เฮ..ได้ดูบอลโลกฟรี!! คิงเพาเวอร์นำทัพ7เอกชนลงขัน

ปรับมือรัวๆๆๆๆๆ ทำดีก็ต้องชม  ผู้ว่าการกีฬาเผย ฝีมือ บิ๊กป้อม ประสานสิบทิศ

นที่สุดคนไทยก็ได้ดูบอลโฃกแล้ว เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ห้องประชุมชั้น 4 การกีฬาแห่งประเทศไทย(กกท.)    ''บิ๊กเสือ'' สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เป็นประธานประชุม เชิญผู้แทนจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน), กลุ่มบริษัท คิงเพาเวอร์, บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน), บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด หรือ ช้าง, บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส, สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อหารือแนวทางการการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย 2018 ที่ประเทศรัสเซีย
 สำหรับตัวแทนภาคเอกชนต่างๆ ที่เข้าร่วมประชุม ประกอบด้วย พรอนันต์ เกิดประเสริฐ  ผู้แทนบริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด, อารดา จินดาวัฒน์ ผู้แทนบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน), สุรพล อุทินทุ ผู้แทนบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ  จำกัด (มหาชน), ชมพูนุช บุญประเสริฐ ผู้แทนบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน),  ตุ้มทอง มุสิกรัตน์ ผู้แทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล, นิวัตร์ ไวทยะมงคล ผู้แทนบริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) ขาดเพียง บริษัทระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส

ผลการประชุมของกลุ่ม 7 บริษัทที่ลงขันถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก 2018 และ กกท. ลงมติเลือก ''คิง เพาเวอร์'' ที่มีศักยภาพ เป็นหัวหอกประสานทั้งในและต่างประเทศทุกขั้นตอนในการถ่ายทอดสดครั้งนี้รวมถึงลงนามสัญญา  เพราะเอกชนมีความคล่องตัวมากกว่า ด้านเม็ดเงินลงขันเท่ากันทั้ง 7 บริษัท แบ่งจ่าย 4 งวด เริ่มงวดแรก ม.ค.นี้ ส่วนถ่ายสดช่องใดบ้างเตรียมหารืออีกครั้งก.พ.พร้อมยืนยันงานนี้แฟนกีฬาลูกหนังเมืองไทยได้ดูกันเต็มอิ่มแบบไม่มีโฆษณามากวนใจแน่นอน
หลังการประชุม สกล วรรณพงษ์ ผู้ว่าการกกท. เผยว่า  ต้องขอบคุณ ''บิ๊กป้อม'' พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นผู้ประสานเรื่องนี้จนประสบความสำเร็จ

ผู้ว่าการกกท. กล่าวอีกว่า ในเบื้องต้น กกท. ได้พูดคุยกับทุกบริษัทมีความเห็นพ้องต้องกันว่า กกท.จะให้ คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล เป็นผู้ประสานกับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)  ประเทศรัสเซีย เจ้าภาพ และ ผู้ถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด และสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า) เจ้าของสิทธิ์โดยตรง ตั้งแต่ขั้นตอนการทำสัญญา ซึ่งกกท.จะพยายามดูแลเรื่องการลดหย่อนภาษีต่างๆ 

สกล  กล่าวเพิ่มเติมว่า ที่มอบหมายให้ คิง เพาเวอร์ ดำเนินการเนื่องจากโดยภาครัฐแล้ว ไม่คล่องตัวนัก สาเหตุที่เราเลือกคิง เพาเวอร์ เนื่องจากเป็นภาคเอกชนที่มีความคล่องตัว มีสายสัมพันธ์เกี่ยวกับวงการฟุตบอลในระดับนานาชาติ และมีบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญกว่ากกท. ในส่วนของรัฐวิสาหกิจจะต้องพูดคุยเรื่องของกฎหมายต่างๆ ให้ชัดเจนด้วย โดยการประชุมอีกครั้งจะมีขึ้นในเดือนก.พ.นี้

 อย่างไรก็ตาม ในส่วนของงบประมาณในการซื้อลิขสิทธิ์นั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่าอยู่ระหว่าง 1,200-1,400 ล้านบาท โดยภาคเอกชนจะลงขันกันเพื่อจ่ายให้ครบภายใน ก.พ.นี้ โดยแบ่งจ่ายทั้งหมด 4 งวด คือ มกราคม, กุมภาพันธ์, มีนาคม และ เมษายน    ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า ในการประชุมครั้งนี้ กสทช. ได้แนะนำแนวทางหรือไม่ ในเรื่องกฎระเบียบต่างๆ รวมทั้งจะร่วมลงขันในการซื้อลิขสิทธิ์ ''รัสเซีย 2018'' หรือไม่

ในเรื่องนี้ ผู้ว่าการกกท. ระบุว่า ทาง กสทช. ได้ให้ข้อแนะนำในหลายๆ ประเด็นเรื่องการถ่ายทอดสด ซึ่งกฎมัสต์แฮฟที่จะต้องมี 7 กีฬาถ่ายทอดสดได้เฉพาะทางฟรีทีวีนั้น ถือว่าเป็นความหวังดี แต่เนื่องจากบางกีฬามีค่าลิขสิทธิ์แพงมาก จึงเป็นปัญหาที่เอกชนไม่กล้าลงทุน ส่วนเรื่องงบประมาณนั้น กสทช. ไม่ได้มีงบประมาณส่วนนี้ช่วยเหลือ  ส่วนแหล่งที่มาของงบประมาณ ภาคเอกชนและรัฐวิสาหกิจจะหารเท่าๆ กันคือ หาร 7 ไปเลย ไม่มีใครออกมากหรือน้อยกว่ากัน

สำหรับการถ่ายทอดสดช่องทางใดนั้นมีการหารือในการประชุมครั้งนี้หรือไม่  ผู้ว่าการกกท. เผยว่า จะมีการหารือกันอีกครั้ง ช่องที่จะถ่ายทอดสดนั้นจะต้องจ่ายเพิ่มหรือไม่คงต้องคุยกัน เพราะ ตอนนี้ช่องฟรีทีวีมี 26 ช่อง  โดยในส่วนของแพ็กเกจนั้น การซื้อลิขสิทธิ์ครั้งนี้ เป็นการซื้อลิขสิทธิ์ในแพ็กเกจ ซี คือ เป็นการซื้อแพ็กเกจใหญ่ที่สุดทุกช่องทาง รวมถึงการถ่ายทอดสดทางอินเทอร์เน็ตด้วย ซึ่งจะต้องหารือเรื่องของการบล็อก และเรื่องของการบังคับใช้กฎหมายด้วย

อย่างไรก็ตาม หากจะมีเอกชนไหนเข้ามาเพิ่ม คงไม่เปิดให้เพิ่มเติมแล้ว เนื่องจากที่ประชุม ได้ผนึกกำลังในกลุ่มนี้มีศักยภาพเพียงพอแล้ว ขอบอกแฟนบอลเลยว่าการถ่ายทอดสดครั้งนี้ระหว่างการถ่ายทอดสดจะไม่มีโฆษณาคั่นให้ผู้ชมเสียอรรถรสของเกมการแข่งขันแน่นอน จะมีเพียงตอน พักครึ่ง และหลังการแข่งขันเท่านั้นที่มีโฆษณา