"อภิสิทธิ์" เดินหน้าร้อง ป.ป.ช. เอาผิด "สุกำพล"หลังศาลฎีกาถอนคำสั่งปลดทหาร

"อภิสิทธิ์" เดินหน้าร้อง ป.ป.ช. เอาผิด "สุกำพล"หลังศาลฎีกาถอนคำสั่งปลดทหาร

17 ม.ค. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงคำพิพากษาศาลฎีกา ในคดีที่ฟ้องพล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และแกนนำพรรคเพื่อไทย  ที่ออกคำสั่งปลดตนเองออกจากราชการทหารย้อนหลัง 23 ปีเศษ ว่า รู้สึกดีใจที่เรื่องนี้ยุติลงแล้ว และเป็นไปอย่างที่ได้ขอความเป็นธรรมมาตลอด เพราะเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง ใช้อำนาจโดยไม่ชอบ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ต่อจากนี้จะนำคำพิพากษาศาลฎีกามาพิจารณาเพื่อดำเนินการร้องคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ต่อ เนื่องจากก่อนหน้านี้ ป.ป.ช.เคยยกคำร้องไปโดยอ้างคำพิพากษาศาลชั้นต้น แต่เมื่อคดีถึงที่สุดแล้วก็เป็นเหตุที่จะทำให้ ป.ป.ช.หยิบยกขึ้นมาทบทวนใหม่ได้ แต่ต้องรอคำพิพากษาฉบับเต็มเพื่อความสมบูรณ์อีกครั้ง โดยเห็นว่าผู้ที่ใช้อำนาจโดยไม่ชอบต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง

"อยากฝากไปถึงผู้ใช้อำนาจว่า ต้องใช้ด้วยความเป็นธรรมและทำตามกรอบของกฎหมาย อย่าใช้ไปในทางไม่ชอบเพื่อประโยชน์ทางการเมือง หากทำได้ก็จะช่วยให้ระบบการเมืองและระบอบประชาธิปไตยดีขึ้น" นายอภิสิทธิ์ กล่าว

 

"อภิสิทธิ์" เดินหน้าร้อง ป.ป.ช. เอาผิด "สุกำพล"หลังศาลฎีกาถอนคำสั่งปลดทหาร

สำหรับคดีดังกล่าวว่าพล.อ.อ.สุกำพล จำเลย ออกคำสั่งปลด นายอภิสิทธิ์ โจทก์ ออกจากราชการในขณะที่มิได้อยู่ในราชการ แต่เป็นนายทหารนอกประจำการ ซึ่งโจทก์เองไม่เคยถูกตั้งกรรมการสอบทางวินัย หรือถูกสั่งพักราชการหรือเป็นกรณีที่หนีราชการที่จำเลยจะใช้อำนาจสั่งปลด ให้มีผลย้อนหลังถึง 23 ปี เมื่อได้ความว่า คำสั่งการปลดในขณะที่มิได้รับราชการแล้ว จำเลยจึงไม่มีอำนาจสั่งปลดโจทก์ ออกจากราชการตามพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)วินัยทหารพุทธศักราช 2476 มาตรา 7 ทั้งไม่อาจแปลความให้เป็นผลร้ายแก่โจทก์ได้

การที่จำเลยออกคำสั่งปลดโจทก์ออกจากราชการโดยให้มีผลย้อนหลังไปถึงวันที่ 2 มิถุนายน 2531 ซึ่งโจทก์พ้นจากราชการมาก่อนแล้วถึง 23 ปีเศษ ก็ส่อไปในทางไม่สุจริต ถือเป็นการละเมิดสิทธิของโจทก์ โจทก์ย่อมมีสิทธิ์ขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งของจำเลยได้

 

"อภิสิทธิ์" เดินหน้าร้อง ป.ป.ช. เอาผิด "สุกำพล"หลังศาลฎีกาถอนคำสั่งปลดทหาร

 

 

 

ขอบคุณ "แนวหน้า"