การรวมตัวในวันที่ฝนตก ขี้หมูไหล จนกลายความหวังของชาติ??? "เทพไท"จากประชาธิปัตย์ไหลรวม"จ่านิว-โรม"?!

จากกรณีเมื่อช่วงวันหยุดที่ผ่านมา วันที่27 ม.ค. 61  ที่บริเวณสกายวอล์ก เขตปทุมวัน กทม.  ตามที่กลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย  โดยมี”จ่านิว” สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ และนายรังสิมันต์ โรม  โดยมีประชาชนเข้าร่วมกว่า 200 คน  การนัดรวมตัวครั้งนี้มีจุดประสงค์ โดยสรุปเพื่อต้องการขับไล่คสช.และรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้ทำตามโรดแมปเดิม คือจะมีการเลือกตั้ง ในช่วงพ.ย. นี้ 

 

 

ในการชุมนุมครั้งนี้ เมื่อเฝ้าสังเกตก็จะเห็นว่ามีแต่ แกนนำคนเสื้อแดงสายปะทะทั้งนั้นนอกเหนือจากรังสิมันต์ โรม - จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์แล้ว  ยังเป็นการรวมตัวของกลุ่มการเมืองเดิมๆ นับตั้งแต่ สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด , เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล  ,โบว ณัฎฐา มหัทธนา(กลุ่มเพื่อนไผ่ดาวดิน) ,เอกไชย ชัยนุวัติ(นักวิชาการ ม.สยาม) , เอกชัย หงส์กังวาน ,ทนาย อานนท์ นำภา ,ฟอร์ด เส้นทางสีแดง , กลุ่มไอลอว์ , สมาชิก เอมเนสตี้อินเตอแนลประเทศไทย และกลุ่มพลังมด 

 

และพบว่ามีการเคลื่อนไหวของกลุ่ม" เสื้อแดงล้มเจ้า"ในต่างประเทศ ออกมามีโฆษณากิจกรรมนี้กันอย่างเต็มที่อย่างเช่น กลุ่มเสื้อแดงที่หลบหนีอยู่ในลาว - จรรยา ยิ้มประเสริญ และ จรัล ดิษฐาพิชัย   อีกทั้งมีการรวมวง โดย”วีระ สมความคิด” อดีตแกนนำพันธมิตรฯ

 รวมไปถึงผู้ที่เคยขึ้นเวทีขับไล่รัฐบาลเสื้อแดง แต่มาวันนี้กลับทำหน้าที่ประชาสัมพันธ์งานจากฝั่งพรรคประชาธิปัตย์ อย่าง “นายเทพไท เสนพงษ์ ” ได้รายงานความเคลื่อนไหวของกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย เชิญชวนให้ประชาชนออกมาครั้งนี้ โดยได้ทำการแชร์ภาพของนายรังสิมันต์  ที่ขึ้นอินโพกราฟฟิค ไว้ว่า "นัดรวมพล ประชาชนอยากเลือกตั้ง แสดงพลังต้านอำนาจ คสช. เสาร์ 27 ม.ค.61 17.30 น.  พร้อมเขียนคำบรรยายว่า..

”เริ่มต้นแล้ว สำหรับปฏิบัติการต่อพวกหลวงอำนาจ”. 

 

นี่เป็นเพียงตัวอย่างเดียว ที่ได้นายเทพไทได้ทำตัวเป็น PR ประจำงานนี้ให้  ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดเสียงวิพากษ์ตามมาในทันที บางคนตั้งข้อสังเกตว่า...หรือเป็นเพราะอดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ อยากเลือกตั้งเต็มแก่จนยอมไหลไปรวมกับ นายสิรวิชญ์-นายรังสิมันต์ 

 

ซึ่งนายเทพไท นับเป็นหนึ่งในคนสนิทของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ดังนั้น หลายฝ่ายจึงมองว่า...การแชร์โพสต์ครั้งนี้อาจส่งสัญญาณบางอย่าง หรือไม่ หรือเป็นเพียงความคิดเห็นส่วนตัวของนายเทพไทเอง โดยไม่เกี่ยวกับพรรคประชาธิปัตย์ หรือ นายอภิสิทธิ์ แต่ถึงอย่างนั้นไปพิจารณาที่ความคิดของนายอภิสิทธ์ที่ผ่านมา  ก็ได้ประกาศชัดเจนว่าไม่ขอร่วมวงกับพล.อ.ประยุทธ์ เพราะผิดหลักการประชาธิปไตย

ไม่บ่อยครั้งที่สองขั้วขัดแย้ง "เพื่อไทย" และ "ประชาธิปัตย์" จะคิดอ่านไปทางเดียวกัน แม้จะไม่ได้ร่วมเคลื่อนไหวด้วยกันแต่ก็เปิดหน้าประกาศตัวชัดเจนว่าเคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกัน 

 

ไม่ว่าจะเป็นการเคลื่อนไหวต้านคำสั่งคสช.ที่ 53/2560 ที่ออกโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 เข้าไปแก้ไขเนื้อหา พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้พรรคการเมืองทั้งเก่าและใหม่ได้ดำเนินการตามกรอบเวลา 3 ระดับ

 

เริ่มตั้งแต่วันประกาศคำสั่งจนถึงวันที่ 1 มี.ค. 2561 ระดับที่ 2 จากวันที่ 1 มี.ค. 2561 ไปจนถึง 1 เม.ย. 2561 และระดับที่ 3 ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป และหลังจากนั้นจะมีการปลดล็อกพรรคการเมือง โดยจะยกเลิกประกาศคสช.และคำสั่งหัวหน้า คสช.ที่เป็นปัญหาและอุปสรรคต่อการเลือกตั้งโดยเสรี

ขณะที่การเลือนเลือกตั้ง นายอภิสิทธิ์ ได้แสดงความคิดเห็นว่า ว่า เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าจะออกมาในรูปนี้ แต่ประเด็นหลักคือคสช.และรัฐบาล จะต้องตระหนักว่าควรทำให้เกิดความเชื่อมั่น หากจำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้งออกไป ก็ควรประกาศให้ชัดตรงไปตรงมา เพราะเหตุผลที่ต้องขยายเวลาการบังคับใช้กฎหมายดังกล่าวออกไป ไม่สะท้อนความจริงที่เป็นผลมาจากการไม่ปลดล็อกทางการเมืองของ คสช.ดังนั้น ความไม่แน่นอนดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นในตัวรัฐบาลและประเทศ และจนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถตอบได้ว่าจะเลือกตั้งเมื่อไหร่ เนื่องจาก นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า อาจจะเกิดอะไรขึ้นอีกก็ได้

 

"วันนี้คุณวิษณุบอกว่า ไม่มีใครสมควรที่บังอาจจะพูดว่าอะไร เมื่อไหร่ ดังนั้น ยังไม่สามารถคาดการณ์อะไรได้ เราก็ดูตามที่เขียนในกฎหมายได้ในตอนนี้ แต่ขณะเดียวกันถ้ามาตรา 44 สามารถที่จะถูกเอาออกมาใช้ทุกเมื่อ เพื่อแก้ไขปัญหาทุกอย่างได้ ความแน่นอนก็ไม่เกิด ยกเว้น คสช.แสดงเจตนารมณ์ให้ชัด ผมว่า คสช.จะต้องพูดให้ชัดว่า คำว่าโรดแมปไม่ใช่ยืดได้หดได้ตลอดเวลา ตกลง คสช.ต้องการให้ประเทศไทยเดินตามรัฐธรรมนูญและกฎหมายประกอบ เมื่อไหร่ อย่างไร และมีเหตุผลอะไรบ้างที่อาจจะไม่เป็นไปตามนั้น และต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นเหตุผลที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมเท่านั้นเอง จะเกิดความเชื่อมั่น ความน่าเชื่อถือ"

 

อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นทราบกันดีว่าทั้งนายรังสิมันต์ โรม , จ่านิว สิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์แล้ว , สมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด , เนติวิทย์ โชติภัทร์ไพศาล ต่างเป็นพวกคัดค้านต่อต้านพล.อ.ประยุทธ์แบบหัวจนฝ่า และมักจะออกมาเคลื่อนไหวเรียกร้องอ้างสิทธิเสรีภาพอยู่เป็นประจำ

 

หรือนี่จะเป็นการรวมตัวในวันที่ฝนตก ขี้หมูไหล จนกลายความหวังของชาติอย่างนั้นหรือ ???

 

 

แบบนี้ก็ต้องจับตากันต่อไปว่า สถานการณ์ของรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ และคสช. จะย่ำแย่ลงไปกว่านี้อีกหรือไม่ เพราะทั้ง เพื่อไทย ประชาธิปัตย์ และวีระ ได้ร่วมมือกับคนเสื้อแดงเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นเป็นเรื่องที่คนไทยต้องตัดสินใจระหว่างกลุ่มคนเหล่านี้ ผสานกับนักเลือกตั้ง กับพล.อ.ประยุทธ์ใครทำประโยชน์ให้กับชาติบ้านเมืองมากกว่ากัน?