- 18 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.tnews.co.th
จากกรณี เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 17 ม.ค.61 ที่สภ.ฉลอง อ.เมืองภูเก็ต อาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ต ได้พาตัวนาย Maxin Lastouka อายุ 27 ปี และ น.ส.Nikulina Anna อายุ 22 ปีสองสามีภรรยาชาวรัสเซียเข้าพบ ร.ต.ท.ชนัตถ์ หงษ์สิทธิชัยกุล รองสารวัตร(สอบสวน) สภ.ฉลอง เพื่อแจ้งความดำเนินคดี หลังถูกกลุ่มคนร้ายเป็นชายไม่ทราบสัญชาติบุกเข้ามาจับตัวขณะอยู่ในห้องพักเลขที่ 88/86 The Lago Naiharn Beach ม.1 ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อกลางดึกวันที่ 15 ม.ค.ที่ผ่านมาพร้อมกับปล้นทรัพย์สิน เช่น คอมพิวส์เตอร์แม็คบุ๊ก 1 เครื่อง คอมพิเตอร์แม็ค บุ๊กโปร 1 เครื่อง คอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊คยี่ห้อ HP 1 เครื่อง โทรศัพท์มือถือ ไอโฟน X สีดำ 1 เครื่อง บัตรวีซ่ารัสเซีย พาสปอร์ต 2 เล่มและข่มขู่บังคับโอนเงินสกุลบิทคอยน์จำนวน 100,000 เหรียญสหรัฐหรือกว่า 3.5 ล้านบาท รวมมูลค่าความเสียหาย ประมาณ 3.7 ล้านบาท
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุนาย Lastouka และแฟนสาวได้ออกจากห้องพักเพื่อไปทำธุระ จากนั้นขณะที่กำลังเดินกลับห้องพักได้มีกลุ่มคนร้ายไม่ทราบจำนวนได้ซุ่มอยู่บริเวณตู้ควบคุมระบบไฟฟ้าของอาคารดังกล่าวและได้เข้าประกบ พร้อมกับบังคับให้นาย Lastouka เปิดประตูห้องพัก และได้ใช้ถุงดำคลุมศีรษะจับนาย Lastouka แยกกับแฟนสาวคนละห้อง โดยได้บังคับให้บอกที่ซ่อนทรัพย์สินและสั่งให้โอนเงินสกุลบิทคอยน์เข้าบัญชีผ่านเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งกลุ่มคนร้ายได้ข่มขู่ถ้าไม่โอนจะฆ่าทิ้ง นาย Lastouka จึงได้โอนเงินทั้งหมดเข้าบัญชีคนร้ายกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐหรือกว่า 3.5 ล้านบาท จากนั้นกลุ่มคนร้ายได้นำทรัพย์สินทั้งหมดไปด้วยพร้อมกับขู่ห้ามแจ้งตำรวจ ถ้ามีการแจ้งจะย้อนกลับมาฉีดสารเสพติด โดยกลุ่มคนร้ายได้ควบคุมตัวนาย Lastouka และแฟนสาวไว้ในห้องกว่า 6 ชม.ก่อนจะหลบหนีไป ทำให้นาย Lastouka ไม่กล้าแจ้งความหลังเกิดเหตุ ต่อมาได้พบกับนายอิกอร์ ชาวรัสเซีย ซึ่งเป็นอาสาสมัครตำรวจท่องเที่ยวภูเก็ตจึงได้มีการพูดคุยหารือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและพาเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในเวลาต่อมา โดยนาย Lastouka สามารถจดจำใบหน้าของหนึ่งในกลุ่มคนร้ายได้ เนื่องจากเคยเห็นหน้ามาก่อน โดยหลังรับแจ้งเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนได้เร่งตรวจสอบพบว่าหลังก่อเหตุกลุ่มคนร้ายบางคน ได้หลบหนีออกจาก จ.ภูเก็ตมุ่งหน้าไปผ่าน จ.นครศรีธรรมราชและเข้าประเทศมาเลเซียไปแล้ว เนื่องจากตรวจพบจีพีเอสที่อยู่กับโทรศัพท์มือถือที่คนร้ายนำไปด้วย
ล่าสุด พล.ต.ท. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า กรณีที่เกิดขึ้นเป็นอำนาจของเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้เร่งดำเนินการตรวจสอบและติดตามตัวคนร้ายอยู่แล้ว แต่ได้สั่งการเพิ่มเติมให้ พล.ต.ต.อังกูร คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว 3จัดชุดสืบสวนของตำรวจท่องเที่ยวสืบสวนติดตามเพิ่มเติม เบื้องต้นทราบว่าเป็นกลุ่มชาวต่างชาติที่กระทำต่อชาวต่างชาติด้วยกัน แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้มาก เพราะอยู่ระหว่างการดำเนินการ ซึ่งหากกทราบชัดเจนว่าเป็นกลุ่ม หรือแกงค์ไหน อย่างไรจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
ทั้งนี้ในส่วนของอาชญากรรมข้ามชาตินั้นเป็นเรื่องโดยตรงของ กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวตามนโยบายที่ผบ.ตร.มอบหมาย ในวันนี้ พื้นที่ท่องเที่ยวเช่น พัทยาภูเก็ต กระบี่ หรือ ในเรื่องของอาชญากรรมข้ามชาติไม่ว่าจะเป็นแก็งเฮลแองเจิ้ล สแกมเมอร์ คอลเซ็นเตอร์ เราได้มีการขยายผลปราบปรามอย่างจริงจังตลอดช่วงปลายปีที่ผ่านมา จนนักท่องที่ยวเกิดความเชื่อมั่น สังเกตุได้จากการเข้ามาท่องเที่ยวมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของคดีนี้ นั้นพอจะมีรายละเอียดแล้วแต่ขอเวลาให้เจ้าหน้าที่ได้ทำงานก่อน
ข่าว/ภาพ อุทัย แสงสุวรรรณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค สำนักข่าวทีนิวส์ จ.ภูเก็ต