- 27 ม.ค. 2561
ติดตามข่าวสารได้ที่ www.gninternews.com
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2561 โดยใจความสำคัญอยู่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้เสนอมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนของอเมริกาต่อโลกในสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขา
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานข่าว เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2561 กรณีทางด้าน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เมื่อวันศุกร์ที่ 26 มกราคม 2561 โดยใจความสำคัญอยู่ที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้เสนอมิตรภาพและความเป็นหุ้นส่วนของอเมริกาต่อโลกในสุนทรพจน์ครั้งแรกของเขาในฐานะประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาว่า นโยบายอเมริกาต้องมาก่อนนั้นไม่ได้หมายความว่าอเมริกาต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยว และโลกกำลังเผชิญกับการฟื้นตัวอย่างเข้มแข็งและเจริญรุ่งเรืองของอเมริกาซึ่งเปิดกว้างเพื่อธุรกิจและอเมริกากำลังกลับมาแข่งขันอีกครั้ง เขาได้เตือนว่าทุกประเทศไม่สามารถมีการค้าเสรีและเปิดกว้างได้หากบางประเทศยังแสวงหาโยชน์จากประเทศอื่น
นอกจากนั้นแล้วผู้นำสหรัฐฯ ยังได้อ้างว่าเป็นเพราะผลงานของสหรัฐฯ เป็นแกนนำว่าสามารถยึดคืนพื้นที่กลับคืนมาได้เกือบทั้งหมด ที่เคยถูกกลุ่มหัวรุนแรงไอเอสเข้ายึดครองไว้ในประเทศอิรักและซีเรีย แม้จะยังคงมีการสู้รบอยู่ แต่ก็ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นเพื่อความเป็นปึกแผ่นของดินแดนที่ยึดคืนมาได้
ช่วงท้ายของการพูด นายโดนัลด์ ทรัมป์ ถูกโห่ จากผู้ฟัง เมื่อเขาได้โจมตีสื่อมวลชน โดยเขากล่าวว่า สมัยเป็นนักธุรกิจนั้นเขาได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีจากสื่อมวลชน แต่มันก็ไม่ได้เป็นเช่นนั้นอีกแล้วเมื่อเขามาเป็นนักการเมืองซึ่งเขาได้ตระหนักแล้วถึงความเลวร้าย อันตรายว่าเป็นอย่างไรและข่าวลวงที่สื่อมวลชนทำขึ้นมา
การขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมเศรษฐกิจโลกที่เมืองดาวอส ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ของผู้นำสหรัฐฯ ในครั้งนี้ มีทั้งนักการเมือง ผู้นำภาคอุตสาหกรรม เทคโนโลยี การคลัง และผู้ที่สนใจ จำนวนมาก