นายกลุงตู่ สั่งลุย !! จัดแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ ให้เสร็จปี 2562  ขณะที่ สนทช.เตรียมชงงบบูรณาการแก้น้ำท่วม-แล้งทุกลุ่มน้ำเข้าครม.สัญจร

ติดตามข่าวสารได้ที่ www.deepsnews.com

น่าสนใจกับการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ กนช. นัดแรก ซึ่งพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี บอกว่าได้มีการพิจารณาแผนแม่บทโครงการสำคัญ ปี 2561-2565โดยนายกรัฐมนตรีมอบหมายให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ หรือ สทนช. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันบูรณาการเพื่อแก้ไขปัญหาและบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ให้เสร็จตามเป้าหมายภายในปี 2562 ทั้งในด้านการแก้ปัญหาน้ำอุปโภคบริโภค น้ำในด้านการผลิตทางด้านการเกษตรและอุตสาหกรรม การป้องกันน้ำท่วม และป่าต้นน้ำ

พร้อมกันนี้ ได้จัดตั้งคณะกรรมการขึ้น 4 คณะ ได้แก่ คณะกรรมการวิเคราะห์ติดตามสถานการณ์น้ำ คณะกรรมการการพัฒนาแหล่งน้ำขนาดใหญ่ คณะกรรมการการจัดทำยุทธศาสตร์บริหารจัดการน้ำ และคณะกรรมการกลั่นกรองวิเคราะห์ผลการทำงาน

สำหรับแนวทางแก้ปัญหาภัยแล้งและน้ำท่วมในปีนี้ พลเอกฉัตรชัย ระบุว่า ในปีนี้มีการพยากรณ์อากาศว่าประเทศไทยจะเข้าสู่ปรากฎการณ์ลาณิญ่า ซึ่งจะส่งผลให้มีฝนตกมากกว่าปีที่ผ่านมา และจะประสบภาวะฝนทิ้งช่วงในช่วงปลายปี ซึ่งสทนช. จะบูรณาการข้อมูลข่าวสารทุกหน่วยงานมาไว้ที่สทนช. ตั้งแต่เดือนนี้เป็นต้นไป เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงข้อมูลและวางแผนติดตามการพร่องน้ำและระบายน้ำทุกเดือน ส่งนการรับมือปัญหาภัยแล้ง พลเอกฉัตรชัยมั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการน้ำได้ในเขตพื้นที่ชลประทาน แต่เขตนอกชลประทานมีแผนจะให้ใช้น้ำบาดาล ยืนยันจะบริหารจัดการให้ดีที่สุด เชื่อว่าจะดีขึ้นกว่าทุกปี

ขณะที่ นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.) บอกว่า ได้วางกรอบการทำงานปี 2561 เพื่อขับเคลื่อนแผนงานโครงการตามแผนยุทธศาสตร์ฯได้ทั้งระบบโดยใช้งบเพิ่มเติมปี 2561 ในแผนงานโครงการ 3 ส่วน ที่นำเข้าครม.สัญจร จันทบุรี-ตราด วันที่ 5-6 ก.พ.คือ

1.สทนช.ได้พิจารณาโครงการที่มีความพร้อมทั้งพื้นที่และประชาชนซึ่งสามารถดําเนินการได้ใน 7 เดือน ซึ่งมีโครงการผ่านการพิจารณา 216 โครงการ วงเงิน 4,212 ล้านบาทเมื่อดําเนินการแล้ว จะเพิ่มน้ำได้ 25.72 ล้าน ลบ.ม. และ มีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 898,499 ไร่ 2.งบประมาณปี2562 ซึ่งได้ผ่านคณะกรรมการพิจารณาจัดทํางบประมาณฯ บูรณาการฯน้ำ แล้วเมื่อวันที่ 24 ม.ค.  วงเงิน 128,784 ล้านบาท  

และ3.แผนงานโครงการขนาดใหญ่ เป็นโครงการเพื่อแก้ไขปัญหาสําคัญของทุกภาคในระยะ 20 ปี ซึ่งจะเริ่มปีนี้ในภาคเหนือ เช่น การแก้ปัญหาน้ำท่วม น้ำแล้งลุ่มน้ำยมทั้งระบบ การพัฒนาบึงขนาดใหญ่ บึงบอระเพ็ด-บึงสีไฟ ภาคกลาง เช่น การป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำเจ้าพระยาเต็มระบบ และภาคอีสาน เช่น การเพิ่มแหล่งน้ำต้นทุน ได้แก่ การผันน้ำป่าสัก-ลําตะคอง การผันน้ำห้วยหลวง และภาคตะวันออก เช่น การเพิ่มน้ำต้นทุนเพื่อเกษตร-อุตสาหกรรม การป้องกันน้ำท่วมลุ่มน้ำปราจีนบุรี และ การป้องกันน้ำทะเลรุก และภาคใต้ เช่น การป้องกันน้ำท่วมพื้นที่เกษตร-ชุมชนเมือง ได้แก่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี และ ชุมพร

ส่วนที่จะเสนอครม.สัญจร  จ.จันทบุรี- ตราดมี 3 โครงการ คือการบริหารจัดการเพิ่มน้ำรองรับระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก หรือ อีอีซี  ให้เพียงพอทุกกิจกรรม และโครงการบรรเทาอุทกภัยเมืองชัยภูมิ วงเงิน 3,440 ล้านบาท ซึ่งเมื่อดําเนินการเสร็จแล้ว จะลดน้ําท่วมนาข้าวได้ ปีละ 20,000 ไร่, ส่งน้ำช่วยพื้นที่เพาะปลูกในฤดูฝนได้ 18,610 ไร่ ในฤดูแล้งได้ 1,850 ไร่ และสนับสนุนน้ำอุปโภคบริโภคได้ 5 ตําบล 17 หมู่บ้าน 11,824 ครัวเรือน โครงการพัฒนาแหล่งน้ำแบบบูรณาการ พื้นที่ 6 ตําบล อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี จํานวน 2 โครงการคือ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยซับใต้ และ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำบึงบัวหลวง (ทะเลวังวัด) วงเงินรวม 14.12 ล้านบาท โดยจะเสนอ ครม. ขอรับการสนับสนุนงบกลางปี โครงการพัฒนาแหล่งน้ำแบบบูรณาการ พื้นที่ 6 ตําบล อ.ท่าหลวง จ.ลพบุรี จํานวน 2 โครงการ คือ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำห้วยซับใต้ และ ขุดลอกอ่างเก็บน้ำบึงบัวหลวง (ทะเลวังวัด) วงเงินรวม 14.12 ล้านบาท

นายกลุงตู่ สั่งลุย !! จัดแผนแม่บทการบริหารจัดการน้ำ ให้เสร็จปี 2562  ขณะที่ สนทช.เตรียมชงงบบูรณาการแก้น้ำท่วม-แล้งทุกลุ่มน้ำเข้าครม.สัญจร


///////_/