"วัฒนา" โดดป้อง "โอ๊ค"!!ไม่ผิดฟอกเงินกรุงไทย อ้าง"ไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้" โทษโจมตีเพราะ"การเมือง"!!??

"วัฒนา" โดดป้อง "โอ๊ค"!!ไม่ผิดฟอกเงินกรุงไทย อ้าง"ไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้" โทษโจมตีเพราะ"การเมือง"!!??

"วัฒนา" โดดป้อง "โอ๊ค"!!ไม่ผิดฟอกเงินกรุงไทย อ้าง"ไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้" โทษโจมตีเพราะ"การเมือง"!!??

    จากกรณีที่ นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความผู้ได้รับมอบอำนาจจากนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซึ่งถูกแจ้งข้อหาฟอกเงิน อันเกี่ยวเนื่องกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน) อนุมัติสินเชื่อให้แก่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด(มหาชน) โดยมิชอบแล้ว ได้นำเอกสารประกอบการแก้ข้อหา และพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของนายพานทองแท้ พร้อมทั้งอ้างอิงพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่สอบสวนดีเอสไอได้ขยายผลต่อไป

"วัฒนา" โดดป้อง "โอ๊ค"!!ไม่ผิดฟอกเงินกรุงไทย อ้าง"ไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้" โทษโจมตีเพราะ"การเมือง"!!??

    โดย พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาว่าคำร้องที่นายพานทองแท้ โต้แย้งว่าตัวเองไม่มีความผิด และร้องขอให้สอบพยานเพิ่มในหลายๆประเด็น ซึ่งเร็วๆนี้จะนำคำร้องที่นายพานทองแท้ มาพิจารณาในที่ประชุมร่วมกับพนักงานอัยการสูงสุด และพนักงานสอบสวน ทั้งนี้การยื่นเรื่องดังกล่าว นายพานทองแท้และพวก สามารถทำได้ โดยทางดีเอสไอก็จะให้ความเป็นธรรมและจะทำตามขั้นตอนของกฎหมาย

    ล่าสุด นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟชบ๊กส่วนตัว 

“โอ๊ค..ตัวประกันทางการเมือง” โดยระบุว่า...

ผมกล้ายืนยันว่า การดำเนินคดีอาญาฐานฟอกเงินกับนายพานทองแท้ ชินวัตร หรือโอ๊ค บุตรชายของนายกฯทักษิณมีจุดประสงค์ทางการเมือง โอ๊คถูกกล่าวหาว่าได้รับเงินจำนวน 26 และ 10 ล้านบาท ที่จ่ายจากบัญชีของนายวิชัย กฤษดาธานนท์ เพื่อช่วยซุกซ่อนหรือปกปิดแหล่งที่มาของเงินดังกล่าว จากสำนวนการไต่สวนของ คตส. เงิน 26 ล้านบาทสั่งจ่ายเป็นแคชเชียร์เช็คเพื่อฝากซื้อหุ้นแต่ยังไม่เคยถูกนำเข้าบัญชีของโอ๊คเพราะเช็คถูกยกเลิก โอ๊คไม่เคยได้รับเงินก้อนนี้ จึงไม่ครบเป็นองค์ประกอบความผิด ส่วนเช็คจำนวน 10 ล้านบาท โอ๊คได้รับมาเพื่อการลงทุนทางธุรกิจร่วมกัน ไม่ใช่ได้มาเพื่อช่วยปกปิดหรือช่วยซุกซ่อนแหล่งที่มาของเงิน เพราะเป็นจำนวนเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับเงินกู้เกือบ 10,000 ล้านบาท อีกทั้งโอ๊คไม่มีเหตุผลที่จะไปช่วยปกปิดหรือซุกซ่อน เพราะไม่ได้ประโยชน์อะไรด้วย

พฤติกรรมในการดำเนินคดีคือเครื่องยืนยันว่าเป็นเรื่องการเมือง เพราะโอ๊คไม่เคยได้รับความเป็นธรรมมาตั้งแต่แรก เริ่มจากการสอบสวนซ้ำ เพราะเช็คทั้ง 2 ฉบับได้ถูก คตส.ไต่สวนและเห็นว่าไม่เป็นความผิดฐานฟอกเงินแล้ว แต่ดีเอสไอยังเอามาสอบสวนใหม่ จากนั้นตั้งข้อกล่าวหาเฉพาะโอ๊คและคนใกล้ชิด ทั้งที่มีบุคคลเกือบ 150 คนที่ได้รับเงินแบบเดียวกับโอ๊ค แต่ก็มิได้มีการดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว เพิ่งจะมาตั้งเรื่องสอบสวนใหม่เมื่อถูกนายวีระ สมความคิด ยื่นหนังสือร้องเรียน ส่วนการไปดีเอสไอของโอ๊คเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาก็มีการนำเอาภาพจากกล้องวงจรปิดออกมาเผยแพร่ผ่านสื่อทั้งที่เป็นความลับ

    ล่าสุดมีการออกข่าวว่าโอ๊คจะมาขอขยายเวลายื่นคำให้การ เพื่อให้เข้าใจว่าโอ๊คจะประวิงหรือถ่วงคดี แต่ทุกอย่างก็ผิดคาด เพราะโอ๊คมายื่นคำให้การก่อนกำหนด จากนี้ไปจึงเป็นหน้าที่ของดีเอสไอที่จะต้องรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อพิสูจน์ข้อกล่าวหาและความบริสุทธิ์ของผู้ถูกกล่าวหาตามคำให้การจนครบถ้วน หากคิดจะรวบรัดเอาง่ายเข้าว่า หรือคิดว่าเผด็จการจะอยู่ยั้งยืนยง ระวังจะตกเป็นจำเลยเสียเอง