- 12 ม.ค. 2561
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำจีนได้ไปตรวจเยี่ยมกองทัพพร้อมกล่าวให้ทหารพร้อมรับมือสงครามใหญ่ เมื่อกล่าวจบกองทัพจีนก็ซ้อมรบทั่วประเทศทันที
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาผู้นำจีนได้ไปตรวจเยี่ยมกองทัพพร้อมกล่าวให้ทหารพร้อมรับมือสงครามใหญ่ เมื่อกล่าวจบกองทัพจีนก็ซ้อมรบทั่วประเทศทันที
ซึ่งเรื่องราวดังกล่าวนั้น เชื่อได้ว่าเป็นสถานการณ์ไม่ปกตินัก และมีเหตุผลอะไร ที่ทางด้านประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จำเป็นที่จะต้องรีบสั่งการให้กองทัพเตรียมความพร้อมเพื่อทำสงคราม ซึ่งเรื่องดังกล่าวทางด้านคุณสัมฤทธิ์ ทองอินทร์ ผู้เขียนหนังสือสงครามโลก ครั้งที่ 3 ได้ ให้ข้อพิจารณาไว้ดังนี้ ....
เบื้องหน้าเบื้องหลังที่ผู้นำจีนต้องกล่าวเช่นนี้เพราะ
1.จีนถูกบีบทุกด้านจากสหรัฐฯ ด้านทหารสหรัฐปิดล้อมหมดทั้งทางทะเลและทางบกอเมริกาเสริมกองทัพที่คาบสมุทรเกาหลีล่าสุดประกาศเพิ่มกำลังทหารทีอัฟกานิสถานจำนวนมากมหาสมุทรอินเดียก็เพิ่มกองเรือรบให้ญี่ปุ่นกระชับความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับอินเดียยิ่งขึ้นอินเดียก็กังวลจีน
2.สหรัฐฯ กำลังทำทุกวิถีทางไม่ให้เสียเปรียบจีนทางด้านเศรษฐกิจกับจีนก่อนหน้านี้ได้ออกกฎหมายคว่ำบาตรรัสเซียและพันธมิตรของจีนไปแล้วแต่จีนไม่สนเดินหน้าขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทั่วโลกเร่งเชื่อมต่อการเดินทางทางบกกับชาติตะวันตก เพิ่มการลงทุนเพื่อคุมอาเซียนและแอฟริกาให้ได้ ขณะนี้สหรัฐฯ หมดหนทางสู้กับจีนทางด้านเศรษฐกิจเหลือหนึ่งเดียวคือทางทหาร
3.การเพิ่มงบประมาณทางทหารในรอบ 500 วันที่ผ่านมาทั้งของจีนและสหรัฐฯ ต้องถือเพิ่มสูงขึ้นมากเท่ากับว่าข่มกันในทีโดยเฉพาะด้านการพัฒนาเครื่องบินรบและขีปนาวุธซึ่งถือเป็นอาวุธหลักของสงครามยุคปัจจุบันก้าวล้ำนำหน้าสูสีกัน (ไม่นับรวมของชาติพันธมิตร)
4.จีนพร้อมสนับสนุนรัสเซียทุกด้านโดยเฉพาะสงครามตัวแทนที่ตะวันออกกลางซึ่งขณะนี้ก็ส่งทหารร่วมซ้อมรบและสังเกตการณ์อยู่แล้วที่ชัดเจนก่อนหน้านี้คือช่วยฟิลิปปินส์ปราบกบฏที่มินดาเนา
5.จีนเร่งสร้างฐานยิงจรวดและเสริมกำลังทหารบริเวณหมู่เกาะที่พิพาทกับหลายประเทศบริเวณทะเลจีนใต้พร้อมประกาศห้ามสหรัฐฯ ยุ่งจน โดนัลด์ ทรัมป์ มึนมาหลายครั้งซึ่งข้อพิพาทจุดนี้จีนประกาศอย่างต่อเนื่องว่าไม่ยอมเด็ดขาด
บทสรุปถ้าจะตอบว่าทำไมผู้นำจีนถึงกล่าวให้กองทัพเตรียมพร้อมทำสงครามใหญ่ก็เพราะว่า
1.จีนไม่กลัวสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอีกต่อไป
2.จีนพร้อมร่วมรบเคียงบ่าเคียงไหล่กับปูติน ทุกที่ทุกเวลา
3.จีนรู้เต็มอกว่าสหรัฐฯ ไม่หยุดนโยบายปิดล้อมและเพิ่มแรงกดดันต่างๆต่อตนแน่นอนมีแต่เพิ่มความกดดันยิ่งขึ้นๆทั้งเดโมแครตและ รีพับริกัน
4.จีนทราบดีว่าสงครามตัวแทนที่กำลังรบพุ่งเวลานี้จะขยายตัวต่อไปรัสเซียถลำหมดตัวแล้วถึงจุดหนึ่งจีนก็ต้องกระโดดเข้าช่วยอย่างแน่นอนเช่นเดียวกับอิสราเอลอังกฤษและชาติตะวันตกร่วมหัวจมท้ายกับสหรัฐอเมริกามาตลอดอย่างต่อเนื่องยาวนานนั่นเอง
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปว่าสถานการณ์ ความขัดแย้งหลาย ๆ จุด ในปี 2561 นั้นจะบานปลาย และนำไปสู่สงครามใหญ่หรือไม่