สะใจมั้ย.... มหาเศรษฐีน้ำเมาไทย ยึดเบียร์เวียดนามสำเร็จ

ติดตามอ่านได้ที่ เพจRichman can do

ติดตามอ่านได้ที่ เพจRichman can do

สะใจมั้ย.... มหาเศรษฐีน้ำเมาไทย ยึดเบียร์เวียดนามสำเร็จ

นนี้18 ธ.ค. 2560 เวลาราว 17:27 (ในไทย) สำนักข่าวรอบเตอร์ระบุว่า ตลาดหลักทรัพย์โฮจิมินท์ ซิตี้ของเวียดนามแถลงว่า บริษัทเวียดนาม เบฟเวอเรจ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของไทย เบฟเวอเรจ ชนะการประมูลซื้อหุ้น 54% ในบริษัทไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ คอร์ป (ซาบีโก) ซึ่งเป็นบริษัทผลิตเบียร์รายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม ในวงเงิน 4.84 พันล้านดอลลาร์การขายหุ้นดังกล่าวของรัฐบาลเวียดนามในซาบีโก ถือเป็นการแปรรูปเป็นเอกชนครั้งใหญ่ที่สุดของเวียดนาม
ทั้งนี้ เวียดนาม เบฟเวอเรจ นับเป็นเป็นบริษัทเพียงรายเดียวที่เข้าประมูลซื้อหุ้นซาบีโก ในขณะที่บริษัทผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลกรายอื่นๆ เช่น Anheuser-Busch InBev และ คิริน โฮลดิ้งส์ ต่างไม่ได้เข้าร่วมการประมูล
 

สะใจมั้ย.... มหาเศรษฐีน้ำเมาไทย ยึดเบียร์เวียดนามสำเร็จ

ก่อนหน้านี้กระทรวงพาณิชย์เวียดนามระบุในแถลงการณ์ว่า บริษัท เวียดนามเบฟเวอเรจ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของไทยเบฟเวอเรจ ต้องการที่จะซื้อหุ้นจำนวนราว 327 ล้านหุ้น หรือ 51 เปอร์เซ็นต์ จาก 54 เปอร์เซ็นต์ ใน ซาเบโก ที่รัฐบาลเวียดนามเตรียมขาย โดยตั้งราคาไว้ที่หุ้นละ 14.06 ดอลลาร์ หรือ ราว 450 บาท คิดเป็นมูลค่ารวมทั้งหมดราว 160,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันก่อนหน้านี้ สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า คาร์ลสเบิร์ก บริษัทผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่จากเดนมาร์ก ใกล้บรรลุข้อตกลงคำเสนอซื้อหุ้นเพิ่มใน ฮาเบโก บริษัทผู้ผลิตเบียร์รายใหญ่อีกแห่งของรัฐบาลเวียดนาม ฮาเบโก สำเร็จเช่นกัน โดยปัจจุบัน คาร์ลสเบิร์ก ถือหุ้นใน ฮาเบโก อยู่แล้ว 17.3 เปอร์เซ็นต์
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เวียดนามเป็นตลาดค้าขายเบียร์ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการบริโภคเบียร์เกือบ 4 พันล้านลิตรการเติบโตที่รวดเร็วนี้ดึงดูดให้นักลงทุนต่างชาติต่างให้ความสนใจ ในขณะที่รัฐบาลเวียดนามก็พยายามแปรรูปรัฐวิสาหกิจโดยการเตรียมขายหุ้นส่วนใหญ่ของทั้งบริษัท ซาเบโก และ ฮาเบโก
 

สะใจมั้ย.... มหาเศรษฐีน้ำเมาไทย ยึดเบียร์เวียดนามสำเร็จ

สำหรับการซื้อหุ้น บริษัทไซ่ง่อน เบียร์ แอลกอฮอล์ เบฟเวอเรจ คอร์ป (ซาบีโก) มากกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งคิดเป็นมูลค่ากว่า 6.4 หมื่นล้านบาท จาก บริษัท เบียร์และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไซง่อน (Saigon Beer Alcohol Beverage Corp.) หรือที่รู้จักกันสั้น ๆ ว่า ซาเบโก หมดเขตลงที่ 12 ธ.ค. โดยผู้ลงทุนรายอื่นสามารถยื่นซื้อหุ้นในจำนวนน้อยกว่า 25 เปอร์เซ็นต์ได้ในวันเสนอซื้อวันที่ 18 ธ.ค. นี้
โดยก่อนหน้านี้ มีบริษัทอื่น ๆ อีกหลายบริษัทที่แสดงความสนใจที่จะลงทุนซื้อ อาทิ แอนฮอยเซอร์-บุช ของเบลเยี่ยม และคิริน และอาซาฮี จากญี่ปุ่น
เว็บไซต์ข่าวฟ็อกซ์ บิสสิเนส อ้างรายงานข่าวของสำนักข่าวดาวโจนส์ ว่า รัฐบาลเวียดนาม ซึ่งเป็นเจ้าของหุ้นราว 90 เปอร์เซ็นต์ ของ "ซาเบโก"พยายามที่จะขายหุ้นส่วนใหญ่ของตัวเองมากนานกว่า 3 ปีแล้ว และเมื่อเดือนที่แล้ว รัฐบาลได้เริ่มกระบวนการการเสนอขายหุ้นทั้งหมด 53.6 เปอร์เซ็นต์ คิดเป็นมูลค่าหุ้นละ 14.06 ดอลลาร์ หรือ ราว 450 บาท
เว็บไซต์ข่าวนี้ยังระบุอีกด้วยว่า ซาเบโก มีมูลค่าหุ้นทั้งหมดเกือบ 3 แสนล้านบาท โดยผลิตเบียร์ยี่ห้ออย่าง "333" และ "Saigon Beer" โดยคิดเป็นส่วนแบ่ง 40 เปอร์เซ็นต์ของตลาดเบียร์ในประเทศ
โดยในเวียดนามเอง บริษัทไทยเบฟเวอเรจ ถือหุ้นเกือบ 20 เปอร์เซ็นต์ในบริษัท วีนามิลค์ หรือ เวียดนาม แดรี่ โปรดักส์ เจ.เอส.ซี (Vietnam Dairy Products JSC) ซึ่งเป็นผู้ผลิตนมรายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

สะใจมั้ย.... มหาเศรษฐีน้ำเมาไทย ยึดเบียร์เวียดนามสำเร็จ

เว็บไซต์นิตยสารฟอร์บส ระบุว่า ปัจจุบัน เจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นมหาเศรษฐีอันดับ 2 ของประเทศไทย มีมูลค่าสินทรัพย์ 1.91 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 6 แสนล้านบาท
เจริญก้าวจากการเป็นลูกชายพ่อค้าข้างถนนสู่การเป็นเจ้าของบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตเบียร์และสุรารายใหญ่ที่สุดในไทย เขานำบริษัทไทยเบฟเวอเรจนำเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์เมื่อปี 2006 นอกจากนี้ เจริญยังเป็นเจ้าของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ในสิงคโปร์ คือ เอฟแอนด์เอ็น และบริษัทอสังหาริมทรัพย์อย่าง ทีซีซี แลนด์