เอามั้ย .... หุ้นเด็ดปี61

จริงหรือ คนจนไม่มีสิทธิเล่นหุ้น ตัวไหนน่าลงทุน ติดตามเพจRichman can do

จริงหรือ คนจนไม่มีสิทธิเล่นหุ้น ตัวไหนน่าลงทุน ติดตามเพจRichman can do

เอามั้ย .... หุ้นเด็ดปี61

พิชัย เลิศสุพงศ์กิจ จากบริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต วิเคราะห์ทิศทางตลาดหุ้นไทย ปี 2561 โดยปรับเป้าดัชนี ปีหน้าเป็น 1,900 จุด และปี 2019 ที่ 2,050 จุด ทั้งแนะนำ “ซื้อ” หุ้นดังต่อไปนี้  SPA และ THANI เข้าพอร์ต ส่งผลหุ้นติดอันดับ (Top Picks) 10 ตัวคือ AMATA, AOT, BEAUTY, CPALL, CPN, EA, KBANK, KCE, SPA และ THANI
 

เอามั้ย .... หุ้นเด็ดปี61

ทีมกลยุทธ์แนะซื้อหุ้นพื้นฐานดี ที่ถูกเพิ่มในดัชนี SET50 รอบนี้ อย่าง
1) BEAUTY  เป้าหมายราคา(TP) 26 บาท  การขยายช่องทางการขายสู่รูปแบบใหม่ modern trade+ส่งออกเพิ่ม คาดปี  2561-2562 กำไรเติบโตสูง 32-24% 
2) SAWAD เป้าหมายราคา (TP) 80 บาท  กำไรเริ่มเร่งตัวขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 4 ปีนี้  หลังปรับโครงสร้างธุรกิจระหว่าง BFIT-SAWAD เสร็จ และคาดว่ากำไรจะเติบโตสูง 50% ปี 2018 จากสินเชื่อที่เติบโตแข็งแรง, ต้นทุนการเงินยังต่ำ
รวมถึงซื้อ SPA เป้าหมายราคา (TP) 24 บาท โอกาสเติบโตธุรกิจสปายังมีอีกมาก เป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตสูง(high growth) และ เสี่ยงต่ำ  และหุ้น THANI เป้าหมายราคา 11 บาท  เพราะสินเชื่อรถบรรทุกเติบโตสูง
 

เอามั้ย .... หุ้นเด็ดปี61

นอกจากนั้นยังมีหุ้นพื้นฐานดี เช่น JWD: “ซื้อ” พื้นฐาน 13.8 บาท (เดิม 13.20) เรามีมุมมองบวกต่อการจัดตั้ง AIMIRT เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจในอนาคต คาดกำไรเติบโตสูง 35-27% ในปี 2018-19 จากธุรกิจในประเทศเติบโตแข็งแก่ง และเริ่มรับรู้ส่วนแบ่งรายได้จากJV ในอินโดฯ, ต้นทุนดอกเบี้ยลดลง และปันผลจากกอง REIT

ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ เริ่มมองเห็นสัญญาณดี เพราะเศรษฐกิจที่ขยายตัว การจ้างงานดีขึ้น แต่เงินเฟ้อยังขึ้นช้า เป็นสถานการณ์ที่เอื้ออำนวยต่อการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง ซึ่งรวมถึงตลาดหุ้น 
ดังนั้นทำให้ การประชุมธนาคารกลางสหรัฐหรือ เฟด ล่าสุด มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเฟด 0.25% ตามคาด พร้อมปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจสู่ 2.5% ในปีหน้า อัตราการว่างงานจะลดเหลือ 3.9% อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานขยับขึ้นสู่ 1.9%   นอกจากนั้นเฟดยังส่งสัญญาณปรับขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้า ไม่เปลี่ยนแปลง
รายงาน Siam Senses วันนี้ยืนยันมุมมองบวกต่อแนวโน้ม SET ระยะ 12-24 เดือนข้างหน้า จากเศรษฐกิจขยายตัว, สภาพคล่องในประเทศสูง, การลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัว, แรงกดดันเงินเฟ้อยังต่ำ ดอกเบี้ยยังไม่ขึ้นเร็ว กฎหมาย EEC หนุนลงทุนภาคเอกชน