ด้วยความห่วงใย?? รู้หรือไม่ยาแก้ปวดอันตรายมาก ใช้พร่ำเพรื่อ..ตาย!!

ติดตามรายละเอียด : FB. Deeps News

จากกรณีที่มีให้เห็นกันอยู่บ่อยครั้ง สำหรับการเสียชีวิตเนื่องจากการรับประทานยาเกินขนาด ไม่ว่าจะเป็นยาประเภทใดก็ตาม อย่างไรก็ตาม แม้กรณีที่เกิดขึ้นนั้นจะยังไม่เป็นที่แน่ชัดถึงสาเหตุการตายว่า เป็นการกินยาเกินขนาดโดยไม่ได้ตั้งใจ หรือเจตนาเพื่อฆ่าตัวตายหรือไม่ แต่จากกรณีนี้ที่สามารถหยิบยกมาเป็นบทเรียนให้กับคนทั่วไปได้ ก็คือพฤติกรรมการใช้ยาของคนไทย ที่อยู่ในเกณฑ์น่าเป็นห่วง ข้อมูลโดย นพ.บุญชัย สมบูรณ์สุข เลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า จากข้อมูลการใช้ยาพาราเซตามอลของคนไทยพบว่าส่วนใหญ่ใช้ยาพาราเซตามอลเกินกว่าปริมาณที่กำหนด เนื่องจากมองว่าเป็นยาพื้นฐาน มีความปลอดภัย และเข้าใจว่าสามารถรักษาได้ทุกอาการปวด ซึ่งในความเป็นจริง ยาพาราเซตามอลมีฤทธิ์แก้ปวด ลดไข้ เท่านั้น และไม่ควรใช้ติดต่อกันนานๆ 

 

     

การกินยาแก้ปวดต้องไม่ทานเกิน 15 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว โดยในยาแก้ปวด 1 เม็ดจะมีปริมาณยาอยู่ที่ 500 มิลลิกรัม ห้ามกินยาแก้ปวดเกินวันละ 8 เม็ดโดยเด็ดขาด เพราะจะทำให้ตับของเราต้องทำงานหนักเกินไป การกินยาแก้ปวดห้ามกินร่วมกันกับยารักษาโรควัณโรคหรือยารักษาโรคลมชักโดยเด็ดขาด เพราะจะเป็นการไปเพิ่มการเป็นพิษต่อตับให้เพิ่มสูงขึ้น ห้ามกินยาแก้ปวดร่วมกันกับเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เพราะจะยิ่งเพิ่มผลเสียให้กับตับ ถ้าหากเป็นโรคหัวใจหรือเป็นโรคความดันโลหิตสูง ไม่ควรกินยาแก้ปวดหรือยาพาราเซตามอล เพราะจะส่งผลทำให้โรคที่เป็นอยู่นั้นมีความรุนแรงมากยิ่งขึ้นไปอีก

 

ทั้งนี้ เพื่อความปลอดภัยในการใช้ยาขอให้ผู้บริโภคใช้ยาอย่างระมัดระวัง ควรอ่านฉลากและเอกสารกำกับยาอย่างถี่ถ้วนและปฏิบัติตามวิธีใช้ที่ระบุบนฉลากยาอย่างเคร่งครัด ไม่ควรรับประทานยาเกินกว่าปริมาณที่ระบุไว้ และอย่าลืมว่า “ยาทุกชนิดเปรียบเสมือนมีดสองคม มีคุณอนันต์ แต่ก็อาจมีโทษมหันต์ ถ้าใช้ผิดวิธีหรือไม่ระวัง”