ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

พระเกจิดังเพชรบูรณ์ ผู้สืบทอดวิชา “ ดอกน้ำมนต์ให้โชค ” หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ วัดคลองคล้า เพชรบูรณ์

“หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิโต ” พระเกจิดังแห่ง วัดสำนักขุนเณร อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร พระอริยสงฆ์ผู้ทรงวาจาศักดิ์สิทธิ์เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของเหล่าสาธุชนและคณะศิษยานุศิษย์ มีความเชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือไปทั่วสารทิศ จนได้รับการยกย่องจากชาวเมืองพิจิตร เป็นพระเกจิร่วมสมัยกับ หลวงพ่อทบ ธัมมปัญโญ วัดชนแดน จ.เพชรบูรณ์

ปัจจุบันมีศิษย์สืบทอดพุทธาคมของท่านอีกรูปหนึ่ง คือ "หลวงปู่อุ้ย สิริปัญโญ" วัดคลองคล้า อ.ชนแดน จ.เพชรบูรณ์ สิริอายุ๘๖ ปี เกิดที่บ้านคลองลำภู พ.ศ.๒๔๗๔อำเภอบางมูลนาก จังหวัดพิจิตร ท่านมีนามเดิมว่า พระ ประเสริฐ นามสกุล มีรัตน์ บิดาชื่อนายเชื้อ มีรัตน์ มารดาชื่อนางพริ้ง จันทร์ เป็นบุตรคนที่๒ จากทั้งหมด ๗ คน

บรรพชาสามเณร อายุ ๑๖ ปี มี หลวงพ่อเขียน ธมฺมรกฺขิโต เป็นผู้บวชให้ ศึกษาอักขระขอมบาลีและศึกษาการปฏิบัติธรรมกรรมฐาน กระทั่งอายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ เข้าพิธีอุปสมบท วัดสำนักขุนเณร ต.วังตะโก อ.บางมูลนาค จ.พิจิตร อยู่จำพรรษาที่วัดสำนักขุนเณร เริ่มศึกษาธรรมะกับหลวงพ่อเขียน หลวงพ่อเขียนได้ถ่ายทอดวิทยาคม อักขระเลขยันต์ ภาษาขอม ภาษาบาลี เขียนผงลบผง และคาถาต่างๆ และโดยเฉพาะ การทำน้ำมนต์มหาลาภ ใครได้อาบน้ำมนต์กลับไปจะมีโชค มีลาภ ทันที และสอนคาถาคงกระพันชาตรี คาถาเรียกลาภ และมนต์เสน่ห์เมตตา การย่นระยะทาง การฝึกพลังจิต มุ่งมั่นศึกษาจนมีความชำนาญ กระทั่งหลวงพ่อเขียนไว้ใจให้เขียนยันต์ อักขระแทน ทำน้ำมนต์แทน

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "หลวงปู่อุ้ย วัดคลองคล้า"ผู้สืบทอดวิชาดอกน้ำมนต์ให้โชค ใครได้อาบน้ำมนต์มหาลาภกลับไปจะมีโชคมีลาภ ทันที.

หลวงพ่ออุ้ย

หลังจากนั้น มั่นใจการปฏิบัติจึงออกเดินธุดงค์ อยู่รุกขมูลร่ำเรียนไปทั่วทุกภาค เป็นเวลาหลายพรรษา ระหว่างธุดงค์ หลวงพ่อเขียนปรากฏกายให้เห็นพร้อมเสียงพูดว่า “ ท่านอุ้ยกลับได้แล้วหน่อ ” ก่อนหน้านั้นวันเดียว หลวงพ่ออาการโรคเก่ากำเริบ นอนพักในกุฏิ พอกลับมากราบหลวงพ่อ ท่านทักว่า “ เราไปตามก็ไม่กลับหน่อ ต้องให้เราเอ่ยปากชวนหน่อ ถึงจะกลับหน่อ ” ต่อมาไม่นาน หลวงพ่อเขียน ละสังขาร หลวงปู่อุ้ย จึงได้ลาสิกขากลับไปช่วยบิดามารดาทำไร่ทำนา และมีครอบครัว

ปี ๒๕๓๐เบื่อหน่ายทางโลกจึงได้ออกบรรพชามี พระครูพัชระโสภณ ( โสดา ) วัดชนแดน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอาจารย์ทองใบ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์บุญเรือง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีฉายาทางธรรมว่า “ สิริปัญโญ ” ได้หลีกหนีผู้คนมา จำวัดคลองคล้า อยู่อย่างสงบไม่ชอบความวุ่นวาย ได้พบหลวงพ่อหวาน อดีตเจ้าอาวาสวัดคลองคล้าน้องหลวงพ่อเดิม พระเกจิเรืองวิทยาคมผู้ถือธุดงค์ตลอดชีวิต ได้ถ่ายทอดสรรพวิชาให้จนหมดสิ้น ยังได้พบหลวงปู่พวง อดีตเจ้าอาวาสวัดน้ำพุสามัคคี( ร่างไม่เน่า ) ศิษย์เอกหลวงพ่อทบ วัดชนแดน ได้สอนกรรมฐานการปลุกเสกพระทำการวัตถุมงคล

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "หลวงปู่อุ้ย วัดคลองคล้า"ผู้สืบทอดวิชาดอกน้ำมนต์ให้โชค ใครได้อาบน้ำมนต์มหาลาภกลับไปจะมีโชคมีลาภ ทันที.

หลวงปู่อุ้ย ตั้งมั่นอยู่ในสมณธรรมอย่างเคร่งครัด มีวัตรปฏิบัติเรียบง่าย เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาของผู้ได้พบเห็น เชี่ยวชาญวิทยาคมเป็นที่เลื่องลือ ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ระดับแนวหน้า ยามได้รับกิจนิมนต์ไปงานบุญต่างๆ ไม่เคยปฏิเสธ แม้ว่าอายุจะย่างเข้าสู่วัยชราและมีปัญหาด้านสุขภาพตามวัย หากหลวงปู่ไปไม่ไหว ท่านจะมอบหมายให้พระอาจารย์ ๒ รูปที่ปรนนิบัติรับใช้ ทำหน้าที่แทน คือ พระอธิการเหลย และ พระสุริยา ศิษย์ก้นกุฏิ ผู้สืบทอดวิชาทั้งหมด

สำหรับด้านวัตถุมงคลที่อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้น ล้วนแล้วแต่มีประสบการณ์เล่าขาน โดยเฉพาะ พระอุปคุต พระเหนือพรหม เหรียญรุ่นแรก พระกริ่งสายรก ท้าวเวสสุวรรณ ทำให้บรรดานักสะสมนิยมพระเครื่องวัตถุมงคลต่างเสาะแสวงหามาบูชาครอบครองติดตัว เกียรติคุณบารมี รวมทั้งพุทธาคมและพลังจิตของท่าน ทำให้ได้รับการยกย่องว่าเป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของจังหวัดเพชรบูรณ์

“ หลวงปู่อุ้ย ” ท่านได้ละสังขาร ๑๔ กันยายน ๒๕๖๐ เวลา ๑๕.๕๙น. สิริอายุ ๘๖ ปี

เทพเจ้าแห่งโชคลาภ "หลวงปู่อุ้ย วัดคลองคล้า"ผู้สืบทอดวิชาดอกน้ำมนต์ให้โชค ใครได้อาบน้ำมนต์มหาลาภกลับไปจะมีโชคมีลาภ ทันที.

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

ศิษย์มีครู

เพื่อเผยแผ่กิตติคุณเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติศักดิ์ครูบาอาจารย์