นายกลุงตู่ !! จัดทัพตั้งคณะทำงาน 7463 ทีมทั่วประเทศ ลงพื้นที่แก้ปห.ยากจน เริ่มก.พ.นี้

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมครม.ได้เห็นชอบจัดตั้งคณะกรรมการอำนวยการขับเคลื่อน เพื่อมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศสู่ความยั่งยืน ซึ่งจะเป็นกลไกในการเดินหน้าแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน โดยโครงสร้างจะมี นายกรัฐมนตรีเป็นประธาน / รองนายกรัฐมนตรีทุกคนเป็นรองประธาน / และมีคณะกรรมการเป็นรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ / กระทรวงการคลัง / กระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ภายใต้ภารกิจใน 8 เรื่องสำคัญ อาทิ เน้นการดูแลผู้ลงทะเบียนรายได้น้อย / การพัฒนาที่อยู่อาศัย / การสร้างอาชีพ - สร้างรายได้ และ การนำปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาพัฒนาประเทศ

 

 

ทั้งนี้ เพื่อให้เห็นผลเป็นรูปธรรม จึงได้เห็นชอบงบกลางรายจ่ายเพิ่มเติมปี 2561 เพื่อดำเนินการ พร้อมจัดทีมขับเคลื่อนไทยยั่งยืน 7463 ทีม กระจายลงพื้นที่ครอบคลุมทุกตำบลทั่วประเทศ ซึ่งจะมุ่งเน้นใน 3 ด้าน คือ 1.การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก / 2. การพัฒนาเชิงพื้นที่ผ่านกระบวนการประชาคม รวมถึงสร้างแหล่งเงินทุนหมุนเวียน - วิสาหกิจชุมชนที่เชื่อมโยงกันเป็นเครือข่าย และ 3. การปฏิรูปโครงสร้างผลิตภาคเกษตรให้สอดคล้องกับตลาด 

ทั้งนี้ จะเริ่มประชุมหารือครั้งแรกในสัปดาห์หน้า เพื่อวางกำหนดกรอบ และทิศทางการทำงานของคณะกรรมการชุดนี้ ซึ่งตั้งเป้าจะเร่งดำเนินการทันทีตั้งแต่ต้นเดือนกุมภาพันธ์นี้

โดยเรื่องดังกล่าว สืบเนื่องมาจาก เมื่อเร็วนี้ นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ (สศช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านเศรษฐกิจไปทบทวนการกำหนดเส้นความยากจนให้มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในปัจจุบัน เพื่อนำข้อมูลที่ทบทวนใหม่มาช่วยกำหนดเป้าหมายในการลดความยากจน และปรับปรุงช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยต่างๆ ของรัฐบาลให้เหมาะสมและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

 

 

พร้อมมอบหมายให้ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ กำกับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงคมนาคม ขยายขอบเขตการดำเนินมาตรการที่จะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อและลดภาระค่าครองชีพของประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มที่มีรายได้น้อย เช่น การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ การสนับสนุนค่าครองชีพ และค่าใช้จ่ายในการเดินทาง โดยให้นำผลการดำเนินงานของโครงการสวัสดิการแห่งรัฐมาทบทวน เพื่อให้การดำเนินงานในระยะต่อไปเหมาะสมและรัดกุมมากยิ่งขึ้น