ตื่นตระหนกไปทั่วโลก!! เข้าใจผิดกันมานาน เรื่องของน้ำมันพืช- น้ำมันหมู กับโรคฮิตในไทย ...กระทบแน่ มะพร้าวจะมีราคา...ปัญหาจะเกิดกับปาล์ม!

รู้จริง... รู้แจ้ง... ทุกเรื่องราวพระอริยสงฆ์   http://www.tnews.co.th

 

มะพร้าวจะมีราคา...ปัญหาจะเกิดกับปาล์ม!
โดย สิริอัญญา  วันเสาร์ที่ 16 ธันวาคม 2560


ผลการวิจัยทางวิชาการเกี่ยวกับน้ำมันพืชอิ่มตัวหรือไม่อิ่มตัวที่พลิกล็อคจากอดีต ทำให้เกิดการตื่นตระหนกไปทั่วทั้งโลกที่หลงผิด เชื่อผลวิจัยในอดีตจนทำให้คนทั้งโลกกลายเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสารพัด และเป็นเหตุให้ถึงแก่ชีวิตจำนวนมาก
น้ำมันพืชอิ่มตัวคือน้ำมันพืชที่มีขนาดโมเลกุลสั้น และเมื่อถูกความร้อนจะไม่เปลี่ยนขนาดหรือโครงสร้างของโมเลกุล ดังนั้นเมื่อบริโภคจึงไม่เป็นอันตรายต่อหลอดเลือด ตรงกันข้ามกับน้ำมันพืชที่ไม่อิ่มตัว ซึ่งมีขนาดของโมเลกุลยาวและจะเปลี่ยนรูปร่างเมื่อถูกความร้อนที่สูงขึ้น
น้ำมันพืชที่ไม่อิ่มตัวเมื่อเข้าสู่ร่างกายในอุณหภูมิปกติของคนก็จะเข้าสู่กระแสเลือดไหลเวียนสู่ทั่วร่างกาย เพราะเหตุที่ขนาดโมเลกุลยาวและเปลี่ยนรูปร่างได้ จึงค่อย ๆ เกาะติดกับผนังเส้นเลือด ในระยะแรก ๆ อาจจะเกาะไม่ค่อยได้หรือได้น้อย แต่เมื่อคนเรามีอายุมากขึ้นหรือนานวันเข้าก็เกาะเป็นฝ้าขึ้นตามหลอดเลือด และจากฝ้านั้นก็เป็นการง่ายที่คราบไคลของน้ำมันที่ไม่อิ่มตัวจะเกาะติดอย่างรวดเร็ว และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เส้นเลือดเปราะ ตีบ แตก หรือตัน อันเป็นอันตรายร้ายแรงแก่มนุษย์ ไม่ว่าโรคหัวใจ หรือโรคใด ๆ ที่มีเลือดไหลผ่าน
ตื่นตระหนกไปทั่วโลก!! เข้าใจผิดกันมานาน เรื่องของน้ำมันพืช- น้ำมันหมู กับโรคฮิตในไทย ...กระทบแน่ มะพร้าวจะมีราคา...ปัญหาจะเกิดกับปาล์ม! (  (ขอบคุณภาพประกอบจาก "พันทิป" )

ตื่นตระหนกไปทั่วโลก!! เข้าใจผิดกันมานาน เรื่องของน้ำมันพืช- น้ำมันหมู กับโรคฮิตในไทย ...กระทบแน่ มะพร้าวจะมีราคา...ปัญหาจะเกิดกับปาล์ม!


เมื่อ 40 ปีก่อนประเทศตะวันตกที่มีอิทธิพลต่อโลกได้ออกผลวิจัยว่าไขมันอิ่มตัวที่ได้จากน้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าวเป็นอันตรายเพราะทำให้คอเรสเตอรอลขึ้นสูง ไขมันในเลือดสูง เป็นเหตุของเส้นเลือดตีบ แตก ตัน อัมพฤกษ์ อัมพาต และหัวใจวายได้
คนทั้งหลายก็ตื่นตระหนกพากันเลิกใช้น้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าว จนแทบจะต้องทิ้งไปอย่างไร้คุณค่า ในขณะที่ผลิตผลอุตสาหกรรมจากน้ำมันพืชทุกชนิดคึกคักครึกโครมมีราคาพุ่งสูงขึ้นเพราะชาวโลกต้องบริโภคโดยถ้วนหน้ากัน น้ำมันถั่ว น้ำมันปาล์ม เป็นหลักที่ใช้ในการทำอาหารและใช้ในการบริโภคสารพัด

ดังนั้นในวันนี้เมื่อผลวิจัยทางวิชาการก็ดี ผลการทดสอบของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดหัวใจที่ผ่าหัวใจคนมานับไม่ถ้วนราวกับโรงฆ่าสัตว์ผ่าหัวใจหมูจำนวนมากหลายล้วนรายงานประสบการณ์ที่ตรงกันว่า น้ำมันที่อิ่มตัวไม่มีความสัมพันธ์กับการที่ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบ แตก ตัน และไม่เป็นต้นเหตุของการเพิ่มขี้นของคอเรสเตอรอล
และระบุชัดตรงกันว่าน้ำมันพืชไม่อิ่มตัวที่ได้จากถั่วและปาล์มต่างหากที่เป็นต้นเหตุให้เกิดคอเรสเตอรอล เป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดเปราะ และเป็นต้นเหตุให้เส้นเลือดตีบ แตก ตัน และเป็นอันตรายร้ายแรงต่อหัวใจมนุษย์ด้วย
ได้มีการเผยแพร่รายงานวิจัยและรายงานประสบการณ์ของแพทย์ที่ผ่าตัดหัวใจออกไปทั่วโลกแล้ว ดังนั้นจึงเกิดการตื่นตระหนกขึ้นทั่วทั้งโลกที่หลงบริโภคน้ำมันไม่อิ่มตัวต่อเนื่องมาเป็นเวลาถึง 40 ปี แล้วจะแก้ไขกันอย่างไร?
เพราะผลจากการนั้นได้ก่อโรคภัยให้กับมวลมนุษย์จำนวนมหาศาล อำนวยประโยชน์ให้แก่บริษัทผู้ผลิตและค้ายาเป็นจำนวนมหาศาลตามไปด้วย แล้วใครเล่าจะต้องรับผิดชอบจากความผิดพลาดใหญ่หลวงนี้?
เช่นเดียวกับการผลิตยาหลายชนิดที่พบพิษภัยในภายหลังว่าเป็นอันตรายร้ายแรงต่อชีวิตจนต้องยกเลิกการใช้ยาเหล่านั้นไปนับไม่ถ้วน การยกเลิกนั้นง่าย แต่การจะทำให้สุขภาพมนุษย์ที่ถูกทำลายไปเพราะพิษภัยของยาจะแก้ไขให้ฟื้นคืนได้อย่างไรเล่า!

ดังนั้นจึงเป็นเรื่องที่บรรดาผู้มีอำนาจหน้าที่ทั้งหลายจะต้องสังวรไว้ให้จงหนักว่าในเรื่องยาก็ดี ในเรื่องน้ำมันที่บริโภคก็ดี มีความผิดพลาดเกิดขึ้นใหญ่หลวงและทำอันตรายต่อชีวิตมนุษย์ ต่อสุขภาพมนุษย์ทั่วโลก รวมทั้งคนไทยด้วยอย่างน่าอเนจอนาถยิ่ง ซึ่งควรต้องมีมาตรการในการป้องกันแก้ไขต่อไปในอนาคต รวมทั้งการบรรเทาเยียวยาผลร้ายที่สั่งสมมาให้ทันท่วงทีด้วย

ก็แลเมื่อความจริงที่ปรากฏเป็นเช่นนี้แล้ว ก็ย่อมส่งผลในอนาคตที่กระทบต่อการปลูกและการแปรรูปปาล์มอย่างไม่ต้องสงสัย ซึ่งการปลูกและผลิตปาล์มในประเทศไทยก็มีอยู่ในหลายพื้นที่ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขหรือเยียวยาประการใดจึงจะเป็นประโยชน์แก่เกษตรกรเหล่านั้น รวมทั้งการเลือกสรรอาชีพใหม่ที่จะทำให้อยู่ดีมีสุขสืบไป

ในขณะเดียวกัน น้ำมันหมูและน้ำมันมะพร้าวก็จะเป็นที่ต้องการของชาวโลกและคนไทยมากขึ้น ซึ่งน้ำมันหมูนั้นก็คงมีใช้ตามปกติ ตามปริมาณของการบริโภคเนื้อหมูที่สอดคล้องไปทางเดียวกัน
ส่วนน้ำมันมะพร้าวนั้นได้รับผลกระทบมาจากความผิดพลาดในอดีต ซึ่งทำให้ราคามะพร้าวตกต่ำ จึงทำให้มีผู้ปลูกและพื้นที่การปลูกลดน้อยลง เพราะการปลูกมะพร้าวในอดีตเท่ากับเป็นการปลูกพืชมีพิษที่เป็นภัยต่อสุขภาพ ยกเว้นก็แต่มะพร้าวบางชนิดคือมะพร้าวน้ำหอม หรือมะพร้าวกะทิที่ใช้ดื่มหรือบริโภคเป็นของหวานบางชนิด
 

ตื่นตระหนกไปทั่วโลก!! เข้าใจผิดกันมานาน เรื่องของน้ำมันพืช- น้ำมันหมู กับโรคฮิตในไทย ...กระทบแน่ มะพร้าวจะมีราคา...ปัญหาจะเกิดกับปาล์ม!


เมื่อกลางเดือนที่ผ่านมาพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้แนะนำว่าเมื่อยางราคาตกก็ควรหันไปปลูกมะพร้าวและแนะนำให้ทุกบ้านปลูกมะพร้าว และเป็นเหตุให้ผู้ที่มีความคิดเห็นเป็นปรปักษ์พากันเยาะเย้ยถากถางว่าเป็นไปในทางสิ้นคิด  ใครเล่าจักรู้ว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็อาจล่วงรู้ผลวิจัยและผลรายงานประสบการณ์ดังกล่าวก่อนหน้านี้แล้ว จึงรณรงค์ให้เริ่มการปลูกมะพร้าวครั้งใหม่ขึ้นทั่วประเทศ อย่างน้อยก็เพื่อการบริโภคในครัวเรือน กระทั่งอาจทำเป็นเกษตรอุตสาหกรรมที่ครบวงจรให้เพียงพอต่อการใช้สอยในประเทศ และให้เพียงพอที่จะส่งออกไปทั่วโลกในอนาคตด้วย

เห็นหรือยังว่าพระบรมราโชบายที่พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงกำหนดยุทธศาสตร์ชาติทางหนึ่งที่ให้สร้างชาติเป็นมหาอำนาจทางเกษตรอุตสาหกรรมนั้นยังคงถูกต้องและจักอำนวยประโยชน์อย่างยิ่งใหญ่แก่ประเทศชาติและราษฎรต่อไปในอนาคตกาลอันโพ้นด้วย.

 

ที่มา : FB : เพจPaisal [email protected]