"ต่อให้ตายกูก็พูดไม่ได้" หากพูดอาจมีคนเดือดร้อน?! สะพัด"ป.ป.ช." กัน"บุญทรง"เป็นพยาน"จีทูเจี๊ยะล็อต 2" หวังให้เปิดปากฟัน "เจ๊ใหญ่จอมบงการ" 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th


วดีเด็ดของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ยุค "หญิงปู" ที่ว่า "ต่อให้ตายกูก็พูดไม่ได้" อาจทำให้ใครหลายคนคิดไปไกลว่า นั่นเป็นเพราะ "หากเขาพูดอะไรออกมาอาจมีคนเดือดร้อน" โดยเฉพาะคนที่เป็น "นายและอยู่สูงกว่าเขา" ซึ่งคนที่เกาะติดการเมืองมานานอาจนึกภาพออกว่าหมายถึงใคร และทำให้เขาต้องเก็บงำความลับคดี "การระบายข่้าว หรือจีทูเจี๊ยะ" ไว้กับตัวในคุก ทว่าเมื่อเข้าศักราชใหม่ มีข่าวลือสะพัดว่า "ป.ป.ช." ซึ่งเป็นผู้ชี้มูลคดีนี้ อาจกัน "นายบุญทรง" ไว้เป็นพยาน "คดีจีทูเจี๊ยะล็อต 2" และนั่นหมายถึงหากเขายอมเปิดปาก "เจ๊ใหญ่" อาจซวยได้ 

 

หลังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ได้ออกมาตรวจสอบกรณีการทุจริตขายข้าวในรูปแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ล็อตที่ 2 จำนวน 8 สัญญา ปริมาณ 14 ล้านตัน ที่กระทรวงพาณิชย์ได้ขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลให้กับรัฐวิสาหกิจของจีนเมื่อช่วงปลายปี 2560 ที่ผ่านมา 

 

และปรากฎว่า เรื่องนี้คล้าย ๆ กับ "คดีจีทูจีล็อตแรก" ที่ศาลฯ พิพากษาลงโทษผู้กระทำผิดไปแล้ว เพราะพบว่าไม่ใช่บริษัทที่ได้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลกลางของจีนในการทำสัญญาซื้อขายกับไทย และนั่นถือเป็นการทุจริตตามที่ศาลฯ ได้ลงโทษ ซึ่ง ป.ป.ช. คาดว่าจะชี้มูลความผิดบุคคลที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในคดีจีทูจีล็อต 2 ได้ภายในต้นปี 2561 นี้
       
       
โดยการตรวจสอบการขายข้าวจีทูจีล็อต 2 พบว่า ผู้ที่เกี่ยวข้องน่าจะเป็นตัวละครเดิม ๆ เพราะเป็นกลุ่มบุคคลที่ถูกศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองได้ตัดสินจำคุกไปแล้วดังกล่าว แต่ก็จะมีบุคคลอื่นเพิ่มเติมอีก เช่น อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศที่รับตำแหน่งต่อจากนายมนัส สร้อยพลอย
       
       
นอกจากนี้ อาจมีอดีตข้าราชการกระทรวงพาณิชย์รายใหม่อีกจำนวนหนึ่งที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบความเป็นรัฐวิสาหกิจของจีน เช่น อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์ ข้าราชการกรมการค้าภายใน เป็นต้น โดยคนกลุ่มนี้อาจมีความผิดตามมาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพราะไม่ได้ตรวจสอบความเป็นรัฐวิสาหกิจของจีนอย่างแท้จริง

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลระบุว่า การทุจริตจีทูจีล็อตที่ 2 นั้น มีการทำสัญญาซื้อขายรวม 8 สัญญา ปริมาณข้าวทั้งหมด 14 ล้านตัน ในช่วงปี 2556 และคดีดังกล่าวมีผู้ถูกกว่าหารวม 35 ราย คือ นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ นางปราณี ศิริพันธ์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ รวมทั้งกลุ่มบุคคล และบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตคดีระบายข้าวจีทูจีล็อตแรก (ปี 2554-2555) รวมทั้งบริษัทรัฐวิสาหกิจจากจีนอีก 4 แห่ง และมีผู้ถูกกล่าวหาเป็นคนจีนด้วยเบื้องต้น 8 ราย


ขณะที่ แหล่งข่าวจาก ป.ป.ช. ได้ให้ข้อมูลสื่อสำนักหนึ่ง (สำนักข่าวอิศรา) ว่า ในคดีนี้ ป.ป.ช.มีแนวทางที่จะกัน "นายบุญทรง" ไว้เป็นพยาน เพื่อให้สามารถดำเนินการเอาผิดกับผู้ที่อยู่เบื้อหลังในครั้งนี้ให้ได้ 


ทั้งนี้ แหล่งข่าวยังระบุด้วยว่า การกัน "นายบุญทรง" ไว้เป็นพยานในคดีนี้นั้น เป็นคนละส่วนกับคดีทุจริตการขายข้าวแบบจีทูจีล็อตแรก ที่ศาลฎีกาแผนกคดีแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ได้ตัดสินจำคุกนายบุญทรง และพวกรวม 28 รายไปแล้ว
แต่หากกรณีนี้ นายบุญทรงยอมให้ความร่วมมือกับทาง ป.ป.ช. จนสามารถเอาผิดกับผู้อยู่เบื้องหลังได้ก็จะไม่ถูกส่งฟ้องในกรณีนี้เพิ่มเติม

 

อย่างไรก็ดี จากนี้คงต้องดูว่า...ความตั้งใจของ ป.ป.ช. ที่จะง้างปาก "นายบุญทรง" ให้ซัดทอดถึงตัวใหญ่กว่าที่อยู่หลังฉาก โดยแลกด้วยกรไม่ถูกส่งฟ้องเพิ่มในกรณีนี้จะสำเร็จหรือไม่...เพราะเขาเองก็เคยลั่นวาจาที่สั่นสะเทือนวงการการเมืองด้วยวลีเด็ดที่ว่า..."ต่อให้ตายกูก็พูดไม่ได้" มาแล้ว

 

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก : สำนักข่าวอิศรา