลูกเรือรับประทาน ปรากฏว่าในไม่ช้าก็หาย สำหรับเรื่องลูกอมแตกนั้น ผู้เขียนฟังคำบอกเล่าในขั้นแรกยังสงสัยไม่ค่อยเชื่อนัก แต่เมื่อได้นำออกมาให้ดูปรากฏว่าแตกเป็น ๓ เสี่ยงจริง ๆ นับเป็นสิ่งอัศจรรย์มาก

ในช่วงสงครามอินโดจีน มีท่านผู้หนึ่งจะต้องไปสงคราม อยากได้เครื่องรางของท่าน แต่ไม่กล้ามาขอเพราะท่านเป็นคนดุพอสมควรแก่เหตุและผล เลยจ้างให้ศิษย์วัดขโมยมาให้ ศิษย์วัดผู้นั้นก็นำก้อนกรวดเล็ก ๆ ที่ท่านใส่ไว้ในกระถางน้ำมนต์บนหอสวดมนต์ไปให้ จึงได้นำติดตัวไป ในขณะที่อยู่ในแนวหน้ากับเพื่อน ๆ อีกกลุ่มหนึ่ง ปรากฏว่ากระสุนปืนใหญ่จากฝ่ายข้าศึกตกลงมาใกล้ ๆ พอดี เพื่อน ๆ ตายไปหลายคนที่ไม่ตายก็แทบไม่รอด แต่เจ้าตัวกลับไม่เป็นอะไรเลย เพียงแต่แรงของกระสุนปืนใหญ่นัดนั้นบีบหมวกเหล็กแบนติดกับศีรษะเอาไม่ออกต้องส่งตัวมาตัดในกรุงเทพฯ

สงครามมหาเอเชียบูรพา วัดบางปะกอกได้เป็นที่พักหนีภัยอันตรายของประชาชนมาอยู่เป็นร้อย ๆ ซึ่ง หลวงพ่อก็ได้ให้ความร่มเย็นโดยทั่วกัน โดยเฉพาะเจ้าจอมต่าง ๆ ที่อยู่ในรั้วในวังก็พากันมาพึ่งบารมีของท่านหลายต่อหลายคนภัยอันตรายต่าง ๆ ไม่เคยแผ้วพาลแม้แต่น้อย ทั้ง ๆ ที่วัดอยู่ห่างอู่ต่อเรือของญี่ปุ่นไม่ถึงกิโลเมตร มองเห็นลูกระเบิดหย่อนลงมาทำลายนับสิบ ๆ ลูก แต่ด้วยบุญบารมีของท่านท่านได้ปัดเป่าภัยอันตรายต่าง ๆ ที่จะมีแก่ชาวบางปะกอกจนปลอดภัยต่อเหตุการณ์ในครั้งกระนั้น ยากที่ชาวบางปะกอกและผู้ที่มาพึ่งบุญของท่านจะลืมได้

อีกรายหนึ่งที่ผู้เขียนสัมภาษณ์จากปากคำของผู้ประสบเหตุการณ์มาด้วยตนเอง ท่านผู้นั้นเล่าว่าในตอนหนุ่ม ๆ ชอบไปเที่ยวตามงานวัดย่านใกล้นั้น วันหนึ่งก่อนออกจากบ้านรู้สึกตัวว่ามีอะไรแปลก ๆ กว่าทุกครั้งที่เคยไปเที่ยวมา เหมือนมีอะไรดลจิตใจ จึงกลับไปหยิบผ้ายันต์และลูกอมดำของท่านอาราธนาบอกกล่าวขอความคุ้มครองจากท่านแล้ว ก็นำติดตัวไปขณะที่ยืนดูลิเกอยู่ในลานวัดนั้น มีนักเลงในเขตย่านนั้นซึ่งไม่ถูกกันมาก่อนลอบตีที่ศีรษะเต็มเหนี่ยวขณะที่ยืนดูอยู่กับเพื่อน ๆ ท่านผู้นี้เล่าว่าขณะถูกตีด้วยไม้คมแฝกรู้สึกชานิด ๆ ชั่วขณะหนึ่งเท่านั้นเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นทั้ง ๆ ที่เพื่อน ๆ และคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ ได้ยินเสียงโพล๊ะดังสนั่น ขนาดที่ลิเกกำลังแสดงหยุดชะงักการเล่นทันที ผู้คนแตกฮือไปคนละทิศละทาง ผู้ถูกตีเองกลับไม่รู้สึกอะไรนับเป็นอีกรายหนึ่งที่ผู้เขียนสัมภาษณ์กับผู้ประสบมาด้วยตนเอง และท่านผู้เล่าก็ยังมีชีวิตอยู่ในขณะนี้

อีกรายหนึ่งซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเร็ว ๆ นี้ คือเมื่อวันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๑๔ ท่านผู้นั้นคือ คุณพิทักษ์ กฤตสัมพันธ์ อาจารย์โทของโรงเรียนบางปะกอกวิทยาคม อำเภอราษฎร์บูรณะ ธนบุรี ได้ประสบมาด้วยตนเองกล่าวคือ เมื่อวันที่ ๒๒ ส.ค. ๑๔ เวลาประมาณ ๓ ทุ่มได้โดยสารรถเมล์ประจำทางสาย ๘๖ บางลำพู - พระประแดงเพื่อกลับบ้านขณะที่มาถึงหลังบริษัทข้าวไทย ๓ ท้องที่อำเภอราษฎร์บูรณะได้มีผู้โดยสารคนหนึ่งเกิดวิวาทกับคนขับรถประจำทางคันที่นั่งไป เหตุเพราะไม่จอดให้ลงตามที่ประสงค์ เมื่อผู้โดยสารคนนั้นได้ลงไปแล้ว ได้ชักปืนขึ้นมายิงเข้าไปในรถ ๒ นัดซ้อนๆ นัดแรกเข้าที่กลางหลังของคุณพิทักษ์ อีกนัดหนึ่งถูกผู้โดยสารข้างเคียง ขณะที่นัดแรกเจาะเข้ากลางหลังคุณพิทักษ์ เล่าว่ารู้สึกแน่นตื้อขึ้นมาในทันที จึงเอามือคลำดูที่หลังตามสัญชาตญาณเพราะรู้สึกตัวว่าโดนยิงแน่ อีกนัดหนึ่งเข้าที่แขนของคนข้างเคียง เลือดโชกออกมานอง ผู้โดยสารอื่น ๆ และผู้ประสบเหตุการณ์ จึงได้ช่วยกันนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลในทันที สำหรับคุณพิทักษ์ เมื่อผู้โดยสารอื่นๆ ช่วยกันตรวจดูแล้วไม่เห็นมีบาดแผล ความตกใจและดีใจที่ไม่เป็นอะไรจึงได้รีบกลับบ้านทันทีและเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ภรรยาและเพื่อนบ้านฟัง ซึ่งเพื่อนบ้านก็ช่วยกันสำรวจดูบาดแผลที่ถูกยิง ทว่ายังความแปลกใจให้กับภรรยาและเพื่อนบ้าน ปรากฏว่าเสื้อเชิ้ตชั้นนอกมีรอยไหม้เหลืองๆ เป็นจุด เมื่อถอดเสื้อชั้นนอกออกที่แผ่นหลังใกล้หัวใจเสื้อยืดชั้นในเป็นรอยบุ๋มลึกเข้าไปในเนื้อแผ่นหลังเกือบ ๑ ซ.ม. จึงได้ช่วยกันถอดเสื้อชั้นใน ออกปรากฏว่ามีรอยช้ำ ๆ เพียงเล็กน้อยเพราะความแรงของหัวกระสุนปืนลูกปืนมิได้ผ่านแผ่นหลังบาง ๆ ของคุณพิทักษ์ เข้าไปเลย

ชื่อเสียงโด่งดัง..ทั้งแผ่นดิน "หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก"ประสบการณ์เป็นเลิศ ทั้งถูกยิงถูกฟันต่างไร้ร่องรอย แม้ถูกงูเห่ากัดยังรอดตาย

เช่าพระคลิ๊กที่นี่
เช่าพระที่นี่

 

ผู้เขียนจึงได้เรียนถามว่ามีอะไรดีหนังจึงเหนียวนักคุณพิทักษ์ บอกว่าได้บุญพระท่านคุ้มครองพร้อมกับบอกว่ามีลูกอมดำของหลวงพ่อพริ้ง กับพระเครื่องอื่น ๆ อีก ๒ - ๓ องค์ แต่มั่นใจเหลือเกินว่าหลวงพ่อท่านช่วยแน่ แต่มิใช่ว่าจะลบหลู่พระเครื่องอื่น ๆ ที่กล้ากล่าวเช่นนี้เพราะว่าเรื่องประสบภัยอันตรายนี้มิใช่เป็นครั้งแรก แต่เป็นครั้งที่สองแล้วและในครั้งแรกก็มีเพียงลูกอมดำของหลวงพ่อเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

อภินิหารเกี่ยวกับเครื่องรางของขลังของท่านเลื่องลือไปไกลในยุคนั้น นอกเหนือไปชาวชาวจังหวัดพระนครธนบุรี แล้วชาวจังหวัดอื่น ๆ ก็เป็นลูกศิษย์ลูกหาของท่านมากมาย แม้ในบรรดาพระผู้ใหญ่ชั้นราชาคณะหลายท่านก็เคารพนับถือท่านมาก ท่านผู้มีอายุหลายท่านเล่าว่า สมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งรักใคร่ชอบพอกันมาก เมื่อมาหาท่านก็จะกราบหลวงพ่อก่อนทุกครั้ง และไม่ว่าจะไปเจริญพระพุทธมนต์หรือฉันภัตตาหารที่ใดโดยมีพระชั้นเจ้าคุณไปร่วมด้วย เมื่อทราบว่ามีท่านเจ้าอาวาสวัดบางปะกอกจะไปด้วยจะต้องเว้นที่นั่งเหนือกว่าไว้ให้ท่านแทบทุกแห่งไป นับเป็นสิ่งน่าอัศจรรย์มาก เพราะท่านเป็นเพียงพระครูเจ้าอาวาสเท่านั้น ซึ่งเรื่องนี้เป็นที่กล่าวขวัญกันสืบมาจนทุกวันนี้

มีประชาชนรุ่นหลัง ๆ ที่เคารพเลื่อมใสในตัวของหลวงพ่อได้สอบถามกันอยู่เสมอว่าคาถากำกับเครื่องรางของหลวงพ่อมีอะไรบ้าง ผู้เขียนขอแนะนำว่า นะโมพุทธายะ พระเจ้าห้าพระองค์นั่นแหละครับ เพราะท่านได้สร้างเหรียญของท่านเองก็มีคำว่า นะโมพุทธายะ พร้อมกับอาราธนาบอกกล่าวระลึกพระคุณของท่านเป็นไม่ผิดหวังแน่ ๆ

สำหรับของชุดใหม่ที่จัดสร้างขึ้นนั้นก็ปรากฏว่าได้แสดงอภินิหารให้เป็นที่ประจักษ์นับตั้งแต่วันแรกที่เปิดจำหน่าย ซึ่งผู้เขียนเองได้เป็นผู้ควบคุมการจำหน่ายอยู่ ซึ่งเปิดให้เช่าไปได้สักพัก ปรากฏว่ามีคนแห่กันมาแน่นบริเวณที่ให้เช่า ขอเช่ากันคนละองค์สององค์ก็เป็นของธรรมดา แต่ที่เช่ากันคนละ ๒๐๐ , ๓๐๐ , ถึง ๕๐๐ บาทก็มี ซึ่งยังความแปลกใจให้กับผู้เขียนและกรรมการที่ร่วมให้เช่า

ผู้เขียนเองก็ยังนึกในใจว่าจะรีบเช่ากันไปทำไมคนละสี่ห้าร้อยบาท มีผู้เช่าไปแล้วนำไปลองยิงด้วยปืนมีคนดูหลายสิบคน ผลปรากฏว่ายิง ๒ นัดไม่ออก พอหันปืนไปทางอื่นคราวนี้ได้ผลเสียงดังสนั่นต่อหน้าผู้คนที่มุงดู เลยแห่กันมาเช่ากันคนละหลายร้อยบาทดังที่กล่าวข้างต้น เป็นเหตุให้ผู้เขียนจำหน่ายเงินขาดไป ๒๕๐ บาท เพราะดูแลไม่ทั่วถึงทั้ง ๆ ที่มีกรรมการร่วมด้วยหลายคน

นอกจากนี้ยังได้ทราบว่ามีผู้นำไปลองอีกสองสามแห่ง ผลก็ปรากฏว่าเช่นเดิม ทำให้การจำหน่ายแต่ละครั้งเต็มไปด้วยผู้ศรัทธาเลื่อมใสในตัวของหลวงพ่ออย่างน่าปลื้มใจ แม้แต่ชนชาวแขกแท้ ๆ ก็ยังมาขอเช่ากันหลายสิบคน

เกี่ยวกับที่มีคนนำไปทดลองด้วยปืนนี้ผู้เขียนไม่ยืนยันเพราะไม่ได้เห็นด้วยตาตนเอง แต่ก็ได้ถามจากผู้ที่มาขอเช่าคนหนึ่งซึ่งได้เช่าหลายร้อยบาท บอกกับผู้เขียนว่าได้ไปยืนดูด้วยตนเองและเห็นกับตา จึงมีความเลื่อมใสในตัวของหลวงพ่อมาก สำหรับผู้เขียนเองไม่เคยคิดจะลอง เพราะคิดว่ามีของดีแล้วไม่ควรจะนำมาทดลองไม่เป็นการสมควรจริง ๆ เราเคารพเลื่อมใสก็อาราธนาบอกล่าวถึงท่านนำติดตัวไป ก็เกิดพลังใจเป็นที่เชื่อถือได้เพียงพอแล้ว

อีกรายหนึ่งได้ประสบมากับตนเอง คือนายบุญมา ตรงมณี อยู่หมู่ที่ ๙ อ.ราษฎร์บูรณะ นครหลวงธนบุรี อาชีพขับรถรับจ้างโดยสารเมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน ๒๕๑๕ นี้เอง นายบุญมาฯ ได้เล่าให้ฟังว่า วันนั้นเป็นวันพุธตื่นเช้าขึ้นมาก็รู้สึกไม่อยากจะไปทำงานจึงกลับไปนอนต่อ แต่ก็นอนไม่หลับ พอประมาณ ๐๙.๐๐ น. เศษ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยไปออกรถ กลับบ้านอีกครั้งหนึ่งเวลาประมาณ ๑๘.๐๐ น. เศษ ตามปกติ โดยเช่าบ้านอยู่ในซอยสมบูรณ์ทรัพย์ ขณะที่เดินทางกลับยังไม่ถึงบ้าน ก็ถูกคนร้ายฟันด้วยมีดที่หัวไหล่ขวาเต็มแรง จึงเอามือลูบที่โดนฟัน

ชื่อเสียงโด่งดัง..ทั้งแผ่นดิน "หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก"ประสบการณ์เป็นเลิศ ทั้งถูกยิงถูกฟันต่างไร้ร่องรอย แม้ถูกงูเห่ากัดยังรอดตาย

ปรากฏว่าไม่เป็นอะไร พร้อมกับหมุนตัวกลับ ก็เห็นคนฟันซึ่งเป็นวัยรุ่นกำลังวิ่งหนี จึงได้วิ่งตามไป แต่เห็นคนร้ายมีมีดในมือยาวประมาณศอกเศษจึงหยุดไล่ เพราะตนเองไม่มีอาวุธมีแต่มือเปล่า คนร้ายจึงโดดขึ้นรถจักรยานยนต์ซึ่งมีเพื่อนจอดรออยู่หนีไปได้ จึงได้นำความไปแจ้งกับเจ้าหน้าที่สถานีตำรวจราษฎร์บูรณะ

เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจดูไม่มีบาดแผลเป็นเพียงรอยขีดเล็ก ๆ เป็นยางบอนเท่านั้น จึงได้ถามนายบุญมา จึงนึกขึ้นมาได้จึงหยิบซองใส่พระและผ้ายันต์ขึ้นมาให้เจ้าหน้าที่ดู

ปรากฏว่าผ้ายันต์นั้นเป็นของอาจารย์อื่น ๒ ผืน เป็นผ้ายันต์ทางเมตตามหานิยม อีกอย่างหนึ่งคือพระพิมพ์ผง ๒ หน้า หลวงพ่อพริ้งที่จัดสร้างขึ้นใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้ แต่ทว่าพระพิมพ์หลวงพ่อพริ้งใต้ฐานหัก ยังความแปลกใจให้กับเจ้าของและเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมากว่าทำไมถึงหักได้ซึ่งนายบุญมาฯ ยืนยันว่าไม่เคยทำตกและก็เก็บไว้ในกระเป๋าเสื้อตลอดเวลา พร้อมกับบอกว่าหลวงปู่พริ้ง ท่านช่วยชีวิตผมไว้แน่ ๆ เพราะเหตุว่าตนเองมีอาชีพขับรถรับจ้างก็หาของทางเมตตามหานิยมเท่านั้น สำหรับหลวงพ่อพริ้ง ได้มาก็เนื่องจากพรรคพวกเขาแบ่งให้ จึงแลกไปคนละองค์ พร้อมกับบอกว่าหลวงปู่พริ้งก็ไม่เคยรู้จักเคยได้ยินแต่ชื่อเท่านั้น และก็ไม่ได้หาเช่าไว้เพราะเป็นคนต่างจังหวัด อีกประการหนึ่งหลวงพ่อพริ้งก็มรณภาพไปนานแล้วด้วยจึงไม่ได้ยินชื่อเสียงและกิตติศัพท์ของท่านนัก พร้อมทั้งยืนยันว่าองค์นี้จะต้องนำไปต่อให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยเพราะท่านช่วยชีวิตผมไว้

นายบุญมา เล่าให้ฟังว่าต่อไปว่าวันเกิดเหตุนั้น ถ้าไม่ออกไปทำงานก็มีหวังตายแน่ ๆ เพราะปกติจะเดินเข้าออกตรอกนั้น พบปะเพื่อนฝูงวันละหลายเที่ยวและจะไม่นำพระติดตัวเลย ไปทำงานถึงจะนำติดตัวไป ทำให้รอดชีวิตมาได้

ผู้เขียนได้ขอดูรอยที่ถูกฟันปรากฏว่าเห็นเป็นรอยทางยาว ๆ ประมาณ ๖ - ๘ นิ้วฟุต เพราะเหตุเกิดมาหลายวันแล้ว ถ้าหากว่าฟันเข้าไม่พิการก็ต้องนอนโรงพยาบาลเป็นเดือน ๆ แน่ ๆ

บันทึกผู้เขียน

ประวัติของท่านพระครูประศาสน์สิกขกิจ (หลวงปู่พริ้ง) ผู้เขียนได้ศึกษาประวัติของท่านไว้ในความทรงจำมานานหลายปี โดยสอบถามจากผู้ใหญ่ที่เคยใกล้ชิดทั้งในอดีตและปัจจุบันที่พอทราบประวัติของท่านหลายต่อหลายท่านด้วยกัน บางท่านก็ถึงแก่กรรมไปแล้วก็มี ซึ่งประวัติและอภินิหารเกี่ยวกับเครื่องรางและของขลังของหลวงปู่พริ้ง ผู้เขียนได้พยายามอย่างยิ่งที่จะค้นคว้ารวบรวมจากท่านผู้รู้จริงมาเผยแพร่ให้ท่านผู้สนใจได้ทราบ แม้จะไม่ละเอียดนัก ทั้งนี้เพื่อให้ชาวบางปะกอกรุ่นหลังๆได้ระลึกถึงพระคุณความดีของท่านที่ได้ร่วมสร้างสมไว้ให้กับชาวบางปะกอกและบวรพระพุทธศาสนา

เพื่อที่จะให้เป็นที่ระลึกในกาลนาน ข้าพเจ้าจึงดำเนินการจัดพิมพ์หนังสือเล่มนี้ขึ้น อาจจะไม่ละเอียดถูกต้องนัก ข้าพเจ้าผู้เขียนขอน้อมรับคำติชมจากผู้รู้จริงทุกๆ ท่านและขอได้โปรดแจ้งให้ข้าพเจ้าได้ทราบ จักเป็นพระคุณอย่างสูงยิ่ง

ชื่อเสียงโด่งดัง..ทั้งแผ่นดิน "หลวงปู่พริ้ง วัดบางปะกอก"ประสบการณ์เป็นเลิศ ทั้งถูกยิงถูกฟันต่างไร้ร่องรอย แม้ถูกงูเห่ากัดยังรอดตาย

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ เจ้าของบทความ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

http://www.dharma-gateway.com

ศิษย์มีครู

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา