สมคิด ทุบแบงก์ออมสิน  เป็นที่พึ่งคนจน อย่ามุ่งแต่หากำไร

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.richmancando.com

เราเตือนคุณแล้ว...!!! ออมสินคงลืมไปว่าเป็นธนาคารรัฐ แต่ทำตัวเป็นแบงก์เอกชน ....

สมคิด ทุบแบงก์ออมสิน  เป็นที่พึ่งคนจน อย่ามุ่งแต่หากำไร

จากกรณีที่ ทีมงาน Richman can do ได้นำเสนอข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 24/1/61 เรื่องธนาคารออมสิน ในหัวข้อเรื่อง นี่นะเหรอแบงก์คนจน  ...ดอกเบี้ยกู้ถูกจริงหรือ..??? นักบุญ หรือ คนบาป..??? ออมสิน ฟาดดอก ฟันกำไร 3 หมื่นลบ. (Link::http://www.tnews.co.th/contents/iz/405932) ซึ่งทีมงานต้องการทำหน้าที่เป็นเสียงสะท้อนให้แบงก์ออมสินตระหนักถึงภาระหน้าที่ของแบงก์ในการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยให้เข้าถึงแหล่งเงินกู้ ได้ง่ายและถูกต้องตามหลักการของธนาคาร เพื่อคนจนจะได้ไม่ต้องไปกู้หนี้นอกระบบ หลังจากที่นำเสนอไป ก็มีเสียงสะท้อนว่า เพจRichman can do มากในทำนอง ทีมงานอคติ ไม่มีความรู้ ถึงได้พาดหัว เช่นนั้น และอื่นอีกมากมาย  แต่ก็มีเสียงสนับสนุนและเห็นด้วยกับข้อเขียนของทีมงาน เพราะต่างสะท้อนว่า แบงก์ออมสินคิดดอกเบี้ยสูง แม้อัตราดอกเบี้ยเงินกู้จะต่ำกว่าธนาคารพาณิชย์เอกชนทั่วไป แต่ก็ยังสูง เนื่องจากในความรู้สึกของประชาชนทั่วไป จะมีความคิดว่า ดอกเบี้ยแบงก์ออมสินจะถูกกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเป็นธนาคารของรัฐ   มีต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าแบงก์เอกชน แต่ในทางปฏิบัติกลับไม่เป็น เช่นนั้น

สมคิด ทุบแบงก์ออมสิน  เป็นที่พึ่งคนจน อย่ามุ่งแต่หากำไร

อย่างไรก็ตามทีมงานขอน้อมรับทุกความเห็นและคำติชม  เพื่อยืนหยัดว่า เราทำหน้าที่ได้ถูกต้อง เพราะวานนี้ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ได้ไปตรวจเยี่ยมธนาคารออมสิน และมอบนโยบายหลักให้แบงก์ทำหน้าที่ช่วยสร้างโอกาสและพัฒนาผู้มีรายได้น้อย มากกว่าการแสวงหากำไร นอกจากนั้นวันนี้สื่อแทบทุกฉบับก็นำเสนอข่าวในประเด็นนี้เรื่อง สมคิดมอบนโยบายให้ออมสินดูแลคนจน ตามที่ทีมงานRichman can do ได้นำสนเอข่าวไป

สำหรับนโยบายที่ดร.สมคิด  มอบให้กับธนาคารออมสิน มีดังนี้ ต้องการให้แบงก์ปรับบทบาทและความคิดใหม่ เน้นการช่วยสร้างโอกาสและพัฒนาผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยอยากให้ดูเรื่องการบริหารจัดการให้ดี และไม่จำเป็นต้องเน้นเรื่องการการหารายได้เพื่อส่งเข้าแผ่นดิน หรือการทำกำไรมากมาย แต่อยากให้เน้นเรื่องการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยตามนโยบายรัฐบาลเพิ่มมากขึ้น เนื่องจากผู้มีรายได้น้อยยังต้องการความช่วยเหลือ จึงขอให้ธนาคารออมสินเข้าไปช่วยเสริม โดยการเชื่อมโยงแนวทางการช่วยเหลือกับภาคส่วนอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องในการเข้าไปช่วยพัฒนาผู้มีรายได้น้อยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

"ยุทธศาสตร์ของออมสินถือว่ามาถูกทางแล้ว แต่โครงสร้างการทำงานยังเป็นแบบเก่าเมื่อ 50 ปีก่อน ที่ยังเน้นดูแลลูกค้ารายย่อย รายใหญ่ และส่งเสริมการออม หลังจากนี้จะต้องปรับบทบาทใหม่ เข้าไปพัฒนาใน 4 กลุ่มเป้าหมาย อาจจะผ่านความร่วมมือกับสถาบันการเงินเฉพาะกิจด้วยกัน เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SME Bank) หรือธนาคารกรุงไทย โดยประเทศจะเจริญได้ต้องมีการขับเคลื่อน โดยเฉพาะในกลุ่มชนชั้นกลาง เราต้องทำให้เขายืนได้ ไม่ใช่ยืนได้จากการปล่อยสินเชื่อเท่านั้น แต่ต้องมีการเพิ่มรายได้ ลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ไม่จำเป็นให้ด้วย เพื่อให้เขามีรายได้มากขึ้น" ดร.สมคิด กล่าว
 

สมคิด ทุบแบงก์ออมสิน  เป็นที่พึ่งคนจน อย่ามุ่งแต่หากำไร

โดยให้มีการจัดกลุ่มเป้าหมายสำคัญเป็น 4 กลุ่ม คือ 1. กลุ่มฐานราก ผู้มีรายได้น้อย คนตัวเล็ก ผู้ประกอบการ SMEs พ่อค้า แม่ค้า เป็นต้น 2. กลุ่มชนชั้นกลาง คนที่มีงานทำ อยู่ในเมือง มีรายได้สูงกว่ากลุ่มฐานราก 3. กลุ่มสตาร์ทอัพ และ 4. กลุ่มผู้สูงวัย ที่ยังมีศักยภาพในการทำงานได้
พร้อมระบุว่า จะต้องมีการจัดทำ ฐานข้อมูลอย่างใหญ่(Big Data) ซึ่งถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะนำไปสู่การพัฒนาในส่วนอื่น ๆ ตามมา เช่น การปล่อยสินเชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับทิศทางเศรษฐกิจประเทศในอนาคต ต้องเริ่มก้าวไปให้เข้ากับยุคดิจิทัล ต้องนำดิจิทัลมาใช้เพื่อเสริมในส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับประเทศ และยังต้องการให้ธนาคารออมสินเป็น Local Bank เพื่อใกล้ชิดกับประชาชนต่อไป และให้สามารถเชื่อมโยงกับสถาบันการเงินชุมชน ซึ่งจะเป็นการช่วยยกระดับและพัฒนาในระดับชุมชน ซึ่งที่ผ่านมา บุคลากรของธนาคารออมสินมีความเชี่ยวชาญในด้านนี้ ก็ควรนำทักษะที่มีลงไปทำงานเพื่อช่วยเหลือให้ทุกส่วนเดินไปได้ด้วยดีในอนาคตข้างหน้า
ขณะที่ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการธนาคารออมสิน ได้เห็นชอบโครงการสินเชื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่จะเริ่มให้ยื่นขอสินเชื่อได้ตั้งแต่ 1 ก.พ.61 โดยมีเป้าหมายช่วยคนหลุดพ้นความยากจนได้ไม่น้อยกว่า 1 ล้านรายภายในปี 2563

สมคิด ทุบแบงก์ออมสิน  เป็นที่พึ่งคนจน อย่ามุ่งแต่หากำไร

อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการ ธนาคารออมสิน ออกมาเปิดเผยถึงผลการดำเนินงานของแบงก์ในปี 2560 ว่า ธนาคารมีกำไรสุทธิหลังหักสำรองหนี้สงสัยจะสูญกว่า 31,212 ล้านบาท ซึ่งมาจากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิกว่า 57,884 ล้านบาท โดยเป็นผลจากการบริหารพอร์ตสินทรัพย์และหนี้สินให้สอดคล้องกับทิศทางอัตราดอกเบี้ยในตลาดและการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ 
โดยปี 2560 ธนาคารปล่อยสินเชื่อเพิ่มขึ้นสุทธิ 112,272 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.9% ส่งผลให้เงินให้สินเชื่อ ณ สิ้นปี 2560 อยู่ที่ 2.01 ล้านล้านบาท ขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมสุทธิอยู่ที่ 5,701 ล้านบาท สูงกว่าปีก่อน 921 ล้านบาท  
สำหรับค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจบัตรและบริการอิเล็กทรอนิกส์ ค่านายหน้าและรับชำระค่าเบี้ยประกันภัย ซึ่งเป็นผลจากการปรับปรุงผลิตภัณฑ์และบริการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ตรงตามความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งกลยุทธ์ทางการตลาดที่จูงใจด้วย