"โกงเด็กตาดำๆถือว่าหนัก...ดินจริงๆ" ย้อนรอย"โกงสนามฟุตซอล-ยุคหญิงปู" จากฝ่ายที่อ้างเป็นพวก"ปชต." สุดอนาถงาบทุกเม็ด-ทุกขั้นตอนไม่สนลูกหลาน 

ติดตามข่าวสารที่ www.tnews.co.th

"ศิษย์หัวซาน ทีนิวส์"

 

วัน 2 วันก่อนมีข่าวใหญ่ทางการเมืองอยู่ชิ้น นั่นคือ สำนักงานคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหานายวิรัช รัตนเศรษฐ อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับพวก ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการ เอกชน และนักการเมือง รวมเกือบ 30 คน คดีร่วมกันทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอลของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 2 นครราชสีมา หลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่นานกว่า 3 ปี ก่อนมีมติฟันนักการเมืองเพื่อไทย...พวกที่อ้างว่าตนเองเป็นตัวแทนชาวบ้าน...เป็นฝ่ายประชาธิปไตยดังกล่าว...โดย ป.ป.ช. ระบุชัดว่า งาบทุกเม็ด-ทุกขั้นตอนไม่สนลูกหลานตาดำ ๆ สักนิด

 

 

ว่าไปแล้วโครงการนี้มีที่มาที่ไปไม่ต่างจากหลายโครงการที่ "กลุ่มการเมือง และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่" สุมหัวกันเพื่อการคอร์รัปชั่นโดยตรง เพราะจากข้อมูลของ ป.ป.ช. ระบุว่า มันเริ่มต้นจาก ส.ส.สายอีสานในรัฐบาล "หญิงปู" (ซึ่งอ้างเสมอว่า พวกตนเป็นฝ่ายประชาธิปไตย และหลังถูก คสช.ทำรัฐประหารยิ่งงัด วาทกรรมนี้มาใช้หนัก) ใช้กำลังภายในที่พวกตนถนัด ซิกแซกแปรญัตติผ่านสำนักงานการศึกษาขั้นพื้น หรือ สพฐ. ปีงบประมาณ 2555 ในวงเงิน 689,530,800 ล้านบาท ทั้งที่กฎหมายก็ระบุชัดว่า ห้าม ส.ส.ไปยุ่งเกี่ยวกับงบประมาณแผ่นดิน โดยอ้างว่า เพื่อสนับสนุนการซ่อมแซมอาคาร อาคารประกอบ และสิ่งก่อสร้างอื่นที่ชำรุดทรุดโทรม และที่ประสบอุบัติอุทกภัยในช่วงปลายปี  2554 รวมทั้งสร้างสนามฟุตซอลใน 17 จังหวัด 358 โรงเรียน ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคเหนือ และมีบางจังหวัดที่อยู่ในพื้นที่ภาคกลาง

 


 

ในจำนวน 17 จังหวัด 358 โรงเรียน ที่แปรญัตติงบประมาณมาในตอนนั้น มีถึง 101โรงเรียน ใน 11 จังหวัด อาทิ นครราชสีมา อุบลราชธานี ชัยภูมิ มุกดาหาร สุรินทร์ อำนาจเจริญ ยโสธร ศรีษะเกษ ขอนแก่น เชียงราย และพะเยา ที่ใช้งบฯ ไปในการก่อสร้างสนามฟุตซอลตรงๆ  คิดเป็นเงินงบประมาณถึง 335 ล้านบาททีเดียว

 

แต่อย่างที่บอกไว้แต่ต้น โครงการนี้มีที่มาที่ไปไม่ต่างจากหลายโครงการที่ "กลุ่มการเมือง และผู้มีอิทธิพลในพื้นที่" สุมหัวกันเพื่อโกงโดยตรง เพราะความจริงเชิงประจักษ์ที่รับรู้รับทราบกันในเวลาต่อมาหลังสนามฟุตซอลสร้างเสร็จก็คือ มันไม่สามารถใช้งานได้จริง เพราะวัสดุที่นำมาใช้นั้นต่ำกว่ามาตรฐานมาก และบางแห่งพียงแค่ผ่านพ้นไปไม่ถึงเดือนก็ถูกปล่อยให้ทิ้งล้าง อีกทั้งพื้นสนามที่เป็นพื้นยางสังเคราะห์ที่มีราคาสูงถึงตารางเมตรละ 2,600 บาท ขณะที่ตลาดขายกันตารางเมตรละ 1,500-1,600 บาทเท่านั้น ก็หลุดลุ่ยเสียรูป และมีหญ้าขึ้นท่วมสูงตามขอบสนามเต็มไปหมด

 

ขณะที่การปรับพื้นผิวสนามก่อนปูพื้น ก็พบว่าเหมือนแค่เอารถไถมากวาดดินแล้วราดปูนซิเมนต์ทับ ซึ่งไม่ได้ระดับทั้งเอียง ทั้งแตกร้าว ทั้งนี้ยังไม่นับรวม การใช้เงินในการจัดซื้อหนังสือคัมภีร์กีฬาเล่มละ 1,200 บาท หนังสือต่อสู้โรคชุดละ 2,000 บาท ลูกตะกร้อ ลูกละ 220 บาท ลูกฟุตบอล ลูกละ 940 บาท ซึ่งล้วนแต่แพงเกินจริงทั้งสิ้น


ความเลวร้ายในเรื่องนี้ถูก "ศ.ดร.สมบัติ ธำรงธัญวงศ์" อดีตคณบดีนิด้า ชำแหละไว้ในเฟซบุ๊คส่วนตัว "Prof. Sombat Thamrongthanyawong, Ph.D"  ในตอนนั้น ในฐานะคนที่สอนหนังสือมาทั้งชีวิต เอาไว้แบบถึงพริกถึงขิง และมีความตอนหนึ่งที่คนไทยควรต้องรับรู้รับทราบเป็นอย่างยิ่งว่า 


“การฉ้อโกงการก่อสร้างสนามฟุตซอลที่เกิดขึ้นนี้ถือว่าเป็นการทุจริตที่ชั่วร้ายเป็นอย่างยิ่งเพราะเท่ากับเป็นการโกงเด็กๆ ลูกหลานของชาวบ้านโดยตรง ทำให้เด็กๆ ไม่มีโอกาสได้เล่นฟุตซอลในสนามที่มีมาตรฐาน เด็กๆ ตาดำๆ ผู้บริหารโรงเรียนยังโกงได้โดยไม่รู้สึกละอายใจ คนแบบนี้ต้องถือว่าหนักแผ่นดินจริงๆ ใครที่ต้องรับผิดชอบขอให้จัดการโดยเร็ว บรรดาผู้ปกครองนักเรียนที่มีลูกหลานอยู่ในโรงเรียนที่มีการโกงการก่อสร้างสนามฟุตซอลควรจะได้ออกมาช่วยกันตรวจสอบ และประณามผู้บริหารโรงเรียนที่ฉ้อโกง และขับไล่ให้ออกไปจากโรงเรียนของท่านโดยเร็ว อย่าปล่อยให้เป็นเยี่ยงอย่างอีกต่อไป ต้องไม่ให้คนประเภทนี้มีที่ยืนในสังคม” ศ.ดร.สมบัติ ปอกเปลือกคนโกงให้คนไทยได้รับรู้


ขณะที่ในมุมของการสอบสวนเพื่อหาคนกระทำผิดที่สมรู้ร่วมคิดกันนั้น สื่อทุกสำนักยืนยันตรงกันถึงพฤติการณ์การฮั้วกันโกงในเรื่องนี้ โดยเฉพาะในพื้นที่ จ.นครราชสีมาที่กำลังเป็นประเด็นร้อนขณะนี้ว่า มันเริ่มต้นจาก มีอดีต ส.ส. ในพื้นที่รายหนึ่งเข้าไปเจรจากับบรรดาข้าราชการระดับสูงสังกัด สพฐ. ประจำจังหวัด และผู้อำนวยการโรงเรียน ถึงการแปรญัตติงบมาจัดทำโครงการก่อสร้างสนามฟุตซอลดังกล่าว ซึ่งผู้รับเหมาที่ได้งานไปล้วนโยงใยกับกลุ่มการเมืองในพื้นที่ทั้งสิ้น รวมทั้งการจัดซื้อจัดจ้างก็พบว่า ผู้ยื่นเสนอราคาเป็นกลุ่มเดียวกัน จึงเป็นการส่อแสดงว่ามีการสมยอมราคาหรือ "ฮั้ว ประมูล" 


เมื่อเรื่องมาถึงตรงนี้ คงไม่จำเป็นต้องอธิบายเพิ่มอีกแล้วว่า ทำไมกลุ่มการเมืองแก๊งนั้นจึงกล้ากระทำเรื่องที่อุกฉกรรจ์เช่นนั้น เพราะล่าสุดในวันที่ 15 ม.ค.หรือเมื่อ 3 วันก่อน ป.ป.ช. มีมติแจ้งข้อกล่าวหา "นายวิรัช รัตนเศรษฐ" อดีต ส.ส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย นายชินภัทร ภูมิรัตน เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) กับพวก ซึ่งประกอบด้วย ข้าราชการ เอกชน และนักการเมือง รวมเกือบ 30 คน กรณีถูกกล่าวหาว่า ร่วมกันทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอล ของโรงเรียนสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษา เขต 2 
นครราชสีมา โดยจากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า การดำเนินโครงการดังกล่าวมีการร่วมกันทุจริตกันระหว่างข้าราชการ เอกชน และนักการเมือง กระทำกันอย่างเป็นระบบ


โดยรายงานข่าว ระบุด้วยซ้ำว่า ขณะนี้ ป.ป.ช. ได้ส่งหนังสือแจ้งข้อกล่าวหาไปยังผู้ถูกกล่าวหาเพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา และแก้ข้อกล่าวหากับ ป.ป.ช.แล้ว แต่อดีต ส.ส. ที่ได้กำหนดวันให้มาแก้ข้อกล่าวหายังไม่ได้เดินทางมาตามนัด ซึ่งจะมีการทำหนังสือแจ้งซ้ำไปอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม กรณีที่เขต 2 นี้ จะนำมาเป็นโมเดลในการไต่สวนการทุจริตการก่อสร้างสนามฟุตซอลในพื้นที่ของในจังหวัดอื่นๆ ของภาคอีสานต่อไป เพราะพฤติกรรมของการทุจริตเป็นไปในลักษณะเดียวกัน ดังนั้น คาดว่า ภายในเดือน มี.ค. – เม.ย. ทางอนุกรรมการไต่สวนจะสามารถสรุปเพื่อเสนอให้คณะกรรมการป.ป.ช. ชี้มูลความผิดถูกผู้ถูกกล่าวหาได้ 

 

อ่าน ฟันยกแก๊ง!! ป.ป.ช.แจ้งข้อหา "วิรัช อดีตสส.เพื่อไทย กับพวก เขมือบงบสนามฟุตซอลโคราช ยกเป็นโมเดลขยายสอบโซนอิสาน