- 18 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
เมื่อเวลา 06.30 น.วันนี้ 18 ม.ค.61 ที่อนุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ตรงข้ามกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.)ค่ายพรหมโยธี ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี นายสุริยะ อมรโรจวรวุฒิ ผวจ.ปราจีนบุรี เป็นประธานในพิธีวางพานพุ่มถวายราชสักการะ หน้าศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เนื่องในวันยุทธหัตถีของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชพร้อมด้วยพสกนิกรทุกหมู่เหล่า เพื่อ เป็นการรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณและเผยแพร่พระเกียรติยศให้ปรากฏ จากนั้นนำกล่าวสดุดีและจัดพิธีบวงสรวงเพื่อเป็นสิริมงคล
นายสุริยะ กล่าวว่า “เนื่องในวันยุทธหัตถีสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ที่พระบาทสมเด็จพระนเรศวรกระทำยุทธหัตถี มีชันชนะต่อข้าศึก พสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และ ที่ จ.ปราจีนบุรี มีพระบรมรูปสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ประดิษฐานอยู่ภายในศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ซึ่งศาลตั้งอยู่บริเวณสี่แยกนเรศวรถนนสายสุวรรณศร (ปราจีนบุรี – ประจันตคาม) หรือ สาย33 ตรงข้ามหน่วยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (พล ร.2 รอ.) หน่วยทหารราบยานเกราะแห่งแรกของกองทัพบกไทย ต.บ้านพระ อ.เมืองปราจีนบุรี จ.ปราจีนบุรี ความสำคัญ-พระราชณียกิจ เมื่อครั้งสมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี แผ่นดินสมเด็จพระนเรศวรมหาราช พระองค์ทรงกรีฑาทัพไปปราบพระยาละแวก “เจ้าเขมร” ที่เป็นกบฏ ได้ทรงเสด็จพระราชดำเนินยกทัพผ่านจังหวัดปราจีนบุรี และทรงยกทัพประทับแรมที่บริเวณเนินหอม ตำบลบ้านพระแขวงเมืองปราจีนบุรี คือตรงจุดที่สร้างศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชไว้นี้
สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ยกทัพออกจากพระนคร ในวันศุกร์ ขึ้น 10 ค่ำ พ.ศ. 2139 เพื่อไปปราบเขมร เส้นทางเดินทัพผ่านจังหวัดปราจีนบุรี ทรงตั้งค่าย หรือ ปลงทัพที่ตำบลค่ายทำนบ ปัจจุบันอยู่ป่าลึกห่างจากที่ว่าการอำเภอวัฒนานคร จ.สระแก้ว ประมาณ 40 กม. เขตแดนอรัญประเทศ ค่ายทำนบนี้จัดว่าเป็นพระบรมราชาอนุสาวรีย์อันเป็นเครื่องระลึกถึงพระองค์ตอนเสด็จออกตีเขมร พระองค์ทรงตีแตกทีละเมือง จนถึงเมืองละแวก พระองค์มีรับสั่งทางสาส์นให้ออกมาสวามิภักดิ์ เมื่อไม่ออกมาพระองค์ทรงจับตัวได้ เมื่อพระยาละแวกทูลขอชีวิต พระองค์ตรัสว่า “เราได้ออกวางวาจาไว้แล้วว่า มีชัยแก่ท่านเราจะทำพิธีปฐมกรรมเอาโลหิตของท่านมาล้างบาทาเสียให้จงได้ ท่านอย่าอาลัยแก่ชีวิตเลย จงตั้งหน้าหาความชอบในปรโลกนั้นเถิด บุตร – ภริยา ญาติประยูรวงศ์ของท่าน เราจะเลี้ยงให้มีความสุข”เมื่อกระทำพิธีปฐมกรรมพระยาละแวกแล้ว เสด็จกรีฑาทัพกลับอยุธยา และประทับพักพลบริเวณทางเนินหอม ค่ายหลวงตั้งที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในปัจจุบัน (สี่แยกนเรศวรถนนสายสุวรรณศร) ตอนเสด็จกลับทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้พระเอกาทศรถ รออยู่คุมเชิงเขมรก่อน พระองค์เสด็จกรีฑาทัพผ่านแขวงเมืองปราจีนบุรีแต่พระองค์เดียว
เพื่อเป็นการรำลึกถึงพระราชกรณียกิจพระองค์ท่าน ชาวปราจีนบุรีได้ตั้งศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในบริเวณที่ทรงเคยประทับพักพล คือ ศาลสมเด็จพระนเรศวรมหาราชในปัจจุบัน (สี่แยกนเรศวรถนนสายสุวรรณศร) ภายในศาลได้ประดิษฐานพระบรมรูปหล่อด้วยทองเหลืองรมดำ ขนาดเท่าพระองค์จริง ผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ได้กราบบังคมทูล พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 มาทรงประกอบพิธีเปิดศาลเป็นทางการ เมื่อวันที่ 25 ม.ค. 2514 เป็นอนุสรณ์สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ยิ่ง เป็นอนุสรณ์สถานเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อให้อนุชนชาวไทยได้รำลึกถึงพระวีรกรรมสำคัญในพระราชประวัติของพระองค์”นายสุริยะ กล่าวและกล่าวต่อไปว่า “ในช่วงเย็นหน่วยทหารในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรีประกอบด้วยกองพลทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์(พล ร.2 รอ.)หรือ “บูรพาพยัคฆ์” ,มณฑลทหารบกที่ 12 (มทบ.12)จะมีพิธีสวนสนามสาบานธง ต่อธงชัยเฉลิมพล จำนวน 12 กองพันอีกด้วย”นายสุริยะ กล่าวในที่สุด
มานิตย์ สนับบุญ / ณัฐนันท์ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์จ. ปราจีนบุรี