- 09 ก.พ. 2561
ติดตามข่าวเพิ่มเติม Facebook : Deeps News
จากกรณีที่ภายหลังเจ้าหน้าที่กองบังคับการกองปราบปราม ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลหลักฐานบางส่วนของคดีหวย 30 ล้านอลเวง ที่ก่อนหน้านี้ก็ยังไม่ได้คำตอบที่ชัดเจน เนื่องจากผลการแถลงข่าวทั้งของทางนิติวิทยาศาสตร์ และ เจ้าหน้าที่ตำรวจของกองบัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 ก็ดูเหมือนว่าจะขัดแย้งกัน จนนำไปสู่คำสั่งการโอนย้ายคดี กลับไปยังกองบังคับการกองปราบปราม และใช้เวลาเพียงไม่นาน เจ้าหน้าที่ก็ได้หลักฐานชิ้นสำคัญคือ คลิปเสียงบทสนทนาระหว่าง ครูปรีชา และ แม่ค้าหวย ตามที่นำเสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดภายหลังจากที่เมื่อวานนี้ (8 ก.พ.) ในโลกออนไลน์มีการแชร์คลิปเสียงที่อ้างว่าเป็นเสียงสนทนาระหว่างครูปรีชากับแม่ค้าลอตเตอรี่รายหนึ่ง ซึ่งในเนื้อหาการพูดคุยระบุว่าตนไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 เพียงแค่ถูกหวยใต้ดินเท่านั้น โดยภายหลังคลิปดังกล่าวถูกเผยแพร่ได้มีชาวเน็ตเข้ามาวิพากย์วิจารณ์กันเป็นจำนวนมาก ขณะเดียวกันวานนี้ ทีมข่าวรายการทุบโต๊ะข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพักของ นางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือ “เจ๊บ้าบิ่น” แม่ค้าลอตเตอรี่ที่อ้างว่าขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้ครูปรีชา ซึ่งเจ้าตัวพยายามปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ ก่อนจะยอมเปิดเผยว่า คลิปเสียงดังกล่าว เป็นการติดตามว่า ลอตเตอรี่ชุดที่ถูกรางวัลอยู่ที่ครูปรีชาหรือไม่ เพราะว่าลอตเตอรี่หายไป ซึ่งตนก็ไม่มั่นใจว่าจะอยู่ที่ครูปรีชาหรือไม่
ส่วนคลิปที่พูดเรื่องการแบ่งเงิน 15 ล้านบาท ตนพูดกับตนอื่น ไม่ใช่ครูปรีชา แต่ไม่ขอบอกว่าเป็นใคร เพราะกำลังอยู่ระหว่างการติดตามตัวคนพูด ทั้งนี้ทีมข่าวสอบถามว่า การสนทนาดังกล่าว ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งที่อัดเสียงขณะโทรศัพท์เอาไว้ ซึ่งเจ๊บ้าบิ่น ยืนยันว่าตนไม่ทราบ ก่อนที่เจ้าตัวจะขับรถจักรยานยนต์ออกจากบ้านไป อ้างว่าจะไปทำบุญ
ทางด้าน นายสันติ ขันเครือ ลูกชายของ “เจ๊บ้าบิ่น” กล่าวว่า คนที่โทรศัพท์มาหาแม่ตน และคุยเรื่องส่วนแบ่ง 15 ล้านบาทไม่ใช่ครูปรีชา น่าจะเป็นเพื่อนแม่โทรมาแซว หลังมีข่าวลอตเตอรี่หาย โดยเป็นการพูดเล่นกันว่า ถ้าเจอลอตเตอรี่ชุดดังกล่าว จะขอแบ่งเงิน 15 ล้านบาท โดยส่วนตัวยังไม่ได้ฟังเสียงในคลิปดังกล่าว
ส่วนกรณีที่มีกระแสข่าวว่า แม่ของตนเป็นคนหาพยาน ที่เห็นการซื้อขายลอตเตอรี่นั้น ยอมรับว่าตนไม่ทราบ เพราะแม่ไม่เคยเล่าให้ฟัง โดยก่อนหน้านี้ตนบอกกับแม่ตลอดว่า ไม่ต้องเข้าไปยุ่ง เพราะกลัวแม่จะเข้าไปเสี่ยง จนเกิดคดีความขึ้นกับตัวเอง
ส่วนกรณีที่มีการพูดคุยกับครูปรีชา แล้วอัดเสียงไว้นั้นตนไม่ทราบ และไม่รู้ว่าโทรศัพท์แม่ สามารถอัดเสียงอัตโนมัติได้หรือไม่ พร้อมยอมรับว่า สภาพจิตใจแม่ค่อนข้างเครียดกับกระแสข่าวที่ออกมา เนื่องจากไม่เป็นความเป็นจริง แต่กลับโดนสังคมโจมตี นายสันติ ลูกชายของ “เจ๊บ้าบิ่น” เปิดใจอีกว่า แม่ของตนเพียงออกมาพูดตามความจริง ในฐานะคนขายลอตเตอรี่และไม่มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งจนถึงวันนี้แม่ยังไม่ได้ออกไปขายขนมบ้าบิ่น เพราะเครียด
ส่วนทิศทางคดีนี้ เหมือนจะกลับไปทางฝั่งลุงจรูญ ซึ่งหากอีกฝ่ายชนะคดี และแจ้งความดำเนินคดีกับแม่ ตนยอมรับว่า ทางบ้านคงจะไม่มีเงินที่จะไปสู้คดี ทั้งนี้เจ้าหน้าที่กองบังคับการปราบปราม ได้เรียกแม่ไปสอบแล้ว ตั้งแต่วันแรกที่มีการโอนคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้มาสอบสวนที่ สภ.เมืองกาญจนบุรี
ด้าน น.ส.พัชริดา พรมตา หรือ “เจ๊พัช” ผู้ค้าลอตเตอรี่ ที่อ้างว่า ขายลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 ให้กับ เจ๊บ้าบิ่น กล่าวว่า ไม่ขอให้ข่าว เพราะทนายสั่งห้ามไม่ให้นักข่าวสัมภาษณ์ โดยเปิดเผยข้อมูลว่า เมื่อวานที่ผ่านมากองปราบฯ เข้ามาถ่ายภาพที่บ้านเป็นหลักฐาน แต่ยังไม่ได้สอบปากคำตน
อย่างไรก็ตามเมื่อวานนี้ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ ไม่ได้ไปสอนหนังสือที่โรงเรียนเทพมงคลรังษี ทีมข่าวจึงเดินทางไปยังบ้านพัก พบว่ามีรถยนต์จอดอยู่ภายในบ้าน แต่เมื่อทีมข่าวกดกริ่ง กลับไม่มีใครออกมาพบ จึงโทรศัพท์ไปสอบถาม โดยครูปรีชา ยอมรับว่าตนลาป่วยพักอยู่บ้านญาติ ขอยืนยันว่า คลิปเสียงตนไม่ทราบ เพราะไม่เคยฟัง เนื่องจากเหตุการณ์ผ่านนานมาแล้ว ตนจำไม่ได้ อยากให้คนที่นำข้อมูลดังกล่าวมาเปิดเผยส่งคลิปมาให้ตนฟัง และโทรศัพท์ของตนก็ไม่มีโปรแกรมอัดเสียง
ส่วนข้อมูลที่ระบุว่า เจ๊บ้าบิ่นเป็นคนหาพยานที่เป็นเจ้าหน้าที่ด้านกระบวนการยุติธรรม เห็นการซื้อขายลอตเตอรี่ระหว่างตนกับเจ๊บ้าบิ่นนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะตนไม่ได้พบเจ๊บ้าบิ่น อีกเลยในช่วงที่ผ่านมา
สำหรับกรณีที่ ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิด โพสต์เฟสบุ๊กขอให้กองปราบฯ สอบปากคำตนเป็นคนแรก และเตรียมนำคำให้สัมภาษณ์ที่ตนออกสื่อมาหักล้าง เพราะแต่ละครั้งมักจะพูดไม่ตรงกันนั้น ครูปรีชา มองว่า เป็นความคิดเห็นของอีกฝ่าย คงต้องปล่อยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นผู้สรุปคดี
