ติดตามเรื่องราวดีๆอีกมากมาย ได้ที่ http://www.tnews.co.th

ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพ

เมื่อระหว่างปี ๒๕๐๓-๒๕๐๔ นายพิทักษ์ พยุงธรรม หลานชายท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี เลขาธิการสภาการศึกษามหามกุฎราชวิทยาลัย ซึ่งขณะนั้นยังมีสมณศักดิ์เป็นพระเทพกวี นายพิทักษ์ พยุงธรรมเวลานั้นกำลังเรียนหนังสืออยู่ชั้น ม.ศ. ๓ ของโรงเรียนมัธยมวัดเทพศิรินทร์ โดยปรกติเป็นเด็กแก่นเอาการอยู่

ค่ำวันหนึ่งในระหว่างเวลาดังกล่าว ที่หน้ากุฏิท่านเจ้าคุณธรรมธัชมุนี ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิท่านธมฺมวิตกโกไกลโขพอดู ไม่มีทางที่จะได้ยินการสนทนาใด ๆ ถึงกันอย่างปรกติธรรมดาได้เลย วันนั้นนายพิทักษ์ ได้ตั้งวงนินทาท่านธมฺมวิตกโกกับหมู่บรรดาเพื่อนฝูงศิษย์วัดด้วยกัน ซึ่งเป็นคำกล่าวหานินทาที่ออกจะฉกรรจ์อยู่

“กูว่าพระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ…..” เขาเอ่ยขึ้น

พระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ..เมื่อเด็กวัดแอบนินทา "ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์"เจอหน้าเรียกคุยทันที ถึงกับสะดุ้งด้วยอิทธิฤทธิ์ของหูทิพย์..

แล้วเขาก็เล่าต่อไปว่า ท่านธมฺมวิตกโกได้ถ่ายปัสสาวะใส่ตุ่มไว้ แล้วท่านก็เอามาอาบเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค หรือแก้ “เคล็ด” ทางไสยศาสตร์บางอย่าง ซึ่งตัวเขาไม่อาจจะทราบได้แน่

สภาพการณ์ความเป็นไปในวัดเทพศิรินทร์ขณะนั้นก็ชวนให้น่าเชื่อตามคำกล่าวหาของนายพิทักษ์อยู่ เพราะขณะนั้นน้ำประปาในวัดขัดข้องจึงเกิดขาดแคลน ไม่มีน้ำจะใช้อาบกินอย่างปรกติธรรมดาได้ แต่ท่านธมฺมวิตกโกกลับมีน้ำสรงน้ำอาบได้เช่นปรกติ

บรรดาเพื่อนฝูงนายพิทักษ์ จึงเชื่อตามคำบอกเล่ากล่าวหาโดยสนิทใจว่า ท่านธมฺมวิตกโกจะต้องมีจริตไม่ปรกติเป็นแน่ ถึงกับเอาปัสสาวะของท่านเองมาสรงต่างน้ำ

พอวันรุ่งขึ้นเข้าใจว่าตอนสาย นายพิทักษ์มีเหตุจะต้องเดินผ่านไปทางกุฏิท่านเพื่อไปโรงเรียนตามปรกติ ทันทีที่ท่านเห็นหน้านายพิทักษ์ ท่านก็กวักมือเรียกให้เข้าไปหาท่าน ท่านพาเข้าไปในกุฏิให้นั่งลงแล้วท่านก็กล่าวขึ้นว่า

“ที่เธอนินทาฉันเมื่อคืนนี้น่ะ ไม่จริงหรอกนะ เธอเข้าใจฉันผิด ฉันไม่ได้ทำอย่างนั้น…”

ทำเอานายพิทักษ์ พยุงธรรมถึงกับสะดุ้งและงุนงงอย่างที่สุด จนด้วยเกล้าจริง ๆ ไม่รู้ว่าท่านทราบเรื่องได้อย่างไร

พระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ..เมื่อเด็กวัดแอบนินทา "ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์"เจอหน้าเรียกคุยทันที ถึงกับสะดุ้งด้วยอิทธิฤทธิ์ของหูทิพย์..

จากนั้นท่านก็สั่งสอนหลักธรรมที่มีคติเตือนใจหลายประการ เสร็จแล้วจึงให้เขากลับออกมา

นับแต่วันนั้นมานายพิทักษ์ พยุงธรรม ก็บังเกิดความกลัวเกรงในท่านธมฺมวิตกโกเป็นที่สุด เพราะตั้งแต่เกิดมาก็เพิ่งเจออภินิหารพระดี แสดงทีเด็ด ให้เขาต้องเข็ดขยาดหลาบจำเป็นครั้งแรกนี่แหละ ทำให้เขาไม่กล้าจาบจ้วงล่วงเกินใด ๆ ต่อท่านธมฺมวิตกโกตลอดไปจนชั่วชีวิตเลยทีเดียว

“พระองค์นี้เอ็งอย่าไปทำเล่น ๆ กับท่านนะ…..”

เขาเตือนเพื่อนฝูงเช่นนี้อยู่เสมอ และทุกครั้งที่เล่าเรื่องนี้ นายพิทักษ์ จะมีอาการขนลุกขนพองอย่างเห็นได้ชัด

เขาเชื่อตลอดมาว่าท่านธมฺมวิตกโกนี้ ต้องมีหูทิพย์หรือตาทิพย์อย่างเด็ดขาด จึงสามารถล่วงรู้คำนินทากล่าวหาของเขาในครั้งนั้นได้

จากพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นดังกล่าว และประสบการณ์ต่าง ๆ จากที่อื่นอีกหลายครั้ง หลายบุคคล จึงทำให้เชื่อแน่ว่าท่านธมฺมวิตกโกนี้จะต้องมีญาณวิเศษ มีทิพยจักขุญานหรือทิพยโสต สามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ต่าง ๆ ได้หมดสิ้น พระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ..เมื่อเด็กวัดแอบนินทา "ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์"เจอหน้าเรียกคุยทันที ถึงกับสะดุ้งด้วยอิทธิฤทธิ์ของหูทิพย์..

พระองค์นี้บ้าแน่ ๆ ว่ะ..เมื่อเด็กวัดแอบนินทา "ท่านเจ้าคุณนรฯ วัดเทพศิรินทร์"เจอหน้าเรียกคุยทันที ถึงกับสะดุ้งด้วยอิทธิฤทธิ์ของหูทิพย์..

ขอขอบพระคุณท่านเจ้าของภาพ และที่มาเนื้อหาข้อมูลมา ณ ที่นี้

ตำนานเล่าขานพระผู้ทรงฌานอภิญญา ครูบาอาจารย์ผู้เรืองวิชาอาคม

เพื่อเผยแผ่บารมีเป็นสังฆบูชา และเทิดทูนเกียรติคุณครูบาอาจารย์