- 17 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อวันที่ 15 มกราคมที่ผ่านมา เว็บไซต์ข่าวเดอะซันรายงาน หญิงบาดเจ็บหนัก ผิวหนังใบหน้าและคอกลายเป็นแผลเผาไหม้ระดับสาม อ้างกับตำรวจว่าถูกฉีดน้ำกรดใส่ ต่อมาเปลี่ยนใจบอกว่าเธอเป็นคนทำตัวเอง
นาง ลิซซี่ ดัน อายุ 52 ปี จากเกาะสแตเทน นครนิวยอร์ก ให้การเท็จกับตำรวจว่าตนถูกหญิงผิวดำอายุประมาณ 40 ปีรายหนึ่งฉีดน้ำกรดใส่หน้าขณะกำลังเดินไปที่ป้ายรถเมล์ เธอไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้มาก่อน อ้างว่าคนร้ายมาขอเงิน แต่เธอไม่ให้ ก่อนจะคว้าไหล่เธอให้หยุด แล้วฉีดน้ำกรดใส่หน้า ทำให้ตนรีบวิ่งไปที่ร้านอาหารใกล้ๆบอกให้เจ้าของร้านโทรแจ้งตำรวจ ด้านนาย แอนดรูว์ เคนวู้ด เจ้าของร้านกล่าวว่า "ตอนแรกผมคิดว่าเป็นการแกล้งตลกซะอีก เห็นเธอเกือบจะล้มฟุบหมดสติไปแล้ว มันน่ากลัวมาก หน้าเธอเหมือนกับกำลังจะละลาย"
จากนั้นนางลิซซี่ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลรักษาแผลเผาไหม้ระดับสาม หลังจากให้การเท็จอย่างที่กล่าวไว้ ก็เกิดเปลี่ยนใจสารภาพความจริงกับตำรวจว่า เธอสร้างเรื่องขึ้นมาเอง บอกตัวเธอเองแหละ ที่เป็นคนทำร้ายตัวเอง ทางตำรวจนิวยอร์กได้ทวีตประกาศว่า สื่งที่เกิดขึ้นเป็นการทำร้ายร่างกายตัวเองของผู้บาดเจ็บ ไม่มีผู้ร้าย และไม่มีการฉีดน้ำกรดทำร้ายร่างกายเกิดขึ้นแต่อย่างใด ทางตำรวจเชื่อว่าผู้บาดเจ็บเอาขวดบรรจุน้ำกรดมาฉีดหน้าตัวเอง แต่ตอนนี้ยังไม่มีคำอธิบายว่าเธอทำแบบนี้ไปทำไม และยังไม่ตัดสินใจว่าจะดำเนินคดีเธอข้อหาให้การเท็จหรือไม่
คนทั้งคนยอมทำกับหน้าตัวเองขนาดนี้ได้ไง? จิตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าผู้บาดเจ็บหวังพยายามจะฆ่าตัวตาย และบางครั้งก็มีไบโพล่าร์เกิดเปลี่ยนใจในสิ่งที่ตัวเองทำลงไป
Cr.thesun.co.uk Inside Edition