ติดตามเรื่องราวดีๆ อีกมากมายได้ที่ http://www.tnews.co.th

"หลวงพ่อน้ำฝน" ประกอบพิธีบวงสรวงสวดถอนโบสถ์ ที่วัดห้วยใหญ่  เผย..ข้อสงสัย ทำไมต้องมี "พิธีถอนโบสถ์" ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

 

          จากกรณีเมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ที่ผ่านมา วัดห้วยใหญ่ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี ได้จัดให้มีงานพิธีบวงสรวงสวดถอนโบสถ์ โดย พระครูปลัดสิทธิ์วัฒน์ หลวงพ่อน้ำฝน เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม จ.นครปฐม ประกอบพิธีหุงน้ำมันถอนโบสถ์ พระสงฆ์ ๑๘๕ รูป สวดเจริญพระพุทธมนต์ภายในอุโบสถ พระสงฆ์ ๔ คู่ ทำพิธีสวดถอนพร้อมพระอันดับทั้งหมดทำน้ำมนต์ถอนโบสถ์ หลายคนคงได้ยินคำว่า น้ำมนต์ถอนโบสถ์ ถอนเสมากันมาบ่อยๆ รู้กันในความหมายที่ว่า น้ำมนต์ที่ัขับไล่ปัดเป่าคุณผี คุณคน คุณไสย สิ่งไม่ดีต่างๆ ออกไปจากตัว แต่เรื่องราวความเป็นมาจริงๆ นั้น ไม่มีน้ำมนต์ แต่เป็นแค่การสวดถอนเขตเสมา ยกเลิกที่เก่า และลงมติใช้ที่ใหม่ เท่านั้น

 

"หลวงพ่อน้ำฝน" ประกอบพิธีบวงสรวงสวดถอนโบสถ์ ที่วัดห้วยใหญ่  เผย..ข้อสงสัย ทำไมต้องมี "พิธีถอนโบสถ์" ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

"หลวงพ่อน้ำฝน" ประกอบพิธีบวงสรวงสวดถอนโบสถ์ ที่วัดห้วยใหญ่  เผย..ข้อสงสัย ทำไมต้องมี "พิธีถอนโบสถ์" ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

 

        เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า วัด ถือเป็น นิติบุคคล ประเภทหนึ่ง วัดหนึ่งวัด มีโบสถ์ได้เพียง ๑ หลัง วัดราษฎร์ฺ เรียกเป็นทางการว่า อุโบสถ ไม่มีคำว่าพระนำหน้าวัดหลวงหรือพระอารามหลวง เรียกว่า พระอุโบสถ โบสถ์จะสร้างได้ต้องได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา จากพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ยกให้เป็นพุทธอาณาจักร แต่ในทางพระวินัย คณะสงฆ์ต้องมีการประชุมพระสงฆ์ ตั้งญัตติและหารือ ลงความเห็นว่า จะยกเว้นเขตโบสถ์เดิม และอนุมัติพื้นที่ใหม่สร้างโบสถ์

        เพียงแต่การหารือและตั้งญัตติ ต้องกล่าวเป็นภาษาบาลี เรียกว่า กรรมวาจาสอนถอนติจีวราวิปวาสและสมานสังวาสสีมา เป็นการแจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงการถอนและการตกลงพื้นที่กำหนดนิมิตให้เป็นโบสถ์ โดยสมบูรณ์ และคำกรรมวาจาหรือบทสวดนี่ละครับ ที่ ถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ เพราะถอนเขตเสมาไ้ด้ ก็ต้องถอนสิ่งไม่ดีต่างๆได้หมด เวลาที่พระสงฆ์ประกอบสังฆกรรมถอนเขตหรือยกเลิกเขตเสมาพื้นที่เก่า ถ้ามีนำน้ำไปไว้ในเขตเสมานั้นก็ถือกันว่าเป็นน้ำมนต์ถอนเสมา ดีทางถอดสิ่งไม่ดี อัปมงคล ที่เกิดกันคนเราให้ออกหมดไป

        เนื้อแท้ของที่มา ไม่ได้ต่างอะไรจากการที่คนเรานำพระเครื่องไปใส่บาตร นาคตอนบวชพระ ด้วยเข้าใจว่า คนยังบวชเป็นพระพระสวดญัตติ พระเครื่องถ้าเสื่อมหรือจะเพื่อความขลัง สวดญัติฯแล้ว จะขลังดังเดิมหรือยิ่งกว่า ส่วนคาถาถอนโบสถ์ ถอนเสมา ก็คัด ตัดตอนมาจากบทสวดหารือของพระสงฆ์ เพียงแต่พระเกจิอาจารย์ท่านมีสมาธิจิต เสกคาถา ว่าอาคม จนน้ำมนต์ขลัง เพราะฉะนั้นเรื่องน้ำมนต์ถอนโบสถ์ ถอนเสมา จึงมีสองนัย

๑. น้ำมนต์ที่ได้จากสังฆกรรม ถอนโบสถ์กันจริงๆ ทำกันที่เขตโบสถ์จริงๆ มีพระสงฆ์ร่วมเป็นสักขีพยานจริงๆ นับร้อยรูป ถือเป็นน้ำมนต์ที่ผ่านพิธีกรรมที่ถูกต้องตามวิันัย

๒. น้ำมนต์ฺที่พระเกจิอาจารย์ภาวนาคาถาถอนโบสถ์ ถอนเสมา ในกุฎิท่าน แล้วทำให้กับเรา ถือว่าขลังตามแต่เกจิอาจารย์นั้นจะร่ำเรียนมา แต่โดยเนื้อแท้แล้ว ความหมายคือ ยกเลิกเขตเก่า เพื่อไปกำหนดเขตใหม่ คาถาหลายๆบท ท่านถึงไม่ให้แปล แปลแล้วเป็นธรรมะ หรือคำหารือ ทั้งนั้น อย่างคาถาไล่ผี "คัจฉะ อมุมหิ โอกาเส ติฎฐาหิ ฯ" จริงๆ ก็คือ คำบอกให้เณรไปยิืนหน้าประตูโบสถ์ตอนบวชพระ ประมาณว่า "เธอจงออกไปยินตรงโน่น" หรือ "จงออกไป"  ไล่ผีได้แล้ว

"หลวงพ่อน้ำฝน" ประกอบพิธีบวงสรวงสวดถอนโบสถ์ ที่วัดห้วยใหญ่  เผย..ข้อสงสัย ทำไมต้องมี "พิธีถอนโบสถ์" ที่หลายคนไม่เคยรู้มาก่อน !!

 

คาถาถอนโบสถ์ ถอนเสมา

 สะมุหะเนยยะ สะมุหะนะติ สะมุหะโต สีมาคะตัง พัทธะเสมายัง สะมุหะนิตัพโพ เอวัง เอหิ ฯ

นะเคลื่อน โมถอน พุทคลอน ธาเคลื่อน ยะเลื่อนหลุดหาย ฯ

 
           คาถาบทนี้ ให้ใช้เสกน้ำมนต์เอารดอาบแก้กระทำย่ำยีทุกชนิดทั้งคุณผีแบะคุณคน เสน่ห์ยาแฝด แก้ลมเพลมพัด ฝังรูป ฝังรอย ใช้เสกแป้งพอกถอนคุณออกสิ้น ถอนแก้กระทำได้ทุกประการ จะถอนหรือจะเรียกเข้าไข่ หรือเรียกใบบอนได้ทั้งสิ้น เสกไพลฝนทา แก้ปวดบวมสารพัด พระคาถานี้สุดแต่จะใช้ในการถอนแก้ได้ทั้งปวงแล ฯ

 

 

 

 

ขอบคุณข้อมูลจาก : เพจ วัดห้วยใหญ่